ตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวย

 

 

ตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวย

รวมคำถามและปัญหาการเทคฮอร์โมน ทั้งแบบฉีดและทาน สำหรับสาวประเภทสอง เกย์ ครอสเดรส CD (Crossdresser) เพศหลากหลาย จะอัพเดทเรื่อยๆค่ะ

ปัจจุบันน้องๆเข้าถึงยา แอบซื้อ แอบใช้ฮอร์โมนกันเยอะมากๆ และเทคผิดๆโดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากค่ะ

เราศึกษาจากเว็บไซต์เป็นความรู้ได้ แต่อย่างไรการใช้ฮอร์โมน น้องๆต้องพบแพทย์ ปรึกษาเภสัชกรนะคะ พี่หมวยให้คำแนะนำเบื้องต้น เป็นการส่งต่อความรู้ ตักเตือนไม่ให้ใช้กันผิดๆ เสมือนพี่สาวสอนน้องสาว อย่างไรหนูต้องพบแพทย์ ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เอาตัวเราเข้าระบบให้ถูกต้องนะคะ


ยาฮอร์โมนทุกอย่างเป็นยาอันตรายหมด มีทั้งขอดีและข้อเสีย ประชากรสาวประเภทสอง / เกย์ / CD / เพศหลากหลาย ฯลฯ ก็มีเพิ่มมากขึ้นมากมาย ล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นต้องเทคยา แม้รู้ว่ายาจะอันตราย ไปพบหมอก็จ่ายยาเหมือนๆกันกับที่เราเทคก็ตาม (อาทิ แอนโดรคัวร์ โปรกีโนว่า) แต่บางครั้งน้องๆหลายคนเทคแล้วรู้สึกไม่โอ ก็สรรหาตัวอื่นมาเทค กลับรู้สึกเข้ากับร่างกายตัวเองมากกว่า ตอบโจทย์ดีกว่า ราคาถูก บ้างก็เทคตามเพื่อน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหา การให้ความรู้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ให้รู้จักวิธีการเทคยา ข้อดีข้อเสียของยา อันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร ผลข้างเคียงของยาในระยะยาว เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างมีความสุข เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ ตามเวลา การตอบสนอง ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละบุคคล ปัจจัยการใช้ชีวิต ฯลฯ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ เทคยาให้เหมาะกับวัยเรา หากเทคเยอะก็ต้องพักตับพักร่างกายให้ถูกต้องตามความหลากหลายของการเทคยา แม้การเทคยาให้ถูกต้อง ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ก็ตาม แต่ประชากรเพศหลากหลายก็มีมากมาย อีกทั้งยังเทคกันตั้งแต่อายุไม่มาก ซึ่งน้องๆวัยรุ่นก็จะยังไม่คิดถึงจุดนี้ ไม่มีความรู้ด้านนี้ และไม่มีใครคอยเตือนคอยแนะนำ เทคมั่วๆ เทคผิดๆ เทคเยอะแยะหลากหลายไปหมด ปัญหาและภาวะต่างๆจึงเกิดขึ้น ในวัยรุ่นอาจจะยังไม่สตรองพอ อยากให้ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะต่างๆตามมา อาทิเช่นภาวะทางร่างกาย และภาวะของอารมณ์ จิตใจ เป็นต้น และโรคร้ายตามมา แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยากอยู่ดีค่ะ เพราะผู้ปกครองไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ เพราะฉะนั้นตัวน้องๆเองต้องใส่ใจศึกษาเอาไว้ หลายๆท่านไม่ตรวจร่างกาย ไม่ตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อปรับยาให้ถูกต้องกับตัวเราเอง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น ปัญหาต่างๆที่กล่าวมาก็วนเวียนอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้นการให้ความรู้ให้มากที่สุด คือสิ่งที่พี่หมวยอยากให้ลูกสาวได้ศึกษาเป็นความรู้ไว้ เพื่อประโยชน์อันสูงสุดแก่ลูกสาวทุกๆท่านค่ะ "เราจะสวยไปด้วยกัน" สวยอย่างผู้มีความรู้ สวยแล้วสุขภาพก็ต้องดีด้วยค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

ปัจจุบันฮอร์โมนมีราคาถูก หาซื้อง่ายขึ้น แค่มีเงินก็หาซื้อมาได้ แต่ถ้าจะซื้อกับพี่หมวย มีเงินอย่างเดียวไม่ได้นะคะ ต้องมีความรู้มาด้วย เพราะหลายๆท่านจะโดนพี่หมวยดุ นั่นเพราะพี่หมวยอยากให้เราได้ดี และมีความรู้ โดยที่ไม่ต้องให้ใครมาว่าเราได้ ว่าห่วงสวย บำรุงสวย แต่ไม่บำรุงสมอง บทเรียนจากหลายๆคนที่ต้องรักษาตัวเองไปตลอดชีวิตก็มีให้เห็นมากมาย เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาว่าเราได้ค่ะ จำคำสอนพี่หมวยนะคะ เทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง ให้เหมาะกับเรา เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย อย่างมีความสุข พอใจเท่าที่ได้ รู้จักข้อดี ข้อเสียของยา ปัจจัยและภาวะต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามเทค รู้จักผลข้างเคียง ควบคุมอารมณ์ เรียนรู้และเอาชนะมันค่ะ เทคยาแล้วต้องสตรอง แก้ไขมันอย่างฉลาด กว่าจะสวยมันไม่ได้มาง่ายๆเลย อย่าให้มันชนะเราค่ะ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน มิใช่ฮอร์โมนใช้เราค่ะ

กรณียาคุมก็เช่นกันค่ะ สำหรับสาวประเภทสองทานได้ค่ะ แต่ให้เป็นเพียงแค่ช่วงวัยรุ่นพอนะคะ เพราะเคมีของยาเป็นระดับที่เหมาะกับร่างกายผู้หญิงและตัวเคมีที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการตั้งครรภ์โดยยับยั้งการตกไข่ ฯลฯ แม้สำหรับสาวประเภทสองน้องๆลูกสาวลูกเจี๊ยบ เราสามารถเทคยาคุมเหล่านี้ได้ก็ตาม และส่วนใหญ่จะได้ผลดีกันมาก และราคาถูก เข้าถึงง่าย เป็นที่ชื่นชอบ อย่างไรพี่หมวยแนะนำให้เทคเป็นแค่การการปูพื้นในช่วงวัยรุ่นเพื่อมาต่อยอดเป็นยาที่ใช้ในการข้ามเพศแทนนะคะ โดยส่วนใหญ่ยาคุมจะให้ผลออกมาดีมาก เพราะเราเทคตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วัยรุ่น และสามารถต่อยอดไปแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า หรือเอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจล ฯลฯ สูตรอื่นๆ หรือไปจนถึงฉีดได้ หลายท่านพบว่าจะยิ่งสวยขึ้น พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปได้ไวมาก แต่ข้อเสียของทั้งยาทานและยาฉีดก็มีมากเช่นกันค่ะ ซึ่งอันตรายมากๆเลยนะคะ โดยยาคุมถ้าเราเทคตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น จะมีโอกาสเสี่ยงกับมะเร็งเต้านมได้นะคะ ซึ่งต้องไปตรวจเลือด ตรวจระดับฮอร์โมน ตรวจร่างกาย ซักประวัติ ฯลฯ ซึ่งน้องๆวัยรุ่นก็จะยังไม่คิดถึงจุดนี้ ไม่มีความรู้ด้านนี้ และไม่มีใครคอยเตือนคอยแนะนำ เพราะฉะนั้นต้องเทคอย่างผู้รู้นะคะ เทคให้เป็น เทคอย่างพอดีค่ะ ซึ่งยาคุมเทคในระดับ 1 เม็ดคือระดับที่ดีและปลอดภัยระยะยาวที่สุดค่ะ (ห้ามเพิ่ม 2 เม็ดเด็ดขาดเลยนะคะ เราจะไม่นำมาเปรียบเทียบกับฮอร์โมนเพศหญิงล้วนนะคะ เพราะการปล่อยฤทธิ์ยาไม่เท่ากัน) แค่ 1 เม็ดก็มีความเสี่ยงมากพอแล้ว และรักษาสุขภาพตัวเองให้มากค่ะ ควบคุมอารมณ์ ต้องไม่มีภาวะและปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามเทค และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพราะหากยิ่งเทคร่วมกับแอนโดรคัวร์ด้วย ในวัยรุ่นอาจจะยังไม่สตรองพอ อาจจะมีผลต่อการเรียน อารมณ์ ร่างกาย และภาวะอื่นๆเยอะมาก ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะ จริงๆยาคุมพี่หมวยไม่อยากแนะนำให้น้องๆใช้กันเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะทั้งราคาถูก หาซื้อง่าย การแสดงผลโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์น้องๆได้ดี ใช้กันตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเข้าถึงง่าย ในเมื่อห้ามยากก็จำเป็นต้องสอนให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง และเรามีหน้าที่ต้องรับรู้ถึงอันตรายและระวังค่ะ โดยน้องๆสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เมนู "อธิบายการใช้ยาคุมในสาวประเภทสอง" ค่ะ

ฮอร์โมนไม่ใช่ทุกอย่าง (ใช้มันให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างผู้รู้ อย่างพอดี อย่างมีวินัย อย่างระวัง อย่างมีความสุข และพอใจเท่าที่ได้) แต่การมีชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นโรค มันคือสิ่งที่ดีที่สุด เทคยาต้องคิดถึงวันที่เราแก่ตัวไปด้วยนะคะ สวยในแบบที่เราเป็น พอใจเท่าที่ได้ ตามวัยของเรา มีความสุขกับสิ่งที่เป็น ออกกำลังกาย ฟิตหุ่นให้ดี สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ทานอาหารที่มีประโยชน์ รับสารอาหารให้ครบ บำรุงตัวเอง เป็นคนดี น่ารัก คิดดี ทำดี จิตใจดี ควบคุมอารมณ์ ฯลฯ มองให้อยู่เหนือปัญหา เมื่อมีความรู้แล้วเราก็สามารถนำไปบอกต่อ สอนเตือนเพื่อนๆเราต่อได้อีกด้วย เป็นการส่งต่อความรู้อันเป็นจุดประสงค์หลักของพี่หมวย ที่แหล่ะสวยอย่างแท้จริง แล้วอย่าลืมสวยแล้ว สุขภาพก็ต้องดีด้วยค่ะ

อย่าลืมนะคะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเรา อายุ การดูดซึม ปัจจัยของตัวยาเอง ระดับในการใช้ ระยะเวลาในการเทค กรรมพันธุ์ DNA ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ปัจจัยต่างๆ รวมถึงปัจจัยในการดำรงชีวิตประจำวัน ฯลฯ เราเห็นคนนั้นคนนี้ เทคสูตรนั้นสูตรนี้แล้วสวย เปลี่ยนไปมาก นมมา ผิวมา สะโพกมา ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองต่อยา ฯลฯ ปัจจัยต่างๆแต่ละคนแตกต่างกัน เลือกเทคให้เหมาะกับเราและปรับใช้ค่ะ และอย่าลืมที่พี่หมวยสอนไว้นะคะ "เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย อย่างมีความสุข พอใจเท่าที่ได้" พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ มีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ


1. ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง อันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร ทั้งแบบฉีดและทาน หรือทั้งฉีดและทาน และอื่นๆ

2. เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เรา ไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค

3. เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี เทคอย่างมีความสุข และพอใจเท่าที่ได้

4. การตอบสนองแล้วแต่คน ร่างกาย ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI ตัวยา ปริมาณยา อายุ การดูดซึม กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไปตามกาลเวลาค่ะ

5. พักตับ พักร่างกาย คืนธรรมชาติให้ตัวเอง ประเมินการพักตับตามความหลากหลายของการเทคยา เทคหลากหลาย เทคเยอะ เทคสูงๆ หรือทั้งทานทั้งฉีด มีวิตามิน อาหารเสริมใดๆบ้าง อายุ วัยของผู้เทคยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

6. ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องแม่นยำเหมาะกับเราที่สุด

7. ตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้ง  เพื่อเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันโรค เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้

8. พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ มีวินัยและรู้จักผ่อนปรน ออกกำลังกาย สร้างภูมิต้านทาน รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ควบคุมอารมณ์ ค่อยๆแก้ไข เรียนรู้และเอาชนะมันค่ะ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุขนะคะ และไม่กดดันใดๆค่ะ ต้องเก่งและสตรองค่ะ


สำหรับอธิบายทำความเข้าใจการใช้ยาคุมในสาวประเภทสอง / อธิบายทำความเข้าใจการใช้ยาฮอร์โมนสมุนไพรกับการตรวจวัดระดับฮอร์โมน / อธิบายทำความเข้าใจการใช้ฮอร์โมนเพศหญิงเดี่ยวๆโดยไม่ใช้ตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย พี่หมวยแยกไปบทความใหม่นะคะ โดยกดอ่านที่เมนูได้เลยค่ะ

– อธิบายก่อนเริ่มเทคฮอร์โมน พี่หมวยเป็นคนอย่างไร สโลแกนพี่หมวยมีว่าอย่างไร

– สูตรเทคยามีอย่างไรบ้าง ?

– อธิบายคุณสมบัติของยาทานและผลข้างเคียงแต่ละตัวค่ะ

– อธิบายคุณสมบัติของยาฉีดแต่ละตัวค่ะ

– เริ่มต้นฉีดฮอร์โมนยังไง ?

– เริ่มต้นควรฉีดอะไรดี ?

– ตรวจวัดระดับฮอร์โมนที่ไหนบ้าง ?

– การฉีดฮอร์โมนแบบ ซ้ำ สลับ เสริม ฉีดอย่างไร ?

– ข้อห้ามของผู้ที่จะเทคฮอร์โมน มีอะไรบ้าง ?

– ข้อเสียของการเทคฮอร์โมน (ทั้งแบบฉีดและทาน)

– ทำไมเทคฮอร์โมนแล้ว อารมณ์ขึ้นๆลงๆ อารมณ์แปรปรวน รวมไปถึงอารมณ์ต่างๆ เหวี่ยง วีน โมโหง่าย หงุดหงิดง่าย ฯลฯ ?

– อายุ 25+ เทคยาทันไหมคะ ? หรือ อายุมากแล้วเทคฮอร์โมนทันไหมคะ ?

 อายุเท่านั้น เท่านี้ หรืออายุมากแล้วอยากเทคยา จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เยอะไหม หรือจะเห็นผลไหมคะ ?

– เทคแอนโดรคัวร์ 50 mg. กับ 100 mg. อย่างไร ?

– ทานแต่แอนโดรคัวร์อย่างเดียวได้ไหมคะ ?

– ข้อเสียของยาแอนโดรคัวร์ มีอะไรบ้าง ?

– ฉีดและกินด้วย จะมีผลเสียอะไรไหมคะ ?

 อยากผอม อยากสวย อยากหุ่นดี อยากมีนม มีสะโพก อยากผิวสวย อยากนั่น อยากนี่ ทำอย่างไรดี ?

– ผลิตภัณฑ์ LDB คืออะไร ? ข้อห้ามทาน ผลข้างเคียงมีอย่างไรบ้าง

– ผลิตภัณฑ์ ละมุนนี "Lamoonni" คืออะไร ?

– แอนโดรคัวร์ ต่างกับ ละมุนนีอย่างไร ?

– ฉีดเอสตร้า + โปรลูตอน ยังไง ? แล้ว ซ้ำ สลับ เสริม ต้องฉีดอย่างไรคะ ?

– ดูโอโทน และ ฟีโนกีนอน เอฟ คืออะไร และฉีดอย่างไร ?

– อันตรายของยาคุมลาว (ยาคุมจีน) หรือวิตามินอกอึ๋ม คืออะไรคะ ?

– ฉีดกับทานแบบไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน หรือแบบไหนดีกว่ากันคะ ?

– อยากลดกล้าม ทำอย่างไร ?

– พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา เป็นอย่างไร ?

– ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จะต้านยาไหมคะ ?

– เทคยาแล้วจะเอ๋อไหมคะ ถ้าฉีดฮอร์โมนแล้วจะทำให้เราเบลอมึนงงไหมคะ ?

– เทคยาตัวนั้นตัวนี้แล้วจะอ๊องยาไหม เอ๋อไหม เบลอ มึนงงไหมคะ ?

– ฉีดหรือทานฮอร์โมน ห้ามทานแตงกวาหรือแอลกอฮอล์ไหมคะ ?

– ฉีดหรือทานฮอร์โมน แล้วช่วยตัวเองได้ไหมคะ ?

– การเทคโปรกีโนว่า 2 mg. หลายเม็ด อันตรายนะคะ

– โปรกีโนว่า กับ ไซโคลโปรกีโนว่า Progynova (โปรไกโนว่า) กับ Cyclo-Progynova (ไซโคลโปรไกโนว่า) ต่างกันยังไงเหรอคะ ?

– ทำไมเทคฮอร์โมนช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้น ทำไมบางคนยุบลง ?

– ช่วงลดน้ำหนัก ต้องหยุดเทคฮอร์โมนไหมคะ ?

– การเริ่มต้นเทคยาที่ผิด

– โปรลูตอนอินเดีย กับเยอรมันต่างกันยังไงเหรอคะ ?

– ต้องฉีดตลอดไปไหมคะ ?

– กินหรือฉีดตัวไหนเห็นผลเร็วสุดคะ / ตัวไหนนมตู้มสุดคะ ?

– ทำไมเป็นก้อนๆตรงบริเวณที่เราฉีด จะเป็นอะไรไหมคะ ? และวิธีการฉีดที่ถูกต้องค่ะ

– ทำไมฉีดฮอร์โมนแล้ว ไอ สำลัก ได้กลิ่นยา หรือหายใจติดๆขัดๆ ?

– ทำไมเทคฮอร์โมนแล้วรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเห็นผลเลยคะ ?

– ทำไมรู้สึกว่ามันบีบรัด และปวดแสบปลายอวัยวะเพศ บางครั้งก็เจ็บด้วย มันคืออะไรเหรอคะ ? การขลิบเจ็บไหม หากขลิบแล้วแปลงเพศความสวยจะน้อยลง

– อยากแปลงเพศค่ะ แปลงเพศดีไหมคะ ?

– แปลงเพศแล้ว จำเป็นต้องเทคฮอร์โมนไหมคะ แล้วถ้าไม่เทคจะมีผลเสียอย่างไร ?

– แปลงเพศแล้ว ต้องเทคฮอร์โมนอย่างไร ?

– แปลงเพศแล้ว ยังจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์อีกไหม ?

– ทำไมแปลงเพศแล้วขนขึ้นเยอะ จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ไหมคะ ?

– ท้องผูก รวมถึงแปลงเพศแล้วท้องผูก หรือแปลงเพศแล้วถ่ายไม่ออก ทำยังไงดีคะ ? พี่หมวยจะมาสอนวิธีรักษาให้หายถาวรค่ะ

– ทำนม ทำหน้าอก แล้วเทคฮอร์โมนอย่างไรคะ ?

– ฉีดฮอร์โมนแล้วทานเสริมอีกได้ไหมคะ ?

– ทำไมบางคนฉีดหรือทานฮอร์โมนถึงเป็นสิว ?

– เทคฮอร์โมนแล้วอ้วนขึ้น ทำยังไงดีคะ ?

– คือหนูไม่สบายแล้วต้องทานยาพาราลดไข้ หนูยังสามารถเทคยา แอนโดรคัวร์+โปรกีโนว่า ได้ตามปกติไหมคะ ?

– ฉีดดูโอโทน แล้วผอมลงมาก หน้าตอบ มีแต่คนทักว่าซูบลงมาก ฉีดฮอร์โมนตัวไหนทำให้อ้วนขึ้นดีคะ ?

– ผอมมาก เทคแอนโดรคัวร์ไม่ได้ ทำยังไงดีคะ ?

– ABORA "แอ๊บออร่า" ผลิตภัณฑ์เพื่อความขาวใส คืออะไร ?

– อยากได้สะโพก ทำยังไงคะ ?

– อยากซอฟ ตัวนิ่ม มีนม แล้วก็อยากฉีดด้วยค่ะ

– อยากฉีดแบบไม่เร่ง ทำยังไงบ้างคะ ?

– เห็นเพื่อนๆฉีดกัน อยากฉีดตาม อยากสวยเหมือนเขาบ้างค่ะ

– เห็นเพื่อนฉีดดูโอโทน แล้วนมใหญ่มาก จะฉีดตัวนี้ต้องฉีดอย่างไร และครั้งละกี่หลอดคะ ?

– ตอนนี้เทคยา แอนโดรคัวร์ + นีน่าอยู่ ถ้าหนูจะฉีด DUOTON FORT จะเป็นไรไหมคะ ?

– หนูไม่รู้จะเริ่มฉีดอะไรสลับกับอะไรดีค่ะ ?

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน กับ ดูโอโทน อันไหนได้นมมากกว่ากัน ?

– ฟีโนกีนอนเอฟ + เอสตร้า (หนูเคยเห็นรีวิวลูกค้าพี่หมวยเทคสูตร ฟีโน+เอสตร้า นม ผิวมาไวมาก อยากเทคเหมือนเขาได้ไหมคะ)

– ฉีดฮอร์โมนแล้วจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์หรือโปรกีโนว่าไหมคะ ?

– ทำไมถึงฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน สลับ เอสตร้า + โปรลูตอน เหรอคะ ?

– ปูพื้นด้วยการฉีดฟีโนฯอยู่ ต้องเสริมตัวไหนบ้าง ถึงจะได้รูปร่างที่ดีและสวย

– ผู้หญิงทานแอนโดรคัวร์ได้ไหม ?

– ผู้หญิงฉีด โปรกีนอน โปรลูตอนได้ไหม ?

– ผู้หญิงทานตัวไหนได้บ้าง ?

– เทคยาแล้ว จำเป็นต้องหยุดพักตับไหมคะ ?

– ทำไมเห็นบางคนฉีดแค่หลอดเดียวคะ ?

– ทานแอนโดรคัวร์ โปรกีโนว่า + ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน แล้วเพิ่มเอสตร้าได้ไหมคะ ?

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน เดือนละครั้งได้ไหมคะ ?

– ฉีดฮอร์โมนแล้วยังรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน เดือนละ 2 ครั้ง ต้องเทคยาอย่างไรคะ ?

– ฉีดแต่โปรกีนอน โปรลูตอน แล้วเอสตร้าคืออะไรคะ ?

– ฉีดเดือนละครั้งได้ไหมคะ ?

– ฉีดดูโอโทนสลับเอสตร้าได้ไหม แล้วผสมกันจะดีหรือเปล่าคะ ?

– การตอบสนองของหนูไม่ค่อยดีเลยค่ะ (การตอบสนองของแต่ละคน)

– YAZ กับ YASMIN อันไหนดีกว่ากัน และคำถามที่ว่า ไดแอน ออยเลส เมอซิลอน แอนนา วันเดย์ Cilest Marvelon มาร์กาเร็ต Meliane อาร์เด็น ฯลฯ อันไหนดีกว่ากันคะ ?

– ขอสูตรแรงๆได้ไหมคะ อยากเห็นผลเร็วๆค่ะ ?

– หยุดเทคยาแล้วจะกลับมาเหมือนเดิมไหมคะ ?

– estra ต่างกับ oestra อย่างไร ?

– อธิบายวิตามินซีชนิดฉีด

– ฉีดวิตามินซีแล้วจะขาวไหมคะ ?

– น้องๆหลายๆท่านปรึกษาพี่หมวยเรื่องทำศัลยกรรมต่างๆใดๆต้องหยุดยาฮอร์โมนไหม ต้องหยุดเทคยาไหม ?

 

สำหรับตอบคำถามเกย์

 

– สอนการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์

– อธิบายสรุปการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์

– สรุปวิธีเทคฮอร์โมนในเพศเกย์ เป็นเกย์ต้องเทคฮอร์โมนอย่างไร

– การเทคแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าเกย์ ทั้ง 5 สูตร

– การเทคสมุนไพร LDB + ละมุนนี ในเพศเกย์

– การเทคไม่เอานม

– เป็นเกย์อยากเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง แต่ไม่อยากได้นม เทคยังไงดีคับ ?

– สรุปการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์แบบสั้นๆและเข้าใจง่ายที่สุด สำหรับคนขี้เกียจอ่านค่ะ

– กินยาคุมมาหลายเดือน หยุดกินผ่านมาเป็นปีแล้วความรู้สึกทางเพศก็ยังไม่กลับมาเหมือนเดิม ไปหาหมอก็ยังไม่ดีขึ้น ทำอย่างไรดีคับ ?

– ไม่อยากได้นม ฉีดแต่โปรลูตอนได้ไหม อยากได้ผิวสวยๆ อยากได้หุ่นเหมือนหญิง แต่ไม่อยากได้นม ฉีดอย่างไร ?

 

ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ พี่หมวยเป็นคนอย่างไร สโลแกนพี่หมวยมีว่าอย่างไร ?

 

1. เชื่อพี่ค่ะพี่จะสอนน้องเอง

2. เราจะสวยไปด้วยกัน และต้องสวยอย่างปลอดภัย สวยแล้วสุขภาพก็ต้องแข็งแรงด้วยค่ะ แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจค่ะ

3. ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเรา ร่างกาย ค่า BMI อายุ การดูดซึม ปัจจัยของตัวยาเอง ระดับในการใช้ ระยะเวลาในการเทค กรรมพันธุ์ DNA ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ปัจจัยต่างๆ รวมถึงปัจจัยในการดำรงชีวิตประจำวัน ฯลฯ และต้องไปมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ เราเห็นคนนั้นคนนี้ เทคสูตรนั้นสูตรนี้แล้วสวย เปลี่ยนไปมาก นมมา ผิวมา สะโพกมา ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองต่อยา ภาวะต่างๆ ฯลฯ แต่ละคนแตกต่างกัน เลือกเทคให้เหมาะกับเราและปรับใช้ค่ะ และอย่าลืมที่พี่หมวยสอนไว้นะคะ "เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างมีความสุข เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย และพอใจเท่าที่ได้" พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ

4. การเทคยาจะส่งผลถึงอารมณ์ พยายามควบคุมตัวเองค่ะ ทำใจให้สบาย "เทคยาอย่างมีความสุข เทคอย่างเข้าใจ เทคแล้วดูแลตัวเอง จงเรียนรู้ รู้เขารู้เรา เข้าใจ และเอาชนะมันค่ะ"

5. การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

6. อยากให้เราเทคเป็น เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ อยากให้เราเทคอย่างผู้มีความรู้ และเราต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย กินยานะคะ ไม่ใช่กินขนม ยาพวกนี้อันตราย มีข้อดีข้อเสีย หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินค่ามาตราฐาน เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะฉะนั้นต้องเทคอย่างผู้มีความรู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีความสุข อย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักยาที่จะเอาเข้าร่างกาย พี่หมวยจะบอกเสมอๆว่าถ้าเราไม่ศึกษามาก่อน เราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง พี่หมวยไม่ได้ขายยานมโตนะจ้ะ แต่พวกนี้เป็นยาฮอร์โมนเพื่อเข้ามากระตุ้น มากดมาเสริม แม้มันจะมาเร่งผิวเร่งนม รวมไปถึงสรีระเราได้ก็ตาม ฯลฯ แต่มันจะพัฒนาเราไปตามกาลเวลา การตอบสนอง ฐานและระดับฮอร์โมนเพศของเราที่หน้าอก รวมไปถึงต้นทุน กรรมพันธุ์ DNA ความแมนของแต่ละบุคคล ปัจจัยต่างๆ ฯลฯ พอเราไม่มีความรู้เราก็จะไม่เข้าใจอันใดเลย แล้วจะถามเช่น ทำไมกินยาแล้วนมไม่ใหญ่คะ ? มียาตัวไหนกินหรือฉีดแล้วนมตู้มสุดคะ ? กินตัวไหนเห็นผลเร็วสุดคะ ? เห็นผลกี่วันคะ ? มียาคุมลาวไหมคะ ? อยากลดกล้ามค่ะ อยากหน้าหวานค่ะ อยากสวยค่ะ ฯลฯ น้องจะโดนพี่หมวยดุค่ะ

7. พวกนี้ไม่ใช่ยาที่จะมาถามว่ากินกี่วันเห็นผลคะ สูตรไหนนมโตสุดคะ ? หนูเสพติดโฆษณาต่างๆมากไปหรือเปล่าคะ เราเทคฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายเรามีฮอร์โมนเข้ามาพัฒนาตัวเองให้เป็นหญิงไปตามกาลเวลา ค่า BMI อายุ การดูดซึม การตอบสนอง กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นหญิง ไปตามกาลเวลา และตอบโจทย์ของหัวใจ ไม่ใช่กินเพื่อกี่วันเห็นผลนะคะ แล้วดูว่าเรามีการตอบสนองที่ดีไหม สูตรไหนโอกับเราที่สุดค่ะ มีผลข้างเคียงอะไรไหม และต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

จะไม่สามารถตอบได้ว่าสูตรไหนดีกว่าสูตรไหน หรือใช้คำว่าเห็นผลกี่วันก็เช่นกัน พวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งตัวยาเอง ตัวยาที่เหมาะกับเรา สูตรเทคยาต่างๆ ร่างกาย การตอบสนองของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ การกินอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความแมนของแต่ละคนก็เช่นกัน ซึ่งแตกต่างกัน รวมไปถึงความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ปัจจัยอื่นๆ ต่างๆมากมาย ล้วนมีผลต่อการประเมินผลหมดค่ะ

เพราะฉะนั้น เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างมีความสุข และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

 

น้องๆหลายคนถามว่า ทาน/ฉีด สูตรไหนดีคะพี่หมวย ?

 

ตอบ : ก่อนอื่นเราจะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายและการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด/ทาน สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีด/ทาน แล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ แต่ต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัยนะคะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ อย่างไรควรพบแพทย์เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนของเราจะดีที่สุดค่ะ เพื่อปรับฮอร์โมนได้อย่างถูกต้องค่ะ และตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่า เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างมีความสุข และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

 

สูตรเทคยามีอย่างไรบ้าง ?

 

การเทคยาฮอร์โมนสำหรับสาวประเภทสองนั้นเราจะเทคเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามกาลเวลา หลักการเทคนั้นเราต้องลดฮอร์โมนชายและเสริมฮอร์โมนหญิงตามกลไก เพื่อเร่งพัฒนาสรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขน รวมไปถึงหน้าตาและดูอ่อนหวานขึ้น สรีระละเมียดละไมไปทางสตรีเพศ และแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ ขอเพียงเทคให้ถูกต้อง และหากมีการตอบสนองที่ดี ก็อาจจะส่งผลให้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ค่อยๆดูไปตามการตอบสนองของเราต่อสูตรนั้นๆนะคะ โดยทุกๆสูตรจะมีโอกาสได้หมดตามที่บอกค่ะ แต่อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจด้วยค่ะ ว่าการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน อายุ ปริมาณยา ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยการใช้ชีวิต และอื่นๆแตกต่างกัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพรด้วยนะคะ

โดยกลไกของการเทคยาหลักๆของสาวประเภทสองเลย สำหรับกรณีที่ยังไม่แปลงเพศ

1. ลดฮอร์โมนเพศชาย (ลดขน สิว ผิวมัน หุ่นซอฟ ตัวนิ่ม สลายกล้าม) (อย่าให้ระดับฮอร์โมนต่ำเกินไป)
2. เสริมฮอร์โมนเพศหญิง (สรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ) 
(อย่าให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินไป)

เพื่อพัฒนาและเอื้อซึ่งกันและกันให้เราเป็นสตรีเพศมากที่สุด เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทค
อย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

กรณีแปลงเพศแล้วจะเทคเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเดียวค่ะ อ่านเพิ่มเติมที่คำถามแปลงเพศแล้วเทคฮอร์โมนอย่างไรค่ะ

 

อธิบายคุณสมบัติของยาทานและผลข้างเคียงแต่ละตัวค่ะ

 

แอนโดรคัวร์ (Androcur) = ยาลดฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดอันเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ลดกล้าม ลดขน ลดสิว ผิวมัน หน้ามัน เมื่อกล้ามลดก็จะช่วยให้แลดูซอฟขึ้น เป็นยาเคมีที่แรง ผลข้างเคียงทำให้เสียงแหบ อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ อารมณ์หงุดหงิดง่าย แปรปรวน เจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ซึม เศร้า ร้องไห้ คิดแต่แง่ลบ หดหู่ ขี้น้อยใจ ฯลฯ รวมไปถึงผมร่วงในระยะแรก ผิวไวต่อแสงแดด สมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ หากเทคเยอะ เทคนาน เทคผิดๆ ก็จะเสี่ยงต่อตับสูงด้วย และที่สำคัญเมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกทำลายงูก็ตายได้ค่ะ ความต้องการทางเพศลดลง มากน้อยแล้วแต่ปริมาณยาและระดับฮอร์โมนเพศแต่ละคนๆไป มีโอกาสที่จะมีขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น การเจริญเติมโตของเส้นผมเพิ่มขึ้น ผมดกและหนาขึ้น ฯลฯ และยังมีโอกาสทำให้มีบุตรยากจนถึงมีโอกาสเป็นหมันได้ค่ะ

โปรกีโนว่า, โปรไกโนว่า (Progynova) = ยาเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ผิวพรรณนวลขึ้น ผ่องขึ้น เร่งพัฒนาหน้าอก ผิวพรรณ สรีระ (หุ่น อก เอว สะโพก) มีผลต่อเม็ดสีเช่นหัวนม ผิว และปลายอวัยวะเพศได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เป็นต้น

เอสโตรเฟม (Estrofem)เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกับโปรกีโนว่า แต่เป็นอีกฟอร์มหนึ่ง (โครงสร้างทางเคมี hemihydrate 2 mg.) มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน ยกตัวอย่าง อาทิเช่น บางท่านทานโปรกีโนว่าผิวพรรณดีขึ้น แต่พบว่าอารมณ์แปรปรวนได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ฯลฯ เป็นต้น หรือมีผลข้างเคียงต่างๆที่ไม่ปลื้ม ก็สามารถเปลี่ยนมาทานเอสโตรเฟม แล้วประเมินผลตอบสนองดูนะคะ อาจจะมีข้อดี เด่น ด้อย ผลตอบสนอง ผลข้างเคียงแตกต่างกันไป และผลข้างเคียงดังกล่าวก็พบได้ในเอสโตรเฟมเช่นกัน อย่างไรเลือกตัวที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เราค่ะ เอสโตรเฟมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น้องๆหลายท่านชอบมากค่ะ

เอสโตรเจล (Oestrogel) = เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกันกับโปรกีโนว่าและเอสโตรเฟม แต่เป็นชนิดทา ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดรับประทานหรือฉีดหรือแผ่นแปะไม่ได้ เช่น มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับ มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มดลูก เส้นเลือดสมองแตก หรืออุดตัน เป็นต้น หรือสะดวกที่จะทามากกว่า เอสโตรเจล ผลิตออกมาใน รูปของเนื้อเจล ใช้ทาซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังผ่านกระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะไม่ผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ตับ และไม่สูญสลายเนื่องจากการถูกทำลายจากวิตามินซีในระบบย่อยอาหาร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์หลายๆท่านได้ดีค่ะ มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน บริเวณหัวนม และปลายอวัยวะเพศได้ ผลข้างเคียงคล้ายคลึงกันกับโปรกีโนว่า และเอสโตรเฟมเช่นกันค่ะ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เป็นต้น

ละมุนนี (Lamoonni) = 
ยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ร่างกายไม่อาจนำฮอร์โมนเพศชายไปใช้กับเนื้อเยื่อเป้าหมายได้สมบูรณ์ ต้านฤทธิ์ของแอนโดรเจน ทำให้ลักษณะเด่นแบบเพศชายลดลง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของ พิกัดตรีผลา ที่สามารถบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัวได้ เป็นต้น

แอลดีบี (LDB) = 
ยาสมุนไพรเสริมฮอร์โมนเพศหญิง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวแลดูผ่อง ดูขาวใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวลอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ หน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ ช่วยเร่งพัฒนาหน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้นได้ เต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นไม่อ้วนขึ้น อีกทั้งยังบำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นต้น

ไดแอน (Diane) / พรีม (PREME) / นีน่า (Nina) / ซูซี่ (Sucee) / Beriz บีริส / OC-35 / ลอร่า-35 Laura-35 (ชื่อเดิม เลดี้-35) / เดอมูท (Dermooth) / มาโนแอน (Manoane) / แดฟเน่35 (Dafne35) ฯลฯ = กลุ่มนี้เป็นยาคุมอีกกลุ่มนึง มีฮอร์โมนร่วมที่มีคุณสมบัติทั้งลดฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง (Cyproterone acetate + Ethinyl estradiol หรือ EE) โดดเด่นเรื่องผิวพรรณ หน้าอก ลดขน ลดสิว ฯลฯ แต่คุณสมบัติลดกล้ามนั้นมีน้อยเกินไปค่ะ มีฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง ซึ่งพี่หมวยไม่แนะนำเด็ดขาดค่ะ จริงๆยาคุมพี่หมวยไม่อยากแนะนำให้น้องๆใช้กันเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะทั้งราคาถูก หาซื้อง่าย การแสดงผลโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์น้องๆได้ดี ใช้กันตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเข้าถึงง่าย ในเมื่อห้ามยากก็จำเป็นต้องสอนให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง และเรามีหน้าที่ต้องรับรู้ถึงอันตรายและระวังค่ะ และถ้าเลิกใช้ได้ก็เลิกค่ะ ระยะยาวมีผลเสียมากค่ะ

ยาคุมกลุ่มนี้ตัวยาเดียวกันหมดค่ะ เหมือนกันค่ะ ประกอบด้วย Cyproterone acetate 2 mg. และ Ethinyl estradiol 0.035 mg. (EE) พวกนี้จะมีระดับเอสโตรเจน EE ที่เป็นเคมีสังเคราะห์ (0.035 มิลลิกรัม) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง จึงทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล หน้าอกคัด ส่วน Cyproterone acetate จะเป็นตัวที่มีช่วยลดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายได้ จึงช่วยลดอาการหน้ามัน ผมมัน ผมร่วง ขนดก สิว มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวจากฮอร์โมนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวเห่อรุนแรง แต่การมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง ก็อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เวียนหัว ปวดศีรษะ คัดเต้านม และยังอาจมีอาการบวมน้ำได้ในบางราย (น้ำหนักเพิ่มขึ้น) นั่นเองสำหรับสาวประเภทสองอาจจะปลื้มเพราะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น โดยกลไกอันเกิดจากการเริ่มเป็นไต และพัฒนาต่อมไขมันที่หน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้น ส่วนมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ตัวยา ระดับฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศที่บริเวณฐานหน้าอกของเราค่ะ

สำหรับสูตรเทคหลักๆจะเทคได้ตามนี้ค่ะ

สูตรที่ 1. ซูซี่ (หรือพรีม) วันละเม็ด (ห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาด)
สูตรที่ 2. แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 3. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 4. แอนโดรคัวร์ + LDB
สูตรที่ 5. แอนโดรคัวร์ + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 6. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเจล
สูตรที่ 7. ละมุนนี + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 8. ละมุนนี + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 9. ละมุนนี + LDB
สูตรที่ 10. ละมุนนี + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 11. ละมุนนี + เอสโตรเจล
สูตรที่ 12. แอลดีบี + ซูซี่ (หรือพรีม)

สูตรเทคซ้ำซ้อน หรือหลากหลาย หรือรวมฤทธิ์กัน อาจจะไม่แนะนำ ไม่ทุกคนเทคแล้วจะให้ผลดีค่ะ ต้องประเมินระดับการเทค อาการข้างเคียงด้วยนะคะ

สูตรที่ 13. แอนโดรคัวร์ + LDB + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 14. แอนโดรคัวร์ + LDB + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 15. แอนโดรคัวร์ + LDB + เอสโตรเจล
สูตรที่ 16. แอนโดรคัวร์ + LDB + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 17. แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า + เอสโตรเจล
สูตรที่ 18. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเฟม + เอสโตรเจล
สูตรที่ 19. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + LDB
สูตรที่ 20. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + เอสโตรเจล
สูตรที่ 21. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 22. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 23. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 24. ละมุนนี + LDB + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 25. ละมุนนี + LDB + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 26. ละมุนนี + LDB + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 27. ละมุนนี + LDB + เอสโตรเจล

ส่วนสูตรฉีดก็จะมี (ไม่แนะนำให้ฉีดเป็นอย่างยิ่งค่ะ)

สูตรที่ 1. โปรกีนอน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้งค่ะ)
สูตรที่ 2. เอสตร้า + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้งค่ะ)
สูตรที่ 3. ดูโอโทน (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 4. ฟีโนกีนอนเอฟ (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หากต้องการฉีด 2 หลอด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 5. เอสตร้า + ดูโอโทน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 6. เอสตร้า + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 7. ดูโอโทน + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 8. ดูโอโทน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 9. ฟีโนกีนอนเอฟ + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)

- กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านเพลีย อวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

ส่วนสูตร 4 ตัวขึ้นไป อาทิ แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า + ละมุนนี + LDB (หรือใช้เอสโตรเฟม และ/หรือ เอสโตรเจลเข้ามาผสมหรือเข้ามาแทนในสูตรร่วมนี้) การเทคหลากหลายไม่แนะนำค่ะ สูตร 4 ตัว บางรายการสามารถเทคได้ แต่อาจจะไม่จำเป็น ต้องประเมินระดับการเทค อาการข้างเคียงด้วยนะคะ ไม่แนะนำค่ะ

ปล. ซูซี่ / ไดแอน / พรีม / นีน่า / Beriz บีริส / OC-35 / Laura-35 ลอร่า-35 (ชื่อเดิม เลดี้-35) / Dermooth (เดอมูท) / มาโนแอน / แดฟเน่35 (Dafne35) ฯลฯ ตัวยาเดียวกันหมดค่ะ เหมือนกันค่ะ ประกอบด้วย Cyproterone acetate 2 mg. และ Ethinyl estradiol 0.035 mg. (EE) พวกนี้จะมีระดับเอสโตรเจน EE ที่เป็นเคมีสังเคราะห์ (0.035 มิลลิกรัม) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง (ห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาด) จึงทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล หน้าอกคัด ส่วน Cyproterone acetate จะเป็นตัวที่มีช่วยลดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายได้ จึงช่วยลดอาการหน้ามัน ผมมัน ผมร่วง ขนดก สิว มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวจากฮอร์โมนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวเห่อรุนแรง แต่การมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง ก็อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เวียนหัว ปวดศีรษะ คัดเต้านม และยังอาจมีอาการบวมน้ำได้ในบางราย (น้ำหนักเพิ่มขึ้น) นั่นเองสำหรับสาวประเภทสองอาจจะปลื้มเพราะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น โดยกลไกอันเกิดจากการเริ่มเป็นไต และพัฒนาต่อมไขมันที่หน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้น ส่วนมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ตัวยา ระดับฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศที่บริเวณฐานหน้าอกของเราค่ะ

สำหรับยาคุมสูตร EE อาทิเช่น ซูซี่/พรีม/ไดแอน/นีน่า ฯลฯ ตามข้างต้น แม้จะปลอดภัย แต่ไม่ควรมีปัจจัยเสี่ยงในการเทคยาต่างๆ รวมไปถึงอายุมากขึ้นต้องเลี่ยงค่ะ เพราะผลข้างเคียงและข้อเสียของยาคุมกลุ่มนี้มีเช่นกัน และเราเทคกันนานมีโอกาสส่งผลต่อหลอดเลือดอุดตันได้ พี่หมวยแนะนำให้ไปใช้โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจลชนิดทาแทนจะดีกว่าค่ะ และอาจเสริมสมุนไพร LDB หรือละมุนนีร่วมกันก็ได้ แต่ต้องประเมินอาการข้างเคียงด้วยนะคะ เทคยาให้เหมาะกับวัยของเรานะคะ ต้องไม่มีข้อห้าม รวมถึงภาวะและปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ และแพทย์ไม่แนะนำให้อายุเกิน 35 ใช้ยาคุม เพราะเสี่ยงต่อหลอดเลือดดำอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ 
ซึ่งถ้าไปอุดตันที่สมองหรือหัวใจอันนี้จะอันตรายอย่างมากค่ะ และห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาดค่ะ เคมี EE สูงถึง 70 ไมโครกรัม อันตรายมาก เตือนเลยนะคะ

- โปรกีโนว่ากับยาคุมไม่ควรทานร่วมกันค่ะ ไม่ควรทานเคมีเอสโตรเจนหลากหลาย และรวมฤทธิ์กันสูงไป จะทำให้อ้วน บวม คล้ำขึ้น และในหลายๆคน ทำให้ผมร่วงได้ค่ะ

- กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านอวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

- สำหรับยาสมุนไพร LDB และละมุนนี ใช้เป็นตัวเสริมฮอร์โมนร่วมจากยาตัวหลักนะคะ แต่ต้องประเมินว่าใช้เสริมร่วมแล้วจะทำให้บวมไหม อวบอ้วนขึ้นไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ อันเนื่องมากจากฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น

- การมีตัว LDB + โปรกีโนว่า (หรือเอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจล หรือร่วมกันหลากหลายในสูตรใดๆ) ร่วมกัน ฮอร์โมนเพศหญิงรวมฤทธิ์กันพบว่าในบางท่าน บวมได้ อวบอ้วนขึ้นได้ (เอสโตรเจนสูงอาจจะทำให้หน้ามืดวิงเวียนได้) อาการข้างเคียงอื่นๆ ฯลฯ ให้ประเมินแอลดีบีที่ 1 แคปซูลก่อนค่ะ เพื่อประเมินว่าแพ้สมุนไพรไหม มีอาการข้างเคียงใดๆไหม

- แต่อย่างไรคนที่แพ้สมุนไพรเช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน ทานแล้วรู้สึก เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย คัน ผื่นขึ้น ปวดหัว ฯลฯ ก็มีนะคะ และผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่างๆก็เป็นข้อควรระวังและข้อห้ามในการทานเช่นกันนะคะ โดยน้องๆต้องเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงและอันตรายของทั้งยาสมุนไพรและยาเคมี และรายละเอียดต่างๆที่เว็บไซต์พี่หมวยในส่วนของเมนูตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวยด้วยนะคะ

- ทั้งสูตรทานและสูตรฉีด หรือใช้ร่วมกัน ทุกๆ 4-6 เดือน พักตับ 2-4 อาทิตย์ค่ะ แล้วแต่กรณีๆไปค่ะ เพราะต้องประเมินว่าเทคอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เทคหลากหลายไหม เทคเยอะไหม เทคสูงๆไหม ฉีดหรือทานหรือทั้งฉีดทั้งทานรวมฤทธิ์กันเยอะไหม และมีวิตามิน อาหารเสริมอะไรอีกไหม อายุ วัยของผู้เทคยา แล้วการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

- กรณียาฉีด พี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดมันอันตรายมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ และเสี่ยงมะเร็งสูง คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรยาทุกตัวก็มีข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของตัวมันเองนะคะ ไม่ว่าจะยาเคมีก็ดีหรือยาสมุนไพรก็ดีค่ะ ยังไงก็เลือกที่เหมาะกับเรา และตอบโจทย์เราที่สุดนะคะ ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของยาอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

ยาพวกนี้เป็นยาอันตรายผู้ใช้มีหน้าที่รับรู้และระวังด้วยค่ะ

ส่วนยาคอนจูเกท เอสโตรเจน (Conjugated estrogen) ในพรีมาริน หรือ เอสโตรม่อน พวกนี้จะวัดระดับฮอร์โมนจากยาได้ยาก ถ้าใช้ต้องให้แพทย์ประเมินนะคะ


ส่วนสูตรทานอื่นๆปรับใช้เป็นกรณีๆไปค่ะ และพี่หมวยจะมาสอนอีกทีค่ะ

 

อธิบายคุณสมบัติของยาฉีดแต่ละตัวค่ะ

เริ่มต้นควรฉีดอะไรดี ?

 

การเทคยาฮอร์โมนสำหรับสาวประเภทสองนั้นเราจะเทคเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามกาลเวลา หลักการเทคนั้นเราต้องลดฮอร์โมนชายและเสริมฮอร์โมนหญิงตามกลไก เพื่อเร่งพัฒนาสรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขน รวมไปถึงหน้าตาและดูอ่อนหวานขึ้น สรีระละเมียดละไมไปทางสตรีเพศ และแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ ขอเพียงเทคให้ถูกต้อง และหากมีการตอบสนองที่ดี ก็อาจจะส่งผลให้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ค่อยๆดูไปตามการตอบสนองของเราต่อสูตรนั้นๆนะคะ โดยทุกๆสูตรจะมีโอกาสได้หมดตามที่บอกค่ะ แต่อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจด้วยค่ะ ว่าการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน อายุ ปริมาณยา ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยการใช้ชีวิต และอื่นๆแตกต่างกัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพรด้วยนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรกรณียาฉีด พี่หมวยจะเตือนนะคะ ยาฉีดมันอันตรายมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ และเสี่ยงมะเร็งสูง คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ

โปรกีนอน (Progynon) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง โดดเด่นในเรื่องผิวพรรณ หน้าอก สรีระ (อก เอว สะโพก)
โปรลูตอน (Proluton) = ต้านฮอร์โมนเพศชาย เสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม กระตุ้นร่วมกันให้มีผิวพรรณ หน้าอก สรีระที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้ตัวนิ่มลง และมีส่วนช่วยลดกล้ามได้
เอสตร้า (Estradiol Benzoate) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง โดดเด่นในเรื่องลดกล้าม ตัวนิ่ม เน้นผิวพรรณ หน้าอก สรีระ (อก เอว สะโพก)
ดูโอโทน (Duoton Fort) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง + มีส่วนในการช่วยลดฮอร์โมนเพศชาย โดดเด่นในเรื่องผิวพรรณ หน้าอก ตัวนิ่ม ลดกล้าม และได้สรีระ (อก เอว สะโพก)
ฟีโนกีนอนเอฟ (Phenokinon "F") = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง + มีส่วนในการช่วยลดฮอร์โมนชาย โดดเด่นในเรื่องผิวพรรณ หน้าอก ตัวนิ่ม ลดกล้าม และได้สรีระ (อก เอว สะโพก)

โปรกีนอน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Estradiol Valerate 10 mg.
โปรลูตอน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Hydroxyprogesterone Caproate / Hexanoate 250 mg.
เอสตร้า 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Estradiol Benzoate 5 mg.
ดูโอโทน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Progesterone U.S.P. 50 mg. และ Estradiol Benzoate U.S.P. 3 mg.
ฟีโนกีนอนเอฟ 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Progesterone 50 mg. และ Estradiol Benzoate 5 mg.

สำหรับยาฉีดหลักๆจะฉีดได้ตามนี้ค่ะ

สูตรที่ 1. โปรกีนอน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน (เรียก 1 คู่) ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่ค่ะ)
สูตรที่ 2. เอสตร้า + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน (เรียก 1 คู่) ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่ค่ะ)
สูตรที่ 3. ดูโอโทน (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 4. ฟีโนกีนอนเอฟ (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หากต้องการฉีด 2 หลอด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 5. เอสตร้า + ดูโอโทน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 6. เอสตร้า + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 7. ดูโอโทน + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 8. ดูโอโทน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 9. ฟีโนกีนอนเอฟ + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)

ปล.กรณีฉีด 4-6 วันครั้ง ควรให้แพทย์ประเมินนะคะ เพราะหากแมนมาก half life ของยาก็สลายได้เร็วค่ะ

(แบ่งสูตรฉีดออกเป็น 3 สูตร คือ ซ้ำ/สลับ/เสริม ไม่มีเหตุอันจำเป็นไม่แนะนำสลับ หรือ เสริมค่ะ)

คนที่ฉีดแล้วแพ้ คัน ผื่นขึ้น มึน เวียนหัว วิงเวียน คลื่นไส้ อวบอ้วนขึ้น คล้ำขึ้นก็มีนะคะ ฯลฯ ค่อยๆประเมินดูไปนะคะ แล้วค่อยๆปรับค่ะ

กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านเพลีย อวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

สามารถทานยาเสริมร่วมด้วยได้ค่ะ แต่ต้องให้พี่หมวยประเมินเป็นรายๆก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ แต่อย่างไรก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนเพื่อรู้ระดับของเราที่แท้จริงเพื่อที่จะได้ปรับยาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำดีกว่าค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ไม่ให้ฮอร์โมนผิดเพี้ยน ฮอร์โมนแกว่ง เกิดภาวะต่างๆ ฯลฯ เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง และควรตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ

กรณีฉีดแล้วทานด้วย จะแยกออกมาเป็นสูตรต่างๆออกมาเยอะมากๆ ในบางท่าน อาจจะประเมินให้ฉีด 2 อาทิตย์ครั้ง ต้องประเมินเป็นคนๆไปค่ะ ตามระดับ ปริมาณการเทค ร่างกาย ค่า BMI ระดับฮอร์โมนเพศ รวมไปถึงปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค ฯลฯ และต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ แม้หลายๆสูตรจะเทคซ้ำซ้อนได้ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลดีกับทุกคนเสมอไป และมีผลเสียเช่นกันค่ะ ไม่ควรเทคหลากหลายตัว ใช้ยาเยอะ จะมีความเสี่ยงมาก ไม่ว่าจะเรื่องไขมัน หลอดเลือดอุดตัน ฯลฯ เป็นความรู้ที่น้องๆต้องรู้และศึกษาเอาไว้ให้มากๆค่ะ 
และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

ทั้งสูตรทานและสูตรฉีด หรือใช้ร่วมกัน ทุกๆ 4-6 เดือน พักตับ 2-4 อาทิตย์ค่ะ แล้วแต่กรณีๆไปค่ะ เพราะต้องประเมินว่าเทคอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เทคหลากหลายไหม เทคเยอะไหม เทคสูงๆไหม ฉีดหรือทานหรือทั้งฉีดทั้งทานรวมฤทธิ์กันเยอะไหม และมีวิตามิน อาหารเสริมอะไรอีกไหม อายุ วัยของผู้เทคยา แล้วการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนสูงด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

และท้ายสุดนี้ พี่หมวยอยากแนะนำว่า "อย่าไปฉีดค่ะ ไม่ฉีดดีที่สุดค่ะ"

 

เริ่มต้นฉีดฮอร์โมนยังไง ?

 

ในการเริ่มต้นฉีดฮอร์โมนนั้น

1. ให้เราหาคลินิกที่รับฉีดให้เราก่อนนะคะ เป็นคลินิกทั่วไป หรือที่มีบอกว่าวางแผนครอบครัว หรือสูติฯ หรือนามัยก็ได้ค่ะ ฯลฯ แจ้งว่าเป็นฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน ผ่านทะเบียนยา (ถ้าพยาบาลถาม) บางที่อาจจะไม่รับฉีดฮอร์โมนเพศหญิงให้เพศชาย อย่างไรน้องๆก็ค่อยๆหาไปนะคะ

2. เลือกฮอร์โมนที่จะนำไปฉีดค่ะ (หลักๆเราจะฉีดอาทิตย์ละครั้ง)
3. พยาบาลจะฉีดให้เราเข้าที่กล้ามเนื้อเช่น สะโพก เป็นต้น ค่อยๆเดินยาไล่ยาไปนะคะ (ห้ามแอบฉีดเองหรือฉีดเข้าเส้นเลือดเด็ดขาดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะคะ)
4. หลังฉีดเสร็จให้นวดคลึงเบาๆที่สะโพก ประมาณ 2-3 นาที เพื่อไล่ยาให้กระจาย แตกตัว ยาฮอร์โมนในสารละลายน้ำมันจะดูดซึมช้า ร่างกายแต่ละท่านมีการดูดซึมและตอบสนองไม่เหมือนกัน อาจจะทำให้เป็นก้อนได้ ซึ่งเป็นผลจากการฉีดยาตื้นเกินไปเข้าในชั้นใต้ผิวหนัง หรือเกิดจากการฉีดยาจำนวนมากเข้าในกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็ก หลังฉีดพยายามนวดคลึงเบาๆนะคะ และไม่ควรเดินยาเร็วเกินไปค่ะ
5. เริ่มต้นฉีดครั้งแรกให้ฉีดอาทิตย์ละครั้ง 4 เดือนติดต่อกันค่ะ และพักตับพักร่างกาย 2-4 อาทิตย์ การพักขึ้นอยู่กับการเทคเยอะ เทคหลากหลาย เทคสูงๆ อายุ วัยของผู้ใช้ยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ เพื่อประเมินและอาจปรับสูตรต่อไปค่ะ
6. ฉีดอาทิตย์ต่อไปให้สลับข้างฉีดค่ะ เช่น อาทิตย์นี้ฉีดเข้าที่สะโพกขวา อาทิตย์ต่อไปให้ฉีดเข้าที่สะโพกซ้ายค่ะ
7. เก็บยาไว้ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา ไม่แช่ตู้เย็นนะคะ และพ้นแสงแดดค่ะ การแช่เย็นจะทำให้ยาเกิดตะกอน ตกผลึกออกมาได้นะคะ และมันอาจเกิดการแยกตัวของไขมันที่ผสมอยู่ในตำรับยาได้ค่ะ
8. ไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป อันตรายมากนะคะ
9. 
ควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ตรวจวัดระดับฮอร์โมนที่ไหนบ้าง ?

 

ตามคลินิกเฉพาะทาง หรือตาม รพ ที่มีบริการค่ะ ลองค้นดูเอาค่ะ

เท่าที่พี่หมวยได้ข้อมูลจากลูกสาวมา เช่น 
แทนเจอรีน (ไม่ทราบว่าผิดให้บริการไปแล้วยังค่ะ) คลินิกสวิง (บ้านสุขภาพสวิง) ศูนย์สุขภาพฟ้าสีรุ้ง รพ.กมล รพ.ยันฮี BNH รามา พระราม 9 เวชธานี สมิติเวช ฯลฯ

ที่เชียงใหม่ - มูลนิธิเอ็มพลัส เห็นว่าตรวจฟรีนะคะ ตรวจทุกอย่าง HIV ซิฟิลิส ฮอร์โมน ค่าตับ ค่าไต ฯลฯ

สำหรับคลินิกสวิง ลูกสาวให้ข้อมูลมาว่า สีลมลง BTS ศาลาแดง ทางออก 1 เดินเข้าซอยพัฒน์พงษ์ ปิด 19.00 น.

ลูกสาวบอกว่า และมีแทนเจอรีน อยู่กับคลินิกนิรนาม ลง BTS ราชดำริ ต่อวินแปปเดียวค่ะ เห็นว่า
ไปมาแล้วตรวจฟรีค่ะ ตรวจเลือดก็ฟรีค่ะ เปิดจันทร์-ศุกร์ ปิด 14.30 ค่ะ

อย่างไรพี่หมวยไม่ทราบข้อมูลต่างๆ ณ.ปัจจุบันเลยค่ะ อย่างไรน้องๆมีข้อมูลมาอัพเดทแจ้งให้พี่หมวยได้นะคะ

 

การฉีดฮอร์โมนแบบ ซ้ำ สลับ เสริม ฉีดอย่างไร ?

 

พี่หมวยจะแนะนำคร่าวๆพอ ไม่ลงรายละเอียดมากนะคะ แต่ให้น้องๆรู้ไว้เป็นความรู้ที่ควรรู้ แต่ไม่ให้นำไปคิดค้นดัดแปลงต่างๆด้วยตัวเอง เพราะยาพวกนี้เป็นยาที่อันตรายมาก ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และต้องใช้ฮอร์โมนอย่างผู้รู้ค่ะ

การฉีดสูตร "ซ้ำ" นั้น พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองก็ฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน ฉีดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซ้ำๆแบบนี้ไปเรื่อย ฉีดอาทิตย์ละครั้ง อันนี้ถือว่าโอเคค่ะ (ถ้าจะฉีดสูตรนี้พี่หมวยก็โอเคค่ะ แต่อย่างไรไม่แนะนำให้ฉีดจะดีที่สุดค่ะ)

การฉีดสูตร "สลับ" พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สาม เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สี่ เราฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน ฉีดสลับกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ (สูตรนี้เป็นสูตรเก่าแก่โบราณที่รุ่นแม่ๆเคยใช้กัน พี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การฉีดสูตร "เสริม" ให้เรานับ 1 เดือนเป็น 2 รอบ รอบละ 15 วัน พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาวันที่ 5หรือ6. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 10. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 15. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน เรียกว่า 1 รอบนั่นเอง (นั่นก็คือเสริมเอสตร้า 1 หลอดทุกๆ 4-5 วันค่ะ ใน 1 รอบ) จากนั้นพอมาวันที่ 20. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 25. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 30หรือ31 ก็วนหลับมาฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอนค่ะ (สูตรนี้เป็นสูตรเก่าแก่โบราณที่รุ่นแม่ๆเคยใช้กัน พี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การวนแบบนี้เพราะ half life ของโปรลูตอนนั้นจะอยู่ได้ราวๆ 7-10 วันค่ะ (7.8 +-3) ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราด้วยค่ะ เพราะบางคนแมนมาก half life ของยาก็สลายไปได้เร็วค่ะ แต่บางเคสฤทธิ์ยาก็อยู่ได้ 2 อาทิตย์ค่ะ

การเทคสูตรเสริม 1 รอบนั้น ไม่ทุกคนใช้ได้แล้วให้ผลดีค่ะ แตกต่างไปตามร่างกาย ความแมน ระดับฮอร์โมน และการตอบสนองของเรา ว่าเด่นชัดกับกลุ่มไหน เราใช้เพื่อให้ตอบโจทย์เรามากที่สุดค่ะ จึงเอาเข้ามาใช้ทด(เสริมเข้ามาแทรก)ในช่วงนั้นๆ

จริงๆแล้วหากน้องๆได้รู้อย่างนี้แล้ว หลายๆคนก็จะเริ่มแตกแขนงสูตรต่างๆออกไปอีกมากมาย ซึ่งพี่หมวยไม่แนะนำอย่างยิ่ง ให้ฉีดมั่วๆ คิดค้นประดิษฐ์สูตรขึ้นมาเอง แต่ให้เรียนรู้ไว้ เราต้องเป็นผู้รู้ และเมื่อเป็นผู้รู้แล้วก็ต้องตระหนักให้มาก และนำไปสอนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆต่อไป และให้ตระหนักรู้ถึง 3 พึง คือ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยเช่นกัน และการฉีดฮอร์โมนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ข้อห้ามของผู้ที่จะเทคฮอร์โมน มีอะไรบ้าง ?

 

ก่อนใช้ยานั้นมีข้อแนะนำก่อนนะคะ

- ตรวจวัดระดับฮอร์โมน
- ตรวจเต้านมเป็นระยะๆ
- ตรวจร่างกายเป็นระยะๆ
- มีประวัติอาการคันรุนแรง
- มีประวัติมะเร็งของสมาชิกในครอบครัว
- อยู่ในความควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด หากมีภาวะหรือโรคประจำตัวอื่น เช่น อ้วนมาก เบาหวานรุนแรง ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม ตับผิดปกติ ลมชัก หอบหืด มีผื่น แพ้ภูมิตัวเอง เนื้องอก เนื้องอกของต่อมใต้สมอง โรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของหู ตา


สำหรับสาวประเภทสองนั้นจะมีข้อห้ามใช้โดยเด็ดขาด เพราะยาจะเพิ่มโอกาสเกิดอาการต่างๆและ/หรือเพิ่มความรุนแรงของอาการคือ


- ประวัติการแพ้ยาฮอร์โมน
- ประวัติโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น โรคลิ่มเลือดอุดตัน (ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ)
- ประวัติโรคหลอดเลือดผิดปกติ เช่น โรคหลอดเลือดดำอักเสบ
- กำลังเป็นโรคที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือด (หลอดเลือดดำอุดตันจากลิ่มเลือด เส้นเลือดในปอดอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองอุดตัน)
- โรคปวดศีรษะไมเกรน (โรคไมเกรน) ชนิดรุนแรง
- โรคหัวใจบางชนิด เช่น โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคตับบางชนิด เช่น เช่น โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ
- มีภาวะดีซ่าน
- มีเนื้องอก
- โรคมะเร็งเต้านม และ โรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์บางชนิด
- แพ้ส่วนผสมใดๆ ในยานั้นๆ

ข้อห้ามทั่วไป ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา คือ

- ปวดศีรษะไมเกรน (โรคไมเกรน) ชนิดมีอาการไม่มาก
- โรคความดันโลหิตสูงทั่วไป
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจอื่นๆนอกเหนือจากที่กล่าวแล้วในหัวข้อบน
- โรคไต
- โรคไขมันในเลือดสูง
- สูบบุหรี่
- เคยมีประวัติถุงน้ำดีอักเสบ
- มีเลือดอุดตันหรือเคยมี
- มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (เช่นโปรตีน C, โปรตีน S หรือการขาด antithrombin)
- มีเส้นเลือดขอด หรือ หลอดเลือดขอดมาก
- มีอาการปวดที่น่องและขาบวม
- เพิ่งทุเลาจากเส้นเลือดดำอักเสบ และมีก้อนเลือดอุดตันภายใน หรือเพิ่งทุเลาจากเส้นเลือดในปอดอุดตัน
- มีปัญหาทางจิต (โรคจิต) เช่น โรคซึมเศร้า โรคประสาท

 

ข้อเสียของการเทคฮอร์โมน (ทั้งแบบฉีดและทาน)

 

สำหรับการทานฮอร์โมน หรือฉีดฮอร์โมน การตอบสนองของแต่ละคนในด้านลบนั้นจะไม่เหมือนกันทั้งหมด โดยหลักๆแล้ว

1. เสียงแหบ เกิดจากการเทคยาที่มีตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย รวมไปถึงเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม ภาวะความเป็นชายจะถูกทำลายลงไปเสียงที่เคยใหญ่ แมน หนา ก็จะสอดคล้องไปกับฮอร์โมนในร่างกายที่ถูกกดด้วย แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนเสียงได้ แต่ก็จะทำให้แหบลง บางคนแหบลงมาก บางคนก็นิดๆหน่อยๆ แม้การเทคฮอร์โมนจะแลดูเหมือนบังคับองค์รวมให้เป็นหญิงแต่ก็ยังคงเสียงความเป็นชาย ซึ่งต้องดัด หรือบีบเสียงช่วย ซึ่งหลายๆคนเวลาดัดเสียงก็จะออกไปทางเสียงผู้หญิง หรือเสียงผู้หญิงแหบๆ แต่ถ้าไม่ดัดบางคนเสียงก็ยังจะใหญ่ แมน หนาแต่ก็แลดูแหบๆนิดๆได้ เหมือนเช่นเดียวกับกรณีทอมเทคฮอร์โมนเพศชายเสียงก็จะห้าวขึ้น ใหญ่ หนาขึ้น

2.
 การฉีดฮอร์โมนมักจะให้ระดับฮอร์โมนไม่คงที่ ขึ้นๆลงๆ บางทีก็ขึ้นสูง บางทีก็ลงต่ำ ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจและประคองฮอร์โมนให้คงที่ ให้เหมาะกับเรา และไม่อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ต่ำเกินไปค่ะ ตามเกณฑ์ของค่าระดับฮอร์โมนนั้นๆ เทคให้พอดีค่ะ ไม่ควรมากไป ไม่ควรน้อยไป อันจะส่งผลต่ออารมณ์ และอื่นๆ ซึ่งควรมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนค่ะ

3. สิว ฝ้า การเทคยาฮอร์โมนนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย รวมไปถึงความสกปรก และปัจจัยของยาฮอร์โมนด้วย ก็จะทำให้เกิดสิวขึ้นได้ และการเทคฮอร์โมนมีโอกาสทำให้เกิดฝ้าด้วยเช่นกันค่ะ ผิวจะไวต่อแสงแดด ชั้นผิวบางลง พยายามเลี่ยงแดด พยายามดูแลผิวหน้าและป้องกันด้วยนะคะ หรือทานแอลดีบี ละมุนนี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเรื่อง ฝ้า กระ หลายๆท่านที่ทานพบว่าดีขึ้นมาก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้เช่นกันค่ะ

4. น้ำหนักตัว เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกายแล้ว ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ล้วนส่งผลต่อน้ำหนักได้ เพราะกลไกการเปลี่ยนกล้ามเนื้อเป็นไขมัน รวมทั้งจากตัวฮอร์โมนเพศหญิง การลดการเผาผลาญ การกักเก็บไขมัน ภาวะการหิวบ่อย หิวง่าย ทานจุกทานจิก รวมไปถึงท้องผูกตามมาได้

5. อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกาย ตัวที่ต้านฮอร์โมนเพศชาย ภาวะของมวลกล้ามเนื้อจะลดและสลายลง เมื่อกล้ามเนื้อค่อยๆสลายเป็นไขมัน เราก็จะละมุนละไมมากขึ้น และนั่นเอง เพื่อตอบสนองให้เป็นหญิงมากยิ่งขึ้น ก็จะส่งผลให้เราอ่อนแรงลงด้วย เกิดการสะสมของไขมัน ลดการเผาผลาญ แล้วก็อยากอาหารขึ้น แล้วก็จะเพลียง่าย เหนื่อยง่าย ง่วงนอนตลอดเวลา ไม่สดชื่น และอีกทั้งจากกล้ามเนื้อยังส่งผลถึงกระดูก ทำให้ปวดเมื่อย ปวดตัว และเริ่มหนักขึ้นหากมีเสียงดังตามข้อกระดูกต่างๆ ฯลฯ

6. อารมณ์ เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง และผลข้างเคียงของตัวยา เมื่อเรากดฮอร์โมนเพศชายของตัวเองและเสริมฮอร์โมนเพศหญิงแล้วนั้น จะส่งผลให้เรามีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง บางคนหงุดหงิดง่าย โมโหง่าย อารมณ์ขึ้นๆลงๆ จนกลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน คิดมาก หรือไปจนถึงขั้น วิตก หดหู่ คิดแต่แง่ลบ หวาดระแวง ซึมเศร้า ฯลฯ พยายามควบคุมตัวเอง อะไรที่ละได้ก็ละค่ะ เดินทางสายกลาง ทำใจให้สบาย และเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคยาอย่างมีความสุข ค่อยๆแก้ไป "เรียนรู้ เข้าใจ และเอาชนะมันค่ะ"

7. อารมณ์ทางเพศลดลง ยาฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย หรือแม้แต่ในตัวของยาฮอร์โมนเพศหญิงเองเช่นกัน เมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกกดหรือทำลาย อารมณ์ทางเพศก็จะลดลงไปด้วย มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความแมนของแต่ละบุคคล สภาพความแข็งแรงของแต่ละบุคคล การตอบสนอง ปริมาณที่รับยา รวมไปถึงการใช้ชีวิตกระจำวันเช่นกันค่ะ ฯลฯ

8. สมาธิและความจำ การเทคฮอร์โมน หรือในยาบางตัว โอกาสที่จะทำให้เรามีสมาธิที่สั้นลงนั้นมีสูงค่ะ ระยะยาวมีโอกาสที่จะส่งผลให้ลืมง่าย ความจำสั้นลง หรือขี้หลงขี้ลืมก่อนวัย และพบได้มาก เช่น ใจลอย นั่งเหม่อลอย ทำให้ส่งผลต่อการเรียนหรือการอ่านที่เข้าใจได้ยากกว่าคนปกติ และยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงอารมณ์ด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะรุนแรงไปถึงขั้นรู้สึกหดหู่ ก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด คิดเยอะคิดแยะ คิดมาก คิดแต่แง่ลบ หวาดกลัว หวาดระแวง อันจะส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน น้องๆต้องเรียนรู้ เข้าใจ และเอาชนะมันนะคะ ทุกคนเก่งค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างผู้รู้นะคะ

9. ท้องผูก การเทคฮอร์โมนไม่ว่าจะยาคุม ยาฮอร์โมนสังเคราะห์ต่างๆ ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราท้องผูกได้ วิธีแก้นั้นอ่านเพิ่มเติมที่คำถาม "แปลงเพศแล้วท้องผูกต้องทำอย่างไร" พี่หมวยจะสอนรวมกันไว้ในคำถามนี้ค่ะ

10. ผิว เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกายแล้ว ผิวเราจะสวยขึ้น ผ่องขึ้น เนียนนวลขึ้น ละเอียดขึ้นได้ แต่ชั้นผิวเราจะบางลง ส่งผลให้เราแพ้ง่ายขึ้น คล้ำง่ายขึ้น มีอาการอื่นๆตามมา เลี่ยงแสงแดด และหมั่นดูแลสุขภาพผิวค่ะ

11. ผมร่วง ร่างกายการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน การใช้ยาต่างๆ ยาบางตัวต่อร่างกายเรา หรือเทคร่วมกันกับบางตัว หรือระดับฮอร์โมนขึ้นๆลงๆ พบว่าหลายๆท่านผมร่วงได้

12. ภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันลดลง อ่อนแอง่าย การเทคฮอร์โมนต่อเนื่องในระยะยาว โอกาสที่เราจะเป็นภูมิแพ้ง่าย และภูมิคุ้มกันลดลง เราจะอ่อนแอง่าย พยายามดูแลสุขภาพตัวเอง หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ

13. เสี่ยงต่อโรคร้ายแรงต่างๆตามมา ทั้งเกิดจากการเทคเยอะและเทคผิด ไปจนถึงเทคตัว EE มานาน มาเยอะ เทคผิดๆ อาทิ กระดูก เนื้องอก ตับ ไต ความดัน ไขมัน เบาหวาน หัวใจ เส้นเลือดขอด เส้นเลือดอุดตัน เส้นเลือดดำอุดตัน และหากไปอุดตันที่สมอง หลอดเลือดหัวใจ ก็จะอันตรายมาก ฯลฯ ไปจนถึงมะเร็ง การเทคฮอร์โมนมีโอกาสค่ะ หากเทคมาก เทคแรง เทคปริมาณที่สูง และติดต่อเป็นเวลานาน รวมไปถึงมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเสริมเข้ามาร่วมด้วย มีโอกาสกระตุ้นได้เร็วค่ะ

13.1 การเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้

13.2 การเทคฮอร์โมนสูงๆ ต่อเนื่อง (และหากดื่มน้ำน้อยด้วย) จะทำให้หลอดเลือดผิดปกติ เลือดข้น ความดันสูงขึ้น กรณีเป็นความดันนี้จะไม่สามารถเทคฮอร์โมนต่อได้ และต้องทานยาความดันไปตลอดชีวิต

13.3 เตือนเลยนะคะ หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

13.4 บางคนกินยาเคมีมากเกินไปจนบางครั้งคอเลสเตอรอลสูงขึ้น จนทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน และเลยเถิดไปถึงการเป็นลิ่มเลือด ถ้าเป็นหลอดเลือดอุดตันจะเทคตยาต่อไปไม่ได้อีกเลยนะคะ

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา เป็นอย่างไร ?

 

 

เมื่อคิดจะเริ่มเทคฮอร์โมนน้องๆควรต้องมี 3 พึง คือ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ

พึงรู้ = 
เราต้องรู้ว่าเรากำลังเทคอะไร ยาชื่อว่าอะไร มีหน้าที่อะไร ต้องเทคอย่างไร ข้อดีข้อเสียมีอย่างไร รู้ข้อห้ามของยา และผู้ที่ห้ามใช้ยามีอย่างไร ผลข้างเคียงมีอย่างไร เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง บางคนยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าเทคอะไร หรือเทคตามคนอื่น เห็นเพื่อนเทคตัวนั้นตัวนี้ สวยขึ้น หน้าอกใหญ่ ผิวมา สะโพกมา ซอฟขึ้น กล้ามลด หน้าตาหวานละมุนละไมขึ้น ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา ปัจจัยต่างๆแตกต่างกันมากมาย เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจเบื้องต้น และเทคให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ค่ะ

พึงพอ = พอใจเท่าที่ได้ พอใจเท่าที่มี รู้จักพอ และรู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง ถูกจุด เทคในปริมาณที่ถูกต้อง ให้เหมาะกับภาวะและปัจจัยของเรา ไม่ควรเทคมั่วไปหมด เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อน อย่างไม่มีความรู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคให้พอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ คำว่า “พอ” มักจะสวนทางกับน้องๆเสมอ เพราะมัวแต่คิดว่า ต้องเร็ว ต้องแรง ต้องสวยที่สุด ต้องเยอะ ต้องอย่าหยุดสวย เปลี่ยนสูตรเป็นว่าเล่น เทคมั่วไปหมด ผสมกันมั่วไปหมด มันอันตรายมาก เทคให้พอดีแค่นี้ก็สวยได้ และต้องสวยอย่างสุขภาพดี สวยอย่างผู้มีความรู้ โดยไม่ทำร้ายตัวเองในภายภาคหน้า และให้พอใจเท่าที่ได้ ไม่ต้องสวยเหมือนใคร หรือสวยกว่าใคร สวยในแบบตัวของเราค่ะ ทุกคนสวยค่ะ

พึงรักษา = 
การเทคยาต่างๆ ผลข้างเคียงต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เราต้องรู้และเข้าใจจุดนี้ด้วยนะคะ เทควันนี้คิดถึงวันข้างหน้า ทำร้ายร่างกายเราให้น้อยที่สุด เพื่อสุขภาพของเรา การเทคยานานๆ มันมีผลข้างเคียงระยะยาว ผลเสียมีเยอะ เทคให้เป็น เทควันนี้แล้วต้องห่วงถึงวันข้างหน้า แล้วดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆค่ะ รวมไปถึงการพักตับ พักร่างกาย คืนธรรมชาติให้ตัวเองบ้างด้วยนะคะ ในหลายๆกรณีน้องๆสาวประเภทสองจะต้องใช้ยาในระดับที่สูงในการข้ามเพศ น้องๆกลัวเสมอ บ้างก็กลัวว่าพักตับแล้วกลับมาเทคจะไม่เหมือนเดิมบ้าง หยุดยาแล้วจะกลายร่างบ้าง หยุดอัดยาบ้างนะคะ เราควรพักบ้างช่วงสั้นๆ ขอเพียงเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เราเทคยาตามลำดับขั้นตอนมาแล้ว ระดับฮอร์โมนอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว ถึงเวลาเราควรพักร่างกาย พักจากสารเคมีทั้งหลายด้วยนะคะ อันตรายระยะยาวมันมีมาก สวยแล้ว สุขภาพต้องดีด้วย หมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเสมอๆ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน มิใช่ฮอร์โมนใช้เราค่ะ เชื่อว่าทุกคนเก่ง เพราะฉะนั้นต้องรู้จักกลับคืนสู่ธรรมชาติ ให้ร่างกายได้พักบ้าง แล้วกลับมาอย่างสดชื่น สดใส เทคอย่างผู้รู้นะคะ เพราะเรามีแต่จะอ่อนแอลงๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลตัวเองให้ดี ควบคุมอารมณ์ ออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง นอกจากสวยแล้วสุขภาพก็ดีด้วยค่ะ

เพราะฉะนั้น เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคอย่างมีความสุขนะคะ และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

 

ทำไมเทคฮอร์โมนแล้ว อารมณ์ขึ้นๆลงๆ อารมณ์แปรปรวน รวมไปถึงอารมณ์ต่างๆ เหวี่ยง วีน โมโหง่าย หงุดหงิดง่าย ฯลฯ ?

 

การเทคฮอร์โมน ไม่ว่าจะยาสมุนไพร หรือยาเคมี ล้วนส่งผลต่ออารมณ์ทั้งนั้น มากน้อยแล้วแต่ปัจจัยต่างๆอีกทีค่ะ สำหรับสาวประเภทสองที่ยังไม่แปลงเพศจะเทคยาตามสูตร คือ 1. ต้านฮอร์โมนเพศชาย 2. เสริมฮอร์โมนเพศหญิง การที่เรารับฮอร์โมนเข้าร่างกายนั้น เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ผิดไปจากธรรมชาติที่สร้างมา เปลี่ยนจากชายกลายเป็นหญิง โดยต้านฮอร์โมนเพศชายตัวเอง + เสริมฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไป เราก็จะได้ลักษณะทางอารมณ์ของผู้หญิงมาด้วย ไว่ว่าจะด้านอารมณ์ รวมไปจนถึงบางท่านอาจจะกลายเป็นคนกินจุกจิก หิวบ่อย หิวง่ายได้ด้วยเช่นกัน ฯลฯ

อีกทั้ง
เมื่อเริ่มมีฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ในร่างกาย ก็จะส่งผลทำให้มีไขมันไปสะสมบริเวณสะโพก ต้นแขน ต้นขา รวมถึงเต้านม มีผลทำให้สะโพกผายออกไป เต้านมก็ขยายใหญ่ แล้วก็ทำให้มีการกักเก็บน้ำไว้ในเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวล หลายๆท่านก็อวบขึ้น อ้วนขึ้น ต้องมาฟิตหุ่นควบคู่กันไปอีกที ฯลฯ

อีกทั้งเรายังต้านฮอร์โมนเพศชายตัวเราเอง ซึ่งก็จะทำลายระบบต่างๆ อันเป็นกลไกปกติที่ธรรมชาติสร้างไว้ลงไปด้วย ให้ผิดจากธรรมชาติไป ปัญหาต่างๆคราวนี้ก็รุมกันเข้ามาเลยค่ะ

ยกตัวอย่าง ภาวะของอารมณ์ที่เกิดจากการเทคฮอร์โมน ต้านฮอร์โมนเพศชาย + เสริมฮอร์โมนเพศหญิง หลายๆสูตรอาจจะทำให้เรากลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน คิดมาก คิดแต่แง่ลบ หรือไปจนถึงขั้น วิตก หดหู่ หวาดระแวง ซึมเศร้า ฯลฯ

อาทิเช่น แอนโดรคัวร์ ผลข้างเคียงทำให้เสียงแหบ อ่อนแรง อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอดเวลา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ เจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ขี้หงุดหงิด อารมณ์หงุดหงิดง่าย เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไว ขึ้นไวลงไว โกรธง่ายหายเร็ว คิดมาก คิดเยอะ ซึม เศร้า ร้องไห้ คิดแต่แง่ลบ หดหู่ ขี้น้อยใจ ฯลฯ รวมไปถึงผมร่วงในระยะแรก ผิวไวต่อแสงแดด สมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น คิดนั่นคิดนี่ เหม่อลอย ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ หากเทคเยอะ เทคนาน เทคผิดๆ ก็จะเสี่ยงต่อตับสูงด้วย และที่สำคัญเมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกทำลายงูก็ตายได้ค่ะ ความต้องการทางเพศลดลง มากน้อยแล้วแต่ปริมาณยาและระดับฮอร์โมนเพศแต่ละคนๆไป มีโอกาสที่จะมีขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ในหลายๆท่านมีการเจริญเติบโตของเส้นผมเพิ่มขึ้น ผมดกและหนาขึ้น ฯลฯ และยังมีโอกาสทำให้มีบุตรยากจนถึงมีโอกาสเป็นหมันได้ค่ะ

เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ว่าเราต้องใช้ฮอร์โมน เราก็ต้องรู้จักข้อดีข้อเสียและผลข้างเคียงของมัน ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้เสมอๆ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน มิใช่ฮอร์โมนใช้เรา เพราะฉะนั้นเราต้องสรองค่ะ เอาชนะมัน อย่างให้มันชนะเรา เทคยาให้เป็น 
ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคยาแล้วดูแลสุขภาพเราเองด้วยให้มากๆ ออกกำลังกาย ฟิตหุ่นให้ดี ควบคุมอารมณ์ตัวเอง และที่สำคัญ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุขค่ะ ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

 

อายุ 25+ เทคยาทันไหมคะ ? หรือ อายุมากแล้วเทคฮอร์โมนทันไหมคะ ?

 

ทันค่ะ สบายมาก หลายๆท่านเริ่มเทคฮอร์โมนตอนอายุ 30+ 40+ 50+ ก็มีเยอะค่ะ องค์ประกอบโดยรวมนั้นคือความพร้อมของร่างกาย และจิตใจ หัวใจหลักของการเทคฮอร์โมนตามที่พี่หมวยเคยสอนเสมอๆนั่นก็คือ "เทคอย่างมีความสุข" อายุไม่ใช่ปัญหาค่ะ ขอเพียงอย่าคาดหวังมากเกินไป อย่าตั้งความหวังต่างๆนาๆ หรือมากเกินไป เพื่อมากดดันตัวเอง คนที่เทคแล้วสวยก็มีเยอะค่ะ มั่นใจในตัวเองค่ะ สวยในแบบตัวเราเองค่ะ เชื่อว่าทุกๆคนสวยค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้ ให้มันเป็นไปตามกาลเวลาค่ะ เทคเพื่อตอบโจทย์ของหัวใจ และเทคอย่างมีความสุข ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ พอใจเท่าที่ได้ ให้ความสุขกับกายและใจตัวเอง เป็นตัวของตัวเราเองค่ะ เป็นในสิ่งที่อยากเป็น ส่วนคำว่าทันไหม สวยไหม เราให้คำจำกัดความมันว่าอย่างไร ? อย่าไปตีความความสวยตามค่านิยมค่ะ สวยแบบสปอร์ตๆ สวยแบบเฮลท์ตี้ๆ สวยแบบสุขภาพดี ความสวยเป็นได้หลายแบบค่ะ ฯลฯ สวยแบบตัวเราเองนี่แหล่ะค่ะ ไม่ต้องไปตามใครค่ะ ค่อยๆแก้ไปทีละจุด และออกกำลังกายดูแลสุขภาพ สร้างภูมิต้านทานให้ตัวเราเอง หรือจะฟิตหุ่นให้ดีก็ยิ่งดีค่ะ หรือที่ดีอยู่แล้วก็ให้เฟิร์มยิ่งขึ้น ยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ เทคยาแล้วต้องคิดถึงผลข้างเคียง ผลเสียต่างๆตามมาด้วย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดูแลตัวเองให้มากๆค่ะ หันกลับมาดูแลตัวเอง ใช้ฮอร์โมนให้เป็น ให้ถูกต้อง ให้มีความสุข สุขได้ทั้งกายสุขได้ทั้งใจค่ะ มองโลกในแง่ดีค่ะ และควบคุมอารมณ์ค่ะ

อย่างที่บอกคำว่า ทันไหม ? แล้วคำว่า "สวย" เราให้คำจำกัดความมันว่าอย่างไร ที่มองว่าไม่สวย บางคนก็มองว่าสวยก็ได้ ความสวยมีหลายแบบ สวยแบบเฮลท์ตี้ Healthy ก็ได้ ความสวยก็คือความสวยในแบบเราเป็นเรานี่แหล่ะ พอใจที่เราเป็นเราค่ะ ผอมก็สวยได้ อวบก็สวยได้ มีกล้ามนิดๆก็สวยได้ มีซิกแพคก็สวยได้ ดื่มน้ำเยอะๆผิวพรรณดีก็สวยได้ แต่งตัวดี แต่งตัวสวยๆ บุคลิกดีก็สวยได้ วางตัวดีก็สวยได้ พูดจาน่ารักก็สวยได้ ไปตลอดจนแค่ยิ้ม โลกก็ดูสดใส เราก็ดูเป็นคนสวยได้ หรือจะขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ อดทน สู้งาน จริงใจ รักเดียวใจเดียว ก็ดูเป็นคนที่สวยได้ ฯลฯ (มีทั้งสวยทั้งกาย สวยทั้งใจ เริ่มออกทะเลและ หัวเราะ) ความสวยมีตั้งเยอะแยะ มุมมองมีตั้งเยอะแยะ ไม่พอใจตรงไหนก็ค่อยๆแก้ไขไปทีละจุด ให้ถูกต้อง ไม่ต้องโฟกัสกับความสวยที่มาจากยาเป็นหลัก เราใช้ยาให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะกับวัยเรา ร่างกายเรา เหมาะภาวะและปัจจัยของเราก็พอค่ะ และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ แล้วจากนั้นเราก็ค่อยๆแก้ไขไปทีละจุดค่ะ

สรุปแล้วว่า อย่างไรเท่าที่การตอบสนองเราไปได้ค่ะ เราเทคเพื่อตอบโจทย์หัวใจ ตอบสนองความรู้สึกตัวเอง อย่าคาดหวังมาก เทคแล้วสวยขึ้นก็มีเยอะแยะนะคะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับหลายๆองค์ประกอบ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีความสุข อะไรๆมันก็จะดีเองค่ะ อายุมากแล้วต้องเทคอย่างปลอดภัย เน้นออกกำลังกาย ดูแลหุ่นให้ดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ตามวัย ปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามภาวะและปัจจัยต่างๆที่เราเป็น เทคยาแล้วเดี๋ยวมันก็ค่อยๆพัฒนาไปตามการตอบสนอง กรรมพันธุ์เราเองค่ะ ดูแลระบบร่างกายให้ดีทั้งการดูดซึมการเผาผลาญ และที่สำคัญพอใจเท่าที่ได้ค่ะ และเทคยาให้ทำร้ายเราน้อยที่สุดค่ะ

แต่อย่างไรเราต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างผู้รู้นะคะ รู้ข้อเสียของยา อันตรายของยา พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่เคยสอน เทคยาอย่างมีความสุข ดูแลสุขภาพควบคู่กันไปค่ะ เป็นตัวของตัวเอง แล้วอะไรๆก็จะดีค่ะ มั่นใจในตัวเองค่ะ วางตัวให้ดี ควบคุมอารมณ์ เชื่อว่าทุกคนสวยค่ะ

 

อายุเท่านั้น เท่านี้ หรืออายุมากแล้วอยากเทคยา จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เยอะไหม หรือจะเห็นผลไหมคะ ?

 

คำว่าเห็นผลมันกว้าง ขึ้นอยู่กับเราตีความ ถ้าคิดว่าจะซอฟสุดพลัง ละมุนสุดๆ กระดูกเล็ก ก็ตัดออกไปค่ะ เราเทคยาด้วยสมอง เราเทคเพื่อตอบโจทย์หัวใจ เทคอย่างเข้าใจ อย่างมีความสุข แล้วให้มันพัฒนาไปตามกาลเวลา การตอบสนอง กรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมน ฐานฮอร์โมนเพศของเรา ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทค เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา และที่สำคัญที่สุด พอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคยาอย่างผู้รู้ ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข เทคอย่างฉลาด และทำร้ายตัวเราให้น้อยที่สุดค่ะ

 

เทคแอนโดรคัวร์ 50 mg. กับ 100 mg. อย่างไร ?

 

แอนโดรคัวร์เป็นยาต้านฮอร์โมนเพศชาย ลดขน ยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน โดยปกติเราจะเทคกันแต่แอนโดรคัวร์ 50 mg. สำหรับแอนโดรคัวร์ 100 mg. เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีนี้ พร้อมกับความรู้ใหม่ๆของน้องๆ ตัวนี้จึงเป็นอีกตัวที่ยอดนิยมมากๆเลยทีเดียวค่ะ สำหรับแอนโดรคัวร์ 100 mg. ก็จะเท่ากับ 50 mg. 2 เม็ดนั่นแหล่ะค่ะ โดดเด่นในเรื่องลดฮอร์โมนชายในระดับที่สูงขึ้น (ตามแต่กรณี และประเมินเป็นรายๆไป) ช่วยสลายกล้าม หุ่นซอฟ ลดขน ยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน การเทคนั้นให้เทคไปตามค่า BMI ของเรานะคะ เริ่มเทคแรกๆไม่ควรเริ่มเทคแรงๆค่ะ เพราะเราต้องประเมินร่างกายก่อน และดูว่าเพลียไหม มึนไหม มีอาการข้างเคียงใดๆไหม หรือมีปัจจัยต่างๆอันไม่สามารถเทคได้ในระดับนั้นๆ เช่นเครียดไหม พักผ่อนน้อย หรือเรียนหนัก สอบ เป็นต้น แต่อย่างไรพี่หมวยจะปรับเป็นกรณีๆค่ะ เพราะการข้ามเพศจำเป็นต้องเทคในระดับที่สูงก่อนแล้วลดระดับลงมา ซึ่งวัย ภาวะและปัจจัยต่างๆของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน รวมถึงโรคประจำตัวด้วย พี่หมวยจะดูแลเอง และประเมินไปตามแต่ละกรณีค่ะ

โดยตามหลักแล้วเราจะต้องเทคยาเพื่อเกื้อหนุนกัน จะเทคอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นจะให้ผลไม่สมบูรณ์ (ถ้าเราจะอิงตามระดับฮอร์โมนเพศ) โดยกลไกหลักของเรานั้น 1.ต้านฮอร์โมนเพศชาย + 2.เสริมฮอร์โมนเพศหญิงค่ะ เราจะเทคอย่างหนึ่งอย่างใดเดี่ยวๆนั้นอาจจะไม่ได้ ด้วยตัวใดตัวหนึ่งอย่างลำพังของมันเอง (กรณียังไม่ได้แปลงเพศ) จึงต้องมีอีกตัวมากระตุ้นร่วม ให้มาเกื้อหนุนกัน ไปตามกลไก (แต่ไม่ทุกคน และไม่ทุกกรณี เสมอไปค่ะ)

แอนโดรคัวร์จะยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน เพื่อช่วยพัฒนาให้ถูกใจเราต่างๆ แม้การเทคเพื่อการข้ามเพศนั้นเราสามารถเทคได้วันละ 1 เม็ดก็ตาม แต่ต้องเป็นไปตามค่า BMI และต้องไม่มีภาวะและปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทค และที่ไม่ควรเทค เช่น เรียนหนัก อ่อนแอง่าย ปวดหัว ปวดกระดูก ปวดตัว ฯลฯ ห้ามเทคแรงๆนะคะ หรืออาจจะต้องงดไปก่อนค่ะ

ส่วนภาวะอันห้ามเทค หรือผู้ที่ควรพบแพทย์ก่อนเทค เช่น ผู้ที่เป็นโรคตับ เนื้องอกที่ตับ ผู้ที่มีภาวะเลือดจับตัวเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า เบาหวาน เป็นต้น ส่วนผลข้างเคียงทำให้อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ รวมไปถึงสมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ

สำหรับสูตรแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า เป็นสูตรยอดนิยมอันดับ 1 เลยทีเดียวค่ะ แอนโดรคัวร์จะต้านฮอร์โมนเพศชาย ลดขน ลดสิว ผิวมัน หน้ามัน ลดกล้าม ฯลฯ ภาวะต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย มีส่วนช่วยให้ซอฟลง ละมุนละไม + การเสริมฮอร์โมนเพศหญิง อาทิ โปรกีโนว่า นั้นจะเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม เพื่อกระตุ้นซึ่งกันและกันให้มีพัฒนาการของผิวพรรณ อก สรีระโดดเด่นยิ่งขึ้นได้ ในกรณีที่การตอบสนองเป็นไปด้วยดี มีพัฒนาการที่ดี ก็จะได้สรีระ รูปร่างที่ละม้ายคล้ายคลึงสตรีเพศ แลดูละมุนละไมยิ่งขึ้นได้

เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องเทคร่วมกันเพื่อให้เอื้อซึ่งกันและกันค่ะ (เพื่อให้อิงตามระดับฮอร์โมนเพศ) สูตรนี้จึงเป็นสูตรยอดนิยมมาก ตามหลักที่พี่หมวยสอนไว้แล้ว การเทคยานั้นเราจำเป็นต้องลดฮอร์โมนชายและเพิ่มฮอร์โมนหญิง จึงจำเป็นต้องเทคร่วมกันอย่างยิ่ง เพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นค่ะ (กรณียังไม่แปลงเพศนั่นเอง) (แต่ไม่ทุกคน และไม่ทุกกรณี เสมอไปเช่นกันค่ะ)

สำหรับแอนโดรคัวร์ ใช้เทคร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อกด ต้าน และเสริมตามสูตรที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เน้นลดกล้าม ลดขน สิว ผิวมัน หน้ามัน ฯลฯ แอนโดรคัวร์จะยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน เมื่อเราต้านฮอร์โมนเพศชายแล้ว ฮอร์โมนเพศหญิงเราจะเด่นขึ้นมาได้บ้างแต่ไม่มากพอ เราจึงจำเป็นต้องเสริมฮอร์โมนเพศหญิงเข้ามาร่วมด้วย อาทิเช่น โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม เอสโตรเจล หรือ LDB (เป็นตัวเสริมร่วม) เป็นต้น เราก็จะได้ทั้งผิวพรรณ หน้าอก สรีระ เรียกว่าเมื่อเทคร่วมกันเรามีโอกาสได้ทั้ง ผิวพรรณ หุ่น อก เอว สะโพก ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขนให้อ่อนลง บางลง หรือขึ้นช้าได้ อย่างไรผลการตอบสนองนั้นต้องประเมินเป็นรายๆไปค่ะ

เราเทคเพื่อพัฒนาไปตามกาลเวลา เพื่อพัฒนาตัวเราให้เป็นสตรีเพศมากที่สุด อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเรา อายุ วัยของผู้เทคยา กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การดูดซึม การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ ของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ

แอนโดรคัวร์ ประกอบด้วย Cyproterone acetate 50-100 mg. โปรกีโนว่า ประกอบด้วย Estradiol Valerate 2 mg.

สำหรับการเทคนั้น แอนโดรคัวร์สามารถเทคได้หลายระดับตามสภาพของเรา ตั้งแต่ 1 เม็ด แล้วลดระดับลงมาแบ่ง 1/2 หรือ 1/4 (หรือตามค่า BMI อาจจะต้องอิงและอาจจะไม่ต้องอิงตามกรณีๆไปค่ะ) + โปรกีโนว่า 1-2 เม็ดเป็นเบื้องต้นค่ะ

สำหรับแอนโดรคัวร์ 100 mg. ตัวนี้แรงจริงค่ะ สลายกล้ามจัดหนัก ต้านฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน ความจริงแล้วการเทคเพื่อการข้ามเพศสามารถเทคได้วันละ 1-3 เม็ดก็ตาม แต่ต้องเป็นไปตามค่า BMI และปัจจัยต่างๆอันห้ามเทค และที่ไม่ควรเทค เช่น เรียนหนัก อ่อนแอง่าย ปวดหัว ปวดกระดูก ปวดตัว ฯลฯ ห้ามเทคแรงๆนะคะ ไม่ทุกคนจะเทคได้ ส่วนผู้ที่ควรพบแพทย์ก่อนเทค เช่น ผู้ที่เป็นโรคตับ เนื้องอกที่ตับ ผู้ที่มีภาวะเลือดจับตัวเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า เบาหวาน เป็นต้น ส่วนผลข้างเคียงทำให้อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ รวมไปถึงสมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ

โดยปกติที่เราเทคกันอยู่นั้นจะเป็นแอนโดรคัวร์ 50 mg. 1 แผงมี 10 เม็ด วิธีทานแบ่งได้ตั้งแต่ 1 เม็ด -> 1/2 เม็ด และ 1/4 เม็ด ไปตามสภาพร่างกายของแต่ละคน ตามค่า BMI ตามมวลกล้ามเนื้อที่มาก หนา ใหญ่ บึกบึน โดยช่วงแรกจะให้ทาน 1 เม็ด แล้วลดระดับลงมา 1/2 เม็ด และลดระดับลงมา 1/4 เม็ด เพื่อประคองค่ะ และเทคที่ระดับ 1/4 ไปตลอดก็เพียงพอค่ะ อย่าเทคแรงนานจนเกินไปคิดถึงผลเสียด้วยค่ะ

แอนโดรคัวร์ 100 mg. จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง 1 แผงมี 10 เม็ด โดย 1 เม็ด ของมันเท่ากับ 2 เม็ดของแอนโดรคัวร์ปกติ (50 mg.)

กรณีทาน 1 เม็ด เราต้องพบแพทย์ค่ะ เพื่อให้แพทย์ประเมินร่างกายก่อนค่ะ และการเทคแรงๆระดับนี้ต้องระมัดระวังอย่างมากนะคะ

แอนโดรคัวร์เอง ก็ใช่ว่าจะเทคกันได้ทุกคนนะคะ หากเราเป็นคนผอมมากไป BMI ราวๆ 15-16 หรือต่ำกว่านี้ ไม่ควรทานค่ะ หรือหากเป็นโรคเกี่ยวกับตับ เช่น ตับอักเสบ ทานไม่ได้ค่ะ ทานต่อเนื่องในปริมาณสูง ติดต่อกันเป็นเวลานานๆก็ไม่ได้นะคะ จึงใช้ให้เป็นในกรณีๆ ช่วงสั้นๆ แล้วลดระดับลงมาค่ะ แล้วก็ต้องหยุดพักตับในกรณีเทคหลากหลายด้วยนะคะ

สำหรับแอนโดรคัวร์ จะยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของเพศชาย นั่นเองจะทำให้เราซอฟขึ้น ขนก็จะลดลง รวมถึงสิว ผิวมัน หน้ามัน ภาวะต่างๆอันเกิดจากฮอร์โมนเพศ จากนั้นตามสูตรให้เราเสริมฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นโปรกีโนว่าก็ดี แอลดีบีก็ดี ฯลฯ ก็จะกระตุ้นหน้าอก รวมไปถึงผิวพรรณ สรีระต่างๆ เมื่อเราเทคร่วมกันก็จะเอื้อซึ่งกันและกัน เมื่อร่างกายมีการตอบสนองที่ดี ก็จะช่วยต่อเติมทำให้เราค่อยๆมีพัฒนาการ ของรูปร่าง สรีระ ความซอฟ มีความละมุนละไม และละม้ายคล้ายคลึงหญิงแท้ ผิวพรรณ กล้ามลด ขนลด รวมไปถึงใบหน้าแลดูอ่อนหวาน อ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ

แอนโดรคัวร์ เป็นยาที่สาวประเภทสองนิยมใช้มากที่สุด เพื่อลดฮอร์โมนเพศชายในตัวเอง กดอารมณ์ทางเพศ อยากให้งูตาย ลดกล้าม ลดขน หน้ามัน ผิวมัน รวมถึงลดสิว และภาวะต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ในการเทคแอนโดรคัวร์เพื่อกดความเป็นชายนั้น ฮอร์โมนเพศหญิงก็จะเด่นขึ้นมาบ้าง แต่อย่างไรให้เทคร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิง เช่น โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม เอสโตรเจล หรือ LDB (เป็นตัวเสริมร่วม) เป็นต้น เพื่อต่อเติมให้เรามีหุ่น อก เอว สะโพก มีสรีระที่ละม้ายคล้ายคลึงหญิงมากที่สุด จึงจำเป็นต้องเทคร่วมกัน เพื่อเอื้อซึ่งกันและกันค่ะ (แต่ไม่ทุกกรณีเสมอไปค่ะ) ที่สำคัญให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้นะคะ เพราะแอนโดรคัวร์เป็นยาที่น่ากลัวและอันตรายมาก ในเมื่อจำเป็นต้องใช้ก็ใช้อย่างระมัดระวัง ใช้อย่างผู้รู้ค่ะ และถ้าเราได้ไปตรวจระดับฮอร์โมนของเราก็จะยิ่งดีมากๆค่ะ เพื่อการเทคที่เป็น ถูกต้อง และเหมาะกับร่างกายเรามากที่สุดค่ะ และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ และควรตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

และที่สำคัญ จำเป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ อย่าลืมอ่านข้อเสียและอันตรายของยาแอนโดรคัวร์ด้วยค่ะ

และที่สำคัญไปกว่านั้น คือการเข้าใจสูงสุดคืนสู่สามัญ แอนโดรคัวร์มันอันตรายมาก อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้มันเลยก็ได้ค่ะ การเทคฮอร์โมนไม่มีสูตรตายตัว มีแต่ความเข้าใจในตัวเอง ค่อยๆตัดสินใจไปนะคะ หากต้องใช้ ก็ใช้อย่างระมัดระวังอย่างยิ่งนะคะ และใช้ให้อยู่ในระบบที่ถูกต้องที่ถูกที่ควรค่ะ

 

เทคแต่แอนโดรคัวร์อย่างเดียวได้ไหมคะ ?

 

สำหรับสาวประเภทสองที่คิดจะเทคฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ เทคแต่แอนโดรคัวร์อย่างเดียวไม่แนะนำค่ะ การใช้ยาแอนโดรคัวร์เป็นยาอันตราย ทางการแพทย์ใช้ในด้านการรักษาโรค แต่การเทคของสาวประเภทสองนำมาปรับใช้ในด้านการข้ามเพศ ความงาม การเปลี่ยนแปลงลักษณะของเพศชายเป็นเพศหญิง โดยสาวประเภทสองจะกดและทำลายฮอร์โมนเพศชายในตัวเองด้วยแอนโดรคัวร์ ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงเด่นขึ้นมาได้บ้าง การเทคแอนโดรคัวร์อย่างเดียวจะเป็นการเทคที่ผิดค่ะ เพราะเราต้องเทคระยะยาว และเทคอย่างสมดุล ถ้าเราลดฮอร์โมนเพศชายเราลง เราอาจจะกลายเป็นคนที่แทบไม่มีฮอร์โมนทั้งชายและหญิงเลย (ซึ่งอาจจะต้องตรวจวัดค่าฮอร์โมนเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกที เพื่อการปรับใช้ได้อย่างถูกต้อง)

นั่นก็หมายความว่า เราอาจจะเป็นคนที่ไม่มีทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและชายเลย จะมีผลเสียตามมาในระยะยาว เพราะฮอร์โมนแอนโดรเจนในร่างกายจะถูกกดอย่างลำพัง โดยไม่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนมาช่วยทำอีกหน้าที่หนึ่งที่จะเกื้อหนุนกัน เราจึงต้องมีระดับฮอร์โมน

ก็หมายความว่า ฮอร์โมนในร่างกายเรามันขาดสมดุลกัน ผิดเพี้ยนไป เมื่อเวลาผ่านไป ผลเสียที่พี่หมวยพบเจอจากน้องๆบ่อยๆก็คือ เราจะดูแก่ขึ้น ผิดรูปผิดร่าง อ้วนง่าย ผิวคล้ำ เสียงแหบ อารมณ์แปรปรวน ภาวะทางอารมณ์ กลิ่นตัวแรง ตัวเหม็น ปากเหม็น แพ้ง่าย เหนื่อยง่าย คัน และผมร่วงตามมา ไปจนถึงกระดูก ฯลฯ รวมซึ่งต้องเจอกับผลข้างเคียงในตัวของยาแอนโดรคัวร์ตามที่พี่หมวยสอนถึงอันตรายของมันด้วยเช่นกันค่ะ

เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องเทคฮอร์โมนเอสโตรเจนร่วมด้วย อาทิเช่น โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม เอสโตรเจล LDB (เป็นตัวเสริมร่วม) ฯลฯ เป็นต้นค่ะ เพราะกลไกของสาวประเภทสองนั้น ต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นสตรีเพศให้ได้มากที่สุด มีความซอฟ มีความละมุนละไม นั่นคือต้องกดฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิงตามหลักตามกลไกนั่นเองค่ะ (เป็นพื้นฐาน ส่วนเพศหลากหลาย ที่มีความต้องการใดๆแตกต่างกัน จะใช้ตัวใดเดี่ยวๆนั้นการใช้ต้องประเมินเป็นรายๆไปค่ะ)

สำหรับในบางกรณี ฮอร์โมนตัวใดตัวหนึ่งจะไม่สามารถทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งได้ด้วยลำพังตัวของมันเองค่ะ

อย่างไรแล้วเมื่อรู้ว่าต้องเทคร่วมกัน น้องๆก็ต้องเทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัยด้วยนะคะ เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ รู้การใช้ รู้ข้อเสียของยา รู้ปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทค ฯลฯ เทคยาอย่างฉลาด และพึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามคำสอนพี่หมวยด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ข้อเสียของยาแอนโดรคัวร์ มีอะไรบ้าง ?

 

แอนโดรคัวร์ เป็นยาต้านฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดอันเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ลดกล้าม ลดขน ลดสิว ผิวมัน หน้ามัน ภาวะต่างๆอันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน เมื่อกล้ามลดก็จะช่วยให้แลดูซอฟขึ้นแต่ก็ขึ้นอยู่กับวัย ระดับการเทค การตอบสนอง DNA กรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมนและฐานฮอร์โมนเพศของแต่ละคน ฯลฯ การเทคนั้น ต้องเป็นไปตามค่า BMI และปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทค เช่น เรียนหนัก อ่อนแอง่าย ปวดหัว ปวดกระดูก ปวดตัว ฯลฯ ห้ามเทคแรงๆนะคะ ส่วนผู้ที่ควรพบแพทย์ก่อนเทค เช่น ผู้ที่เป็นโรคตับ เนื้องอกที่ตับ ผู้ที่มีภาวะเลือดจับตัวเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า เบาหวาน เป็นต้น

ผลข้างเคียงทำให้เสียงแหบ อ่อนแรง อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอดเวลา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ เจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ขี้หงุดหงิด อารมณ์หงุดหงิดง่าย เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไว ขึ้นไวลงไว โกรธง่ายหายเร็ว คิดมาก คิดเยอะ ซึม เศร้า ร้องไห้ คิดแต่แง่ลบ หดหู่ ขี้น้อยใจ ฯลฯ รวมไปถึงผมร่วงในระยะแรก ผิวไวต่อแสงแดด สมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น คิดนั่นคิดนี่ เหม่อลอย ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ หากเทคเยอะ เทคนาน เทคผิดๆ ก็จะเสี่ยงต่อตับสูงด้วย และที่สำคัญเมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกทำลายงูก็ตายได้ค่ะ ความต้องการทางเพศลดลง มากน้อยแล้วแต่ปริมาณยา ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนแต่ละคนๆไป มีโอกาสที่จะมีขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ในหลายๆท่านมีการเจริญเติบโตของเส้นผมเพิ่มขึ้น ผมดกและหนาขึ้น ฯลฯ และยังมีโอกาสทำให้มีบุตรยากจนถึงมีโอกาสเป็นหมันได้ค่ะ

แอนโดรคัวร์เป็นสารกลุ่มสเตียรอยด์มีฤทธิ์ทำลายตับ ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ และทำให้เลือดข้น เกิดลิ่มเลือด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ตับทำงานหนัก ตับอักเสบ มะเร็งตับ เลือดออกในทางเดินอาหาร ฯลฯ และนอกจากนี้แอนโดรคัวร์เป็นอนุพันธ์ของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน อาจส่งผลให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้า หรือแปรปรวนง่าย ทำให้มีภาวะอารมณ์หลากหลาย คิดมากคิดเยอะ คิดแต่ในแง่ลบ หวาดระแวง ก็จะส่งผลและมีโอกาสทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้ และการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น อาการข้างเคียงรุนแรงที่สามารถพบได้ ได้แก่ เกิดพิษต่อตับ เกิดเนื้องอกหรือมะเร็งที่ตับ เลือดไหลในทางเดินอาหาร และเกิดภาวะก้อนเลือดอุดตันภายในหลอดเลือด เป็นต้นค่ะ

 

โปรกีนอน โปรลูตอน คืออะไร ?

 

โปรกีนอน + โปรลูตอน เป็นฮอร์โมนชนิดฉีด ให้ฉีดคู่กัน (อย่างละ 1 หลอดผสมกัน แล้วฉีดเข้ากล้ามเนื้อ เช่นบริเวณสะโพกเป็นต้น) สูตรนี้หลายท่านชอบ และบอกว่าสวยมากค่ะ หลายๆท่านปลื้มมาก หากมีการตอบสนองที่ดี อาจจะจะช่วยเร่งกระตุ้น สรีระ หุ่น อก เอว สะโพก ผิวพรรณ ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขนให้อ่อนบางลงได้ ฯลฯ แต่อย่างไรก็ต้องดูการตอบสนองของร่างกายเรา และปัจจัยอื่นๆอีกหลายๆอย่างนะคะ อาทิเช่น กรรมพันธุ์ BMI อายุ การดูดซึม การใช้ยาร่วม การใช้ชีวิตประจำวัน ความแมนของแต่ละคน ฯลฯ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรใช้และห้ามใช้ ไม่ทุกคนจะโอกับโปรกีนอน แต่โอกับเอสตร้ามากกว่า หรือโอกับสูตรอื่นๆก็มีค่ะ โปรกีนอนเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่เป็นที่นิยมมากทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ข้อเสียมันก็มีทุกตัวค่ะ ถ้าเราใช้เกินขนาด ใช้ผิดๆ  ถ้าจะใช้ต้องใช้ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างผู้รู้ พอใจเท่าได้ที่ได้ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนด้วยนะคะ อย่างไรก็ตามให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ

และมีการตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

โปรกีนอน 1 หลอด ประกอบด้วยตัวยา Estradiol Valerate 10 mg. เป็นฮอร์โมนเพศหญิง ฤทธิ์ยาอยู่ได้ราวๆ 1 อาทิตย์หรือมากกว่านี้หรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความแมนของแต่ละคน น้ำหนักตัว ฐานฮอร์โมนเพศของแต่ละคน ฯลฯ ซึ่งบางเคสอยู่ได้ถึง 2-3 อาทิตย์ขึ้นไปก็มีนะคะ ให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1 หลอด ร่วมกับตัวต้านฮอร์โมนเพศชายอาทิ โปรลูตอน หรือทานแอนโดรคัวร์ค่ะ แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเรา อย่างไรให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ เพื่อตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่ง ตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อปรับฮอร์โมนได้อย่างถูกต้องจะดีที่สุดค่ะ

การฉีดโปรกีนอนนั้นให้ฉีดร่วมกับโปรลูตอนค่ะ เป็นสูตรที่นิยมกันมากทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยกลไกหลักตามที่พี่หมวยสอนนั้นให้เราต้านฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อให้เกื้อหนุนกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โปรกีนอน + โปรลูตอน จึงตอบโจทย์ในหลายๆท่านได้ดีที่สุดอีกสูตรหนึ่งค่ะ โดยให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งละคู่ค่ะ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีค่ะ

โปรกีนอน 1 amp of 1 ml. ประกอบด้วย Estradiol Valerate 10 mg. เป็นตัวเสริมฮอร์โมนเพศหญิง

โปรลูตอน 1 amp of 1 ml. ประกอบด้วย Hydroxyprogesterone caproate / hexanoate 250 mg. เป็นตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย

กรณียาฉีดจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนทั้งก่อนและหลังฉีด เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดนะคะ

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

อยากผอม อยากสวย อยากหุ่นดี อยากมีนม มีสะโพก อยากผิวสวย อยากนั่น อยากนี่ ทำอย่างไรดี ?

 

ก่อนอื่นต้องตั้งสติก่อนนะคะ มองความเป็นจริง เราต้องทำความเข้าใจอะไรหลายๆอย่างก่อนนะคะ เรื่องพวกนี้ต้องคุยกันยาวเลยค่ะ เพราะปัจจัยแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ทั้งการกิน อายุ การดูดซึม การใช้ชีวิต ความแมน กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ฯลฯ การให้คำจำกัดความของคำว่าสวยแต่ละคนแตกต่างกัน ฯลฯ ก่อนอื่นเลย อยากผอมทำอย่างไร ? ปัจจัยในการลดน้ำหนักที่ผอมถาวรนั้น สำคัญที่สุดเลย อันดับ 1. คือ กำลังใจค่ะ 2. การออกกำลังกาย 3. การควบคุมการทานอาหาร และภาวะประกอบอื่นๆ เช่น การไม่เครียด ฯลฯ เป็นต้น การให้กำลังใจตัวเอง สิ่งเหล่านี้เราต้องทำควบคู่กับไป นั่นก็คือเรียกง่ายๆ ว่า "ลดน้ำหนักอย่างมีความสุข" นั่นเอง ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ อย่าหักดิบ อย่าหักโหม อย่ารีบร้อน เมื่อระบบเผาผลาญดีขึ้น น้ำหนักเริ่มลดลง อาหารเสริมต่างๆรวมไปถึงสมุนไพรสลายไขมันก็ไม่จำเป็นอีกเลยค่ะ มีวินัย ปรับพฤติกรรมการทาน อยากทานอะไรก็ทานได้ ทานให้เป็น ทั้งมีวินัยและทั้งรู้จักผ่อนปรน แล้วทำให้ดี ทำอย่างมีความสุข เหมือนลูกสาวพี่หมวยหลายๆท่าน ผอม และประสบความสำเร็จไปมากมาย ผอมแล้วสุขภาพก็ดีขึ้นด้วย เยี่ยมมากมาย อันนี้ปลื้มมากๆเลยค่ะ เชื่อว่าทุกคนเก่ง ต้องเชื่อมั่นในตัวเองนะคะ พยายามนะคะ อดทนนะคะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้มากๆเลยค่ะ ค่อยๆปรับ ค่อยๆแก้ไปทีอย่างค่ะ

ส่วนคำถามที่ว่า อยากสวย อยากมีนม มีสะโพก มีผิวพรรณที่สวย มีนั่นมีนี่ พวกนี้ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ถ้าพี่หมวยลงรายละเอียดคงจะเทศน์กันยาว ซึ่งรายละเอียดสูตรการเทคฮอร์โมนต่างๆนั้นพี่หมวยได้สอนไว้แล้ว ให้น้องๆตัดสินใจเลือก 1 สูตรมาเทคด้วยตัวเองนะคะ เทคให้ถูกสูตรตามที่สอน เทคแล้วประเมินตัวเองค่ะ ว่าสูตรนั้นๆตอบสนองดีกับร่างกายเราไหม และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทค ซึ่งจะส่งผลเสีย เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไปจนถึงเครียดไหม เรียนหนักไหม ป่วย ฯลฯ เป็นต้น ค่อยๆอ่านศึกษาทำความเข้าใจเรียนรู้ไปนะคะ อย่างไรก็ตาม เทคยาก็เรียนรู้ถึง 3 พึง ตามที่พี่หมวยสอนนะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา และเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง 
อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้นะคะ พอใจเท่าที่ได้ เลือกสูตรที่เข้ากับตัวเรา การตอบสนองแล้วแต่คน และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ สวยในแบบของเรานะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องแข็งแรงด้วยนะคะ แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจค่ะ

ส่วนเรื่องซอฟ อ่านเพิ่มเติมที่คำถาม "อยากลดกล้าม ทำอย่างไร ?" ค่ะ

 

ผลิตภัณฑ์ LDB คืออะไร ? ข้อห้ามทาน ผลข้างเคียงมีอย่างไรบ้าง

 

แอลดีบี เป็นยาสมุนไพร เป็นยาตำรับ ใช้ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศหญิงจากยาเคมีหลักที่เราใช้อยู่ค่ะ บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวแลดูผ่อง ดูขาวใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวล อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ หน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ ช่วยเร่งพัฒนาหน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้นได้ โตเต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นไม่อ้วนขึ้น อีกทั้งยังบำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ

LDB เป็นยาสมุนไพร เป็นยาตำรับ ที่ผ่าน FDA Thailand (องค์การอาหารและยา ทะเบียนยา G96/58) ซึ่งเป็นการผ่านทะเบียนยาที่ยากมากๆ ต้องพิสูจน์กันนานมาก หลายขั้นตอนมาก กว่าจะผ่านทะเบียนยาได้ เรียกว่าพิสูจน์กันละเอียดยิบเลยค่ะ โด่งดังไปหลายๆประเทศทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับในหลายๆประเทศมากค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรอีกทางเลือกหนึ่งที่ค่อนข้างตอบโจทย์หลายๆท่านได้ดีค่ะ ประกอบด้วยสมุนไพรล้วนๆ 8 ชนิดหลัก และสมุนไพรอื่นๆอีกเยอะมาก ที่ผ่านการ พิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญจากกองยาของ อ.ย. ผ่านทะเบียนยา จึงมั่นใจได้อย่างแน่นอน และส่งออกต่างประเทศเยอะมากๆ เป็นผลิตภัณฑ์ของไทยที่โด่งดังและยอดนิยมมากค่ะ

LDB ประกอบด้วยสมุนไพรหลักๆ ว่านสากเหล็ก แก่นฝาง กวาวเครือ ดอกคำไทย ดอกคำฝอย โกฐต่างๆ และส่วนผสมอื่นๆ โดยในตำรับจะมีทั้งยาหลัก ยารอง และตัวคุมพิษตามหลักยาแผนไทยทุกประการ รับรองโดย FDA Thailand (องค์การอาหารและยา ทะเบียนยา G96/58) โดยในตำรับจะมีทั้งยาหลัก ยารอง และตัวคุมพิษตามหลักยาแผนไทยทุกประการ

คุณสมบัติหลักๆคือเสริมฮอร์โมนเพศหญิงไปพร้อมๆกับบำรุงโลหิต สำหรับสาวประเภทสองที่ยังไม่แปลงเพศส่วนใหญ่ให้เทคร่วมกับ anti-androgen ซึ่งจะให้ผลดีที่สุด เมื่อเทคไปได้สักระยะหลายๆท่านพบว่าผิวพรรณดีขึ้น มีการขยายตัวของฐานหน้าอก มีความละมุนละไม ละม้ายคล้ายคลึงสตรีเพศ และถ้าหากว่าทำนมแล้วจะทำให้นมนิ่มไวขึ้นด้วยค่ะ โดย LDB จะไปสร้างต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมหุ้มซิลิโคนอีกที

สรรพคุณที่มีผลโดยตรง ทางด้านผิวคือ ผิวนวลใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวลอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณหน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย ลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ สุขภาพผม เล็บดีขึ้น

สรรพคุณด้านร่างกาย หน้าอกขยายใหญ่ โตเต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นหลายๆท่านพบว่าไม่อ้วนขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ เสริมฮอร์โมนเพศหญิง และลดฮอร์โมนเพศชายได้อยู่บ้าง เมื่อเทคไปได้สักระยะก็จะผิวหน้าดีมีหน้าอก ผิวพรรณผิวกายแลดูผ่องขึ้น มีความละมุนละไมขึ้นได้ค่ะ

ส่วนการเทคนั้น วันละ 1-2 แคปซูลก่อนนอนค่ะ หรือพี่หมวยจะปรับสูตรให้อีกทีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามผลตอบสนองนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนการเทคเดี่ยวๆหรือร่วมนั้นต้องประเมินเป็นรายๆไปค่ะ

อย่างไรยาทุกตัวก็มีข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของตัวมันเองนะคะ ไม่ว่าจะยาเคมีก็ดีหรือยาสมุนไพรก็ดีค่ะ ยังไงก็เลือกที่เหมาะกับเรา และตอบโจทย์เราที่สุดนะคะ ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของยาอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

แต่อย่างไรคนที่แพ้สมุนไพรเช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน ทานแล้วรู้สึก เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย คัน ผื่นขึ้น ปวดหัว ฯลฯ ก็มีนะคะ และผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่างๆก็เป็นข้อควรระวังและข้อห้ามในการทานเช่นกันนะคะ

ข้อห้ามทานและข้อควรระวังในทุกเพศ รวมถึงหญิงแท้ ถ้าหญิงแท้มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ ฯลฯ ผู้ที่มีหลอดเลือดอุดตัน ผู้ที่แพ้สารจากขมิ้น ผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ทานไม่ได้ค่ะ

ผลข้างเคียงที่พบในกรณีสำหรับผู้หญิงแท้ พบว่าบางท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ (ซึ่งเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ) บางท่านพบว่าคันตามตัว ผด ผื่นขึ้น เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด หรือท้องเสียได้ บางท่านเมื่อมีระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง หรือฮอร์โมนและร่างกายกำลังปรับตัว อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ ซึ่งกรณีนี้อาจจะให้หยุดทานไปก่อนค่ะ บางท่านพบว่าผมร่วง และที่พบได้ในหลายท่านทำให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้น

สรุปได้ว่า : ข้อห้ามของการรับประทานกวาวเครือขาว

1. ผู้ที่เป็นโรคของทรวงอก เช่น เป็นซีสต์ เป็นพังผืด เป็นก้อน เป็นเนื้องอก เป็นมะเร็ง
2. ผู้ที่เป็นโรคของมดลูกและรังไข่ ทุกชนิด ทำนองเดียวกันกับทรวงอก
3. ผู้ที่ดื่มสุรา มีประวัติเป็นโรคตับ เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบ บี ซึ่งมีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูง
4. ไม่ใช้ในเด็กและสตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ในระยะให้นมบุตร
5. สตรีวัยเจริญพันธุ์ ควรปรึกษาแพทย์
6. เด็กที่ยังไม่มีประจำเดือน ไม่ควรรับประทาน

หมายเหตุ: ระยะแรกที่ทานกวาวเครือขาว ประจำเดือนจะเลื่อน ไม่มาตรงวันเดิม แต่จะไม่เว้นเดือน หลังจากนั้นก็จะมาเป็นปกติ

- รับประทานแล้วอาจมีอาการแพ้ขมิ้น -

1. คลื่นไส้ ท้องเสีย ท้องเดิน ปวดหัว นอนไม่หลับ เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าวให้หยุดยา เนื่องจากอาการข้างเคียงไม่เฉพาะเจาะจง
2. อาการคันเป็นผดผื่น ตุ่ม เล็กตามร่างกายแตกต่างกันไป บางรายเป็นปื้นลมพิษ ชึ้งในบางรายอาจจะยังคงมีอาการต่อไปแม้จะงดทาน แต่บางรายหยุดทานอาการก็หาย
3. อาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

- การแก้ไขเบื้องต้นเมื่อมีอาการแพ้ดังกล่าว -

1. หยุดทานยา
2. ทานสมุนไพร ดีท้อก เช่นเพียวริฟาย หรือชารางจืด หรือแบบแคปซูลก็ได้
3. ทานน้ำเยอะๆ

การแก้ไขเบื้องต้นเมื่อบางรายแพ้ข้างเคียงไม่มากแต่อยากทานต่อ ยังสามารถทานยานี้ต่อไปได้วิธีการทดลองทานยานี้เข้าไปช้ำโดย ลองบริหารยาเองแบบค่อยๆเพิ่มขนาด คือ

เริ่ม 1 แคปชูล /1ครั้ง ต่อมา 2 แคปซูล/1ครั้ง หรือปรับเพิ่มในแบบอื่นๆควบคู่กับการดื่มน้ำตามเยอะๆหลังทานยา เป็นต้น

และในบางราย การแพ้นั้นอาจเกิดจากสาเหตุปัจจัยอื่นๆ

1. ทานอะไรในขณะเกิดอาการ
2. ทานยาอื่นร่วมด้วยไหม สารบางชนิดในยาอื่นอาจทำปฏิกิริยา กับสมุนไพรทำให้เกิดอาการแพ้ได้

ใครบ้างที่ไม่ควรรับประทาน :

1. ผู้ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรทาน
2. ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ไม่ควรรับประทาน
3. ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ก็ไม่ควรรับประทาน

-ผลข้างเคียงและอาการอื่น ๆที่พบได้ทั่วไป เช่น เจ็บคัดเต้านม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เป็นต้น

 

 

ผลิตภัณฑ์ ละมุนนี "Lamoonni" คืออะไร ?

 

ละมุนนีเป็นยาสมุนไพร เป็นยาตำรับ ใช้ช่วยเสริมจากยาเคมีหลักที่เราใช้อยู่ค่ะ เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ร่างกายไม่อาจนำฮอร์โมนเพศชายไปใช้กับเนื้อเยื่อเป้าหมายได้สมบูรณ์ ต้านฤทธิ์ของแอนโดรเจน ทำให้ลักษณะเด่นแบบเพศชายลดลง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของ พิกัดตรีผลา ที่สามารถบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ

ละมุนนี เป็นยาสมุนไพร เป็นยาตำรับ ที่ผ่าน FDA Thailand (องค์การอาหารและยา 
ทะเบียนยา G499/58) ซึ่งเป็นการผ่านทะเบียนยาที่ยากมากๆ ต้องพิสูจน์กันนานมาก หลายขั้นตอนมาก กว่าจะผ่านทะเบียนยาได้ เรียกว่าพิสูจน์กันละเอียดยิบเลยค่ะ โด่งดังไปหลายๆประเทศทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับในหลายๆประเทศมากค่ะ

ละมุนนีเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรเจ้าของเดียวกับ LDB ค่ะ ละมุนนีเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายๆท่านนิยมมาก รับรองโดย FDA Thailand (องค์การอาหารและยา ทะเบียนยา G499/58) อาจใช้ทดแทนแอนโดรคัวร์ มีคุณสมบัติบางอย่างคล้ายๆแอนโดรคัวร์ มีส่วนช่วยลดฮอร์โมนเพศชาย เมื่อฮอร์โมนเพศชายลดลง กลไกการสลายสล้ามจึงอาจจะเกิดขึ้นได้ (ปัจจัยของการลดกล้ามเกิดจากหลากหลายปัจจัย) พบว่าในบางท่านช่วยให้หุ่นซอฟได้ ทำให้มีความละมุนละไมมากยิ่งขึ้น ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และยังบำรุงร่างกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เรียบ เนียน กระจ่างใส มีน้ำมีนวล ทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ ช่วยปรับธาตุ บำรุงร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะเป็นยาสมุนไพร โอกาสสะสมที่ตับหรือไตมีน้อยกว่าสารเคมี ทำให้ปลอดภัยต่อตับ ไต ทานต่อเนื่องได้นานค่ะ

สำหรับละมุนนีมีส่วนผสมเด่นๆคือ “พิกัดตรีผลา” พิกัดตรีผลาประกอบไปด้วย สมอพิเภก สมอไทย มะขามป้อม กินร่วมกันจะช่วยเรื่อง "บำรุงตับ" ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้จะอยู่ในละมุนนีทั้งหมด ไม่ทำลายตับ นี่แหล่ะข้อดีของตัวละมุนนีเลยค่ะ

ละมุนนีมีส่วนประกอบสำคัญอาทิเช่น ดอกคำฝอย แก่งฝาง มะตูม โกฐเชียง ขมิ้นเครือ สมอไทย โกฐต่างๆ ประกอบด้วยสมุนไพรหลักและสมุนไพรอื่นๆอีกเยอะมาก ที่ผ่านการ พิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญจากกองยาของ อ.ย. ผ่านทะเบียนยา จึงมั่นใจได้อย่างแน่นอน และส่งออกต่างประเทศอีกหลายประเทศ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ของไทยที่กำลังโด่งดัง มาแรง และกำลังกลายเป็นที่ยอดนิยมมาก เพราะด้วยความที่เป็นเจ้าของเดียวกับ LDB ที่ผลิตยาสมุนไพรดีๆเพื่อน้องๆสาวประเภทสองอย่างแท้จริง ต่างประเทศจึงมั่นใจและสั่งซื้อเข้ามาแน่นมากๆ โดยส่วนประกอบละมุนนีนั้น โดยในตำรับจะมีทั้งยาหลัก ยารอง และตัวคุมพิษตามหลักยาแผนไทยทุกประการ

ละมุนนีสามารถทานร่วมกับเอสโตรเจนต่างๆ อาทิเช่น LDB / โปรกีโนว่า / เอสโตรเฟม / ยาคุมต่างๆ หรือใช้ร่วมกับทาเอสโตรเจล ฯลฯ ตามกลไกหลักของเรา เมื่อเทคร่วมกันไปได้สักระยะ พบว่าบางท่านซอฟขึ้น งูตาย อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ เสริมฮอร์โมนเพศหญิง และลดฮอร์โมนเพศชาย เมื่อเทคไปได้สักระยะก็จะผิวดีมีหน้าอก มีความละมุนละไมละม้ายคล้ายคลึงสตรีเพศ แลดูละมุนละไมขึ้นได้ค่ะ

โดยการเทคระยะแรกให้เทค 1-2 แคปซูลก่อนนอนร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิง ส่วนการเทคระดับต่างๆนั้นพี่หมวยจะปรับสูตรให้อีกทีค่ะ แต่อย่างไรก็ตามผลที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับ การตอบสนองของแต่ละบุคคล และการเทคร่วมนั้น รวมถึงเทคร่วมกับการใช้ยาฉีด (ซึ่งยาฉีดจะอันตรายอย่างมาก) พี่หมวยประเมินเป็นรายๆไปค่ะ

อย่างไรยาทุกตัวก็มีข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของตัวมันเองนะคะ ไม่ว่าจะยาเคมีก็ดีหรือยาสมุนไพรก็ดีค่ะ ยังไงก็เลือกที่เหมาะกับเรา และตอบโจทย์เราที่สุดนะคะ ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง และอันตรายของยาอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

แต่อย่างไรคนที่แพ้สมุนไพรเช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน ทานแล้วรู้สึก เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย คัน ผื่นขึ้น ปวดหัว ฯลฯ ก็มีนะคะ และผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่างๆก็เป็นข้อควรระวังและข้อห้ามในการทานเช่นกันนะคะ

ข้อห้ามทานและข้อควรระวังในทุกเพศ รวมถึงหญิงแท้ ถ้าหญิงแท้มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ ฯลฯ ผู้ที่มีหลอดเลือดอุดตัน ผู้ที่แพ้สารจากขมิ้น ผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ทานไม่ได้ค่ะ

ผลข้างเคียงที่พบในกรณีสำหรับผู้หญิงแท้ พบว่าบางท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ (ซึ่งเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ) บางท่านพบว่าคันตามตัว ผด ผื่นขึ้น เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด หรือท้องเสียได้ บางท่านเมื่อมีระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง หรือฮอร์โมนและร่างกายกำลังปรับตัว อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ ซึ่งกรณีนี้อาจจะให้หยุดทานไปก่อนค่ะ บางท่านพบว่าผมร่วง และที่พบได้ในหลายท่านทำให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้น

 

แอนโดรคัวร์ ต่างกับ ละมุนนีอย่างไร ?

 

แอนโดรคัวร์ และละมุนนี คืออะไร ข้อดีข้อเสียมีอย่างไร พี่หมวยได้อธิบายอย่างละเอียดไว้ข้างบนแล้วนะคะ คราวนี้พี่หมวยจะสรุปสั้นๆให้นะคะ

แอนโดรคัวร์ เป็นยาเคมี แรง อันตราย ผลข้างเคียงเยอะมากๆ ในหลายคนเห็นผลได้ชัดเจนกว่าละมุนนี ทั้งด้านการต้านฮอร์โมนเพศชาย ลดขน ลดสิว ลดกล้าม ฯลฯ ลดภาวะต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน เป็นที่นิยมมาก แต่ข้อเสียก็มีเยอะมากเช่นกันค่ะ และเป็นสเตียรอยด์ แอนโดรคัวร์มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆตามมาเยอะมาก อันตรายเยอะมากค่ะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ถ้าจะใช้ต้องใช้ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างผู้รู้ อย่างพอดีนะคะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ

ส่วนละมุนนี เป็นยาสมุนไพร ส่งผลต่อร่างกายดีกว่า และได้ผิวพรรณด้วยค่ะ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นพวกริ้วรอย และยังบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ ทานได้นานกว่า โอกาสสะสมที่ตับน้อยกว่าค่ะ ปลอดภัยอย่างมาก บางคนชอบแอนโดรคัวร์ ไม่ชอบละมุนนี เพราะอ่อนไป หรือไม่ค่อยตอบโจทย์ ฯลฯ แต่บางคนชอบละมุนนี ไม่ชอบแอนโดรคัวร์ เพราะแรงไป หรือละมุนนีตอบโจทย์เขาได้ดีกว่าค่ะ ยังไงเราก็ค่อยๆประเมินดูไปนะคะ

ละมุนนี = สมุนไพรที่มีคุณสมบัติต้านฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ร่างกายไม่อาจนำฮอร์โมนเพศชายไปใช้กับเนื้อเยื่อเป้าหมายได้สมบูรณ์ ต้านฤทธิ์ของแอนโดรเจน ทำให้ลักษณะเด่นแบบเพศชายลดลง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของ พิกัดตรีผลา ที่สามารถบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัวได้ เป็นต้น

แล้วแต่ชอบค่ะ แล้วแต่ร่างกายถูกกับตัวไหน ตัวไหนตอบสนองดีกับเราค่ะ ส่วนอันตรายของแอนโดรคัวร์และข้อเสียยาสมุนไพรน้องๆต้องศึกษาเพิ่มเติมที่นี่ด้วยนะคะ

ส่วนละมุนนี อาจจะใช้ช่วยเสริมจากยาเคมีหลักที่เราใช้อยู่ได้ค่ะ

การจะเลือกตัวกดฮอร์โมนเพศชาย เราต้องคำนึงถึงหลายๆปัจจัย ทั้งปัจจัยตัวเราเอง การตอบสนอง ความต้องการ ฯลฯ ตัวนี้ไม่โอ เราก็ต้องลองปรับลองเปลี่ยน แล้วประเมินดูไปค่ะ

จะใช้ละมุนนีต้องมีเหตุผล จะใช้แอนโดรคัวร์ ต้องมีเหตุผล แล้วนำมาประกอบการพิจารณาของตัวเราเองนะคะ

 

 

ฉีดเอสตร้า + โปรลูตอน ยังไง ? แล้ว ซ้ำ สลับ เสริม ต้องฉีดอย่างไรคะ ?

 

การฉีดเอสตร้า+โปรลูตอนนั้น เป็นอีกหนึ่งสูตรฉีดที่ยอดนิยมมากค่ะ ข้อดีก็มีข้อเสียก็มี สูตรนี้ค่อนข้างแรงและเร็ว โดยจะเน้นผิว เน้นนม สรีระ เอว สะโพก เน้นสลายกล้าม โดยการฉีดนั้นจะฉีดหลักๆได้ 3 สูตร คือ "ซ้ำ" "สลับ" "เสริม" ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคน ความแมน ระดับฮอร์โมน และเหตุผลที่จำเป็นต้องใช้สูตรนั้นๆ อย่าได้เทคตามคนอื่นนะคะ เทคไปตามการตอบสนองของเราค่ะ และต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัยค่ะ เทคอย่างผู้รู้นะคะ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ไม่มีเหตุอันจำเป็นก็ไม่ควรสลับ หรือเสริมค่ะ เทคสูตรใดสูตรหนึ่งพอค่ะ

พี่หมวยจะแนะนำคร่าวๆพอ ไม่ลงรายละเอียดมากนะคะ แต่ให้น้องๆรู้ไว้เป็นความรู้ที่ควรรู้ แต่ไม่ให้นำไปคิดค้นดัดแปลงต่างๆด้วยตัวเอง เพราะยาพวกนี้เป็นยาที่อันตรายมาก ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และต้องใช้ฮอร์โมนอย่างผู้รู้ค่ะ

การฉีดสูตร "ซ้ำ" นั้น พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองก็ฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน ฉีดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซ้ำๆแบบนี้ไปเรื่อย ฉีดอาทิตย์ละครั้ง อันนี้ถือว่าโอเคค่ะ (ถ้าจะฉีดสูตรนี้พี่หมวยก็โอเคค่ะ แนะนำค่ะ)

การฉีดสูตร "สลับ" พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สาม เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สี่ เราฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน ฉีดสลับกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ (สูตรนี้ไม่มีความจำเป็นอันควรพี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การฉีดสูตร "เสริม" ให้เรานับ 1 เดือนเป็น 2 รอบ รอบละ 15 วัน พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาวันที่ 5หรือ6. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 10. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 15. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน เรียกว่า 1 รอบนั่นเอง (นั่นก็คือเสริมเอสตร้า 1 หลอดทุกๆ 4-5 วันค่ะ ใน 1 รอบ) จากนั้นพอมาวันที่ 20. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 25. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 30หรือ31 ก็วนหลับมาฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอนค่ะ (สูตรนี้ไม่มีความจำเป็นอันควรพี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การวนแบบนี้เพราะ half life ของโปรลูตอนนั้นจะอยู่ได้ราวๆ 7-10 วันค่ะ (7.8 +-3) ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราด้วยค่ะ เพราะบางคนแมนมาก half life ของยาก็สลายไปได้เร็วค่ะ แต่บางเคสฤทธิ์ยาก็อยู่ได้ 2 อาทิตย์ค่ะ

จริงๆแล้วหากน้องๆได้รู้อย่างนี้แล้ว หลายๆคนก็จะเริ่มแตกแขนงสูตรต่างๆออกไปอีกมากมาย ซึ่งพี่หมวยไม่แนะนำอย่างยิ่ง ให้ฉีดมั่วๆ คิดค้นประดิษฐ์สูตรขึ้นมาเอง แต่ให้เรียนรู้ไว้ เราต้องเป็นผู้รู้ และเมื่อเป็นผู้รู้แล้วก็ต้องตระหนักให้มาก และนำไปสอนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆต่อไป และให้ตระหนักรู้ถึง 3 พึง คือ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยเช่นกัน และการฉีดฮอร์โมนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ดูโอโทน และ ฟีโนกีนอน เอฟ คืออะไร และฉีดอย่างไร ?

 

ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ทั้งดูโอโทน (DUOTON FORT) และ ฟีโนกีนอนเอฟ (Phenokinon "F") เป็นฮอร์โมนร่วมในหลอดเดียว (เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน) ใน 1 หลอด (1 ml.) ในสารละลายน้ำมัน

สำหรับดูโอโทน ประกอบด้วย Progesterone U.S.P. 50 mg. Estradiol Benzoate U.S.P. 3 mg.

สำหรับฟีโนกีนอนเอฟ ประกอบด้วย Progesterone 50 mg. Estradiol Benzoate 5 mg.

โดยอนุพันธ์ตัว Progesterone ของฟีโนกีนอนเอฟนั้นค่อนข้างไม่แน่ชัดเนื่องจากผู้ผลิตไม่แจ้งไว้ ต่างกับดูโอโทน ที่จะบอกว่าเป็น Progesterone U.S.P. ซึ่ง Progesterone อาจจะมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งยังไม่มีรายงานพี่หมวยจะใช้การประเมินผลตอบสนองแทนค่ะ ส่วน Estradiol Benzoate จะเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม จะช่วยให้เราได้ทั้งผิวพรรณ หน้าอก หุ่น สรีระ สลายกล้าม ความซอฟ ความละมุนละไมยิ่งขึ้น

สำหรับดูโอโทน อีกหนึ่งสูตรสวยราคาเบาๆของน้องๆลูกสาวพี่หมวยค่ะ สำหรับดูโอโทน สูตรนี้ถือว่าดีและถูกค่ะ เหมาะกับสาวประเภทสองวัยรุ่นที่เริ่มเทคฮอร์โมนเพื่อเป็นสูตรปูพื้นได้ค่ะ เน้นผิว เน้นนม เน้นสรีระ มีกลไกของการสลายกล้าม โดยใช้เป็นสูตรปูพื้นได้ ให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ หรือฉีดทุกๆ 4-6 วันครั้งก็ได้ค่ะ เพราะบางคนแมนมาก half life ของยาก็จะหมดได้เร็วค่ะ

สำหรับฟีโนกีนอนเอฟ เป็นอีกหนึ่งสูตรฉีดยอดนิยมค่ะ ราคาถูก หลายๆท่านชอบมาก บางท่านได้ผิวพรรณที่โดดเด่น หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น มีสรีระที่พัฒนาไปได้ดี ได้เร็ว ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม น้องๆเลือกสูตรที่เหมาะที่เข้ากับร่างกายเรานะคะ แล้วค่อยๆประเมินดูผลตอบสนองไปค่ะ เลือกสูตรที่มีผลข้างเคียงกับเราน้อย ศึกษาข้อดีข้อเสีย และใช้ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างพอดี ใช้อย่างผู้รู้นะคะ ค่อยๆพัฒนาไปตามกาลเวลา ตามกรรมพันธุ์ การตอบสนอง ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศของแต่ละคนค่ะ ฯลฯ เป็นต้น รวมถึงไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคต่างๆค่ะ

สำหรับฟีโนกีนอนเอฟนั้น 1 หลอด ประกอบด้วย Progesterone 50 mg. และ Estradiol Benzoate 5 mg. (อนุพันธ์ยังไม่แน่ชัด) เป็นอีกหนึ่งสูตรยอดนิยมเลยทีเดียวค่ะ เพราะได้ทั้งเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนที่ช่วยพัฒนาร่วมกันให้ได้มาทั้งสรีระ หุ่น อก เอว สะโพก ผิวพรรณ รวมไปถึงกลไกของการสลายกล้ามได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยด้วยนะคะ ทั้งปัจจัยของกรรมพันธุ์ การตอบสนอง ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ เป็นต้น ล้วนต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

โดยให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ เพราะหากแมนมาก half life ของยาก็จะหมดไปได้เร็วค่ะ เหมาะกับน้องๆวัยรุ่นที่คิดจะเริ่มฉีด และเป็นสูตรปูพื้นในการเริ่มต้นฉีดฮอร์โมนได้ค่ะ

ปล. ยังไม่มีรายงาน โปรเจสเตอโรนในตัวดูโอโทนและฟีโนกีนอนเอฟ ว่าต้านฮอร์โมนเพชชายได้หรือไม่เหมือนโปรลูตอน เพราะฉะนั้นเราจะใช้ผลตอบสนองมาประเมินแทน ให้ดูไปสักระยะค่ะ ต้องดูร่างกายเราว่ามีผลตอบสนองเป็นอย่างไร ไปในทิศทางใด

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

 

อันตรายของยาคุมลาว (ยาคุมจีน) หรือวิตามินอกอึ๋ม คืออะไรคะ ?

 

หลายๆท่านมาถามพี่หมวยว่า "พี่หมวยคะ มียาคุมลาว มียานมโตไหมคะ ?"

จริงๆแล้วยาคุมตัวนี้ คือยาคุมจีนค่ะ เป็นยาคุมที่อันตรายมากนะคะ พี่หมวยจะเตือนน้องๆในเพจเสมอ เป็นยาคุมที่รุนแรงมาก องค์การอนามัยโลกไม่สนับสนุนให้ใช้ คือทั่วโลกเค้าไม่ใช้กัน เนื่องจากฮอร์โมนที่สูงผิดธรรมชาติ Levonorgestrel มีถึง 6 mg. โดยปกติจะมีแค่ 0.15 mg. ส่วนยาคุมฉุกเฉิน 0.75 ถ้าเอาภาษาชาวบ้านไม่เอาวิชาการนะคะ ก็ประมาณว่าแรงกว่ายาคุมปกติประมาณ 40 เม็ด และยาคุมฉุกเฉิน Postinor ประมาณ 8 เม็ด จริงๆแล้วฮอร์โมนระดับนี้เค้าไว้ทานเดือนละเม็ด มันจะคุมได้ทั้งเดือน แต่เรากลับนำมาทานกันวันละ 1-2 เม็ด หรืออาทิตย์ละ 2-3 เม็ดตามคำโฆษณา อันตรายมากค่ะ มันจะส่งผลตามมาอย่างมหันต์เลยค่ะ (ใช้ฮอร์โมนสูงๆแล้วคิดว่าสวยเป็นความคิดที่ผิดมาก เราถึงโดนใครเขาปรามาสเสมอๆว่ามัวแต่บำรุงสวย ไม่บำรุงสมอง มันเจ็บไหมล่ะคะ)

ส่วนตัว Quinestrol เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนสังเคราะห์ขนาด 3 mg. สูงกว่ายาคุมปกติหลายเท่า ผลข้างเคียงจะทำให้ร่างกายบวมน้ำ คลื่นไส้ เวียนหัว ลิ่มเลือดอุดตัน (หากหลุดเข้าปอดไปก็จะเสียชีวิต) และทำให้คัดตึงเต้านม (ตรงนี้เค้าเลยเอามาโฆษณาว่าเป็นวิตามินอกอึ๋ม) เพราะฉะนั้นน้องๆที่กำลังคิดจะทาน หรือทานอยู่รีบหยุดเลยนะคะ

 

ฉีดและกินด้วย จะมีผลเสียอะไรไหมคะ ?

 

ต้องดูว่าเราฉีดตัวไหนและทานตัวไหนค่ะ และระยะของการฉีดด้วย ปริมาณด้วยค่ะ ซึ่งถ้าเราไม่มีความรู้เลยแล้วเทคยามั่วไปหมดจะอันตรายมาก ยกตัวอย่างเช่น เราฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ละครั้ง เราไม่จำเป็นต้องทานแล้วค่ะ ไม่ว่าจะแอนโดรคัวร์หรือโปรกีโนว่า นั่นคือเทคซ้ำซ้อน เราจะรับฮอร์โมนสูงเกินไปค่ะ อันตรายมาก หรือบางท่านอาจจะฉีด 2 อาทิตย์ครั้ง ซึ่งอาจจะต้องทานยาในอาทิตย์ที่ 2 เป็นต้น ซึ่งบางท่านไม่รู้ว่าตัวเองแมนมากผลของยาก็จะหมดไปได้ไว ก็เทคยามั่วกันไปหมด ซึ่งไม่ว่าเราจะฉีดหรือทานก็ตามเราต้องไปตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนของเราด้วยนะคะ ว่าสูงเกินไปไหมหรือต่ำเกินไปไหม เพราะถ้าเราเทคยาผิดๆ เทคยามากๆ เทคปริมาณสูงๆ จะมีอันตรายอย่างมาก หรือแม้แต่เทคปริมาณมากๆติดต่อกันนานๆ หรือเทคเว้นช่วงนานเกินไป ก็จะส่งผลต่ออารมณ์ขึ้นๆลงๆ เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดง่าย แปรปรวนไปหมด พี่หมวยจะไม่สามารถตอบได้จนกว่าจะได้ทราบผลตรวจเพื่อประเมินสูตรเทคยาที่เหมาะกับร่างกายของเรา และระดับฮอร์โมนแต่ละคนแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ การใช้ชีวิต รวมไปถึงความแมนแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ ฯลฯ

กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านอวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

กรณีสูตรอื่นๆก็เช่นกัน ไม่ว่าจะ เอสตร้า ดูโอโทน หรือฟีโนกีนอนเอฟ ตัวโปรเจสเทอโรนในดูโอโทนและฟีโนกีนอนเอฟนั้นยังไม่มีงานวิจัยและรายงานเรื่องคุณสมบัติในการต้านฮอร์โมนเพชชายเหมือนโปรลูตอนที่มีงานวิจัยรองรับ พี่หมวยจึงใช้ผลการตอบสนองของลูกสาวมาประกอบการพิจารณาต่างๆ เพื่อดูว่าควรทานเสริมตัวใด และพี่หมวยจะประเมินเป็นกรณีๆไปค่ะ

ส่วนผลเสียนั้นให้ย้อนดูที่ข้อเสียของการเทคฮอร์โมนทั้งแบบฉีดและทาน ข้อเสียของยาฮอร์โมนแต่ละตัว ข้อเสียของยาฉีด ข้อเสียของการเทคฮอร์โมนสูงๆ ซึ่งอยู่ในคำถามก่อนหน้านี้ น้องๆต้องศึกษาไว้ด้วยนะคะ และศึกษาเพิ่มเติม 3 พึง พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา และหลักในการเทคฮอร์โมนตามที่พี่หมวยสอนค่ะ


พี่หมวยจะเตือนน้องๆเลยนะคะ อย่าคิดเทคเองเออเอง ไม่มีความรู้ เพราะหลายๆคนมาหาพี่หมวย บอกทั้งฉีดตัวนั้นคู่กับตัวนี้ + ทานตัวนั้นคู่กับตัวนี้ กินตัวนั้น + ฉีดตัวนี้ แล้วตอนนี้รู้สึกเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ซึ่งเป็นการเทคที่ผิดมาก ก็โดนพี่หมวยดุไป เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องอันตรายมากๆ น้องๆหลายคนต้องกินยารักษาตัวเองไปตลอดชีวิต หรือเทคฮอร์โมนไม่ได้ไปตลอดชีวิตก็เพราะเทคกันแบบนี้แหล่ะค่ะ เตือนไว้เลยนะคะ พวกนี้ไม่ใช่ของเล่นๆ ไม่ใช่ขนม ใช้สมองเทคยาค่ะ อย่าให้ใครมาว่าเราได้ว่า มัวแต่บำรุงสวย ไม่บำรุงสมอง อายไหมคะ ?

ดังนั้นแล้วเราควรตระหนักรู้ รู้ข้อดีข้อเสียของยา อันตรายของยา ผลข้างเคียงของยา เทคให้เป็น เทคอย่างถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้นะคะ การใช้ฮอร์โมนหลากหลาย หรือการใช้ฮอร์โมนเยอะๆสูงๆ ทั้งกินทั้งฉีดแบบมั่วๆ นอกจากจะมีความเสี่ยงสูง ส่งผลร้ายตามมามากแล้ว ไม่ได้ทำให้น้องๆดูสวยขึ้นเลย เทคแต่พอดี มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อปรับยาให้เหมาะกับเรา ลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ค่อยๆพัฒนาความสวยไปตามกาลเวลานะคะ 
และหาเวลาออกกำลังกายนะคะ สวยแล้วสุขภาพก็ดีด้วยค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ฉีดกับทานแบบไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน หรือแบบไหนดีกว่ากันคะ ?

 

คุณหมอหลายๆท่านจะบอกว่า "ทานดีที่สุดค่ะ" แม้การฉีดจะออกฤทธิ์ไวแต่ผลข้างเคียงต่างๆก็มาไวเช่นกัน ความรุนแรงของแต่ละสูตรยารวมถึงอาการต่างๆก็จะแตกต่างกัน ฯลฯ พี่หมวยวิเคราะห์องค์ประกอบหลายๆอย่างค่ะ การเทคฮอร์โมนนั้นไม่ว่าจะทานก็ดี หรือทาก็ดี หรือฉีดก็ตาม ฯลฯ ขึ้นอยู่กับว่าเราสะดวกแบบไหน เหมาะกับแบบไหน แบบไหนตอบโจทย์เราได้มากที่สุด เราอาจจะทานเพื่อปูพื้นฮอร์โมนเข้าร่างกายเราก่อน เพื่อค่อยๆมีพัฒนาการของรูปร่าง สรีระ ผิวพรรณ หน้าอก ไปตามกาลเวลา รวมไปถึงจิตใจ เมื่อมีฮอร์โมนไหลเวียนอยู่ในร่างกาย มีการปรับตัวกับการรับฮอร์โมน แล้วจากนั้นก็ค่อยมาเริ่มฉีดไปตามขั้นตอน ตามลำดับได้เช่นกัน เพราะเมื่อเราทานปูพื้นมาก่อนเป็นระยะเวลาที่สมควรแล้ว เราก็สามารถเลือกที่จะทานต่อหรือฉีดได้เช่นกัน ตามความเหมาะสม และควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในภาวะที่ถูกต้อง ไม่มีภาวะและปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามทค มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน ตรวจร่างกายอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงภาวะของจิตใจ อารมณ์ด้วยเช่นกัน เป็นต้นค่ะ ฯลฯ ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

อย่างไรยาฉีดพี่หมวยจะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย คุณหมอบอกว่ามีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ แต่สำหรับพี่หมวยคิดว่า ความสตรองแต่ละคนไม่เหมือนกัน แตกต่างกัน ใช่ว่าคนนั้นฉีด คนนี้ฉีด แปลว่าทุกๆคนจะฉีดได้ ความสตรอง ภาวะต่างๆแต่ละคนแตกต่างกัน อาจจะช็อคได้ หรือเกิดอาการข้างเคียงหลากหลายกระทบต่อชีวิตประจำวัน รวมไปถึงผลตามมาระยะยาวด้วยเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องฉีดก็ได้ แต่เลือกทานในสูตร ในระดับที่เหมาะกับตัวเอง เทคยาให้เหมาะกับร่างกาย ภาวะของตัวเอง และทำร้ายตัวเองให้น้อยที่สุด เทคต้องเทคอย่างระวังค่ะ อย่างไรพี่หมวยจะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

ส่วนที่ถามว่าแบบไหนเห็นผลเร็วกว่ากัน ? การฉีดพบว่าอาจจะเร็วในบางคน เข้ากระแสเลือดไว (แต่หากแพ้ขึ้นมา หรือฉีดผิดพลาดจะอันตรายมาก) แต่ก็ไม่ทุกคนนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นการเห็นผลมีหลายปัจจัย อาทิ ค่า BMI ความแมนของแต่ละคนแตกต่างกัน แล้วแต่ตามกรรมพันธุ์ด้วย ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับในการใช้ การตอบสนองของร่างกายเรา ระยะเวลา และสูตรที่จะฉีดนั้นๆด้วยน่ะค่ะ เป็นต้น เพื่อเร่งให้ร่างกายเราถูกกระตุ้นได้ไว แต่คนที่ฉีดแล้วแพ้ก็มีนะคะ มึน เวียนหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย คัน บวม หิวบ่อย ทานจุกจิก ผมร่วง อารมณ์แปรปรวน ฯลฯ ก็มีหลายคนค่ะ เพราะฉะนั้นตามที่พี่หมวยบอกต้องดูว่าเข้ากับสูตรไหนมากกว่ากันค่ะ บางคนฉีดก็แลดูสวยขึ้น เปล่งปลั่งขึ้น หน้าตาแลดูอ่อนหวานละมุนละไมขึ้น อกมา เอวมา สะโพกมา ร่างกายถูกกระตุ้นได้ดี ได้ไว และหากมีการตอบสนองไปในทิศทางที่ดี ก็จะปลื้มกันมาก เพียงแต่ข้อเสียคือระดับฮอร์โมนจะขึ้นๆลงๆ ฮอร์โมนแกว่ง หากฉีดผิดๆ มั่วๆ ไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนสูตรไปมา ก็เป็นอีกปัจจัยของตัวแปร รวมไปถึงทั้งกินทั้งฉีด ซึ่งระดับฮอร์โมนใดๆต่ำไปหรือสูงไปก็จะมีผลเช่นกัน และพบว่าบางท่านมีความเสี่ยงต่อหลอดเลือด ลิ่มเลือดอุดตันตามมาด้วย แล้วยาฉีดเองพี่หมวยไม่อยากแนะนำทุกคนค่ะ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะฉีดได้ อย่างไรมันก็เป้นยาอันตรายมาก พี่หมวยจะเตือนเลยนะคะ หากเราใช้ฮอร์โมนสูงๆ ผิดๆ จะมีอันตรายตามมาอย่างมหันต์เลยนะคะ

ดังนั้นแพทย์จะแนะนำให้ทานดีกว่าค่ะ เพราะทานถือว่าดีที่สุด นั่นเพราะจะค่อยๆพัฒนาไปได้เรื่อยๆ ขอเพียงเทคให้ถูก เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข รู้ข้อดีข้อเสีย เทคให้เหมาะสม ไม่ควรมั่วๆ เทคซ้ำซ้อน หลากหลาย เทคแรงๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แล้วฮอร์โมนไม่สมดุลกัน เกิดการผิดเพี้ยน ก้าวกระโดด ลุ่มๆดอน อันจะส่งผลตามมา รวมไปถึงภาวะของอารมณ์และจิตใจ ซึ่งจะต่อยอดไปโรคต่างๆได้ ซึ่งน่ากลัวมาก ไม่ควรอย่างยิ่งตามที่เคยสอนไว้ก่อนหน้านี้ก็พอ บางคนทานอย่างเดียวก็สวยค่ะ ไม่จำเป็นต้องฉีด แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว บางคนอาจจะฉีดแล้วสวยขึ้นได้มาก แต่ก็แล้วแต่คนแล้วแต่สูตร และการตอบสนองของร่างกายของของแต่ละคนด้วยนะคะ บางคนก็ทั้งฉีดและทานร่วมกันค่ะ แต่อย่างไรพี่หมวยอยากให้ไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราจะดีที่สุดค่ะ เพราะทั้งฉีดและทาน อาจจะไม่จำเป็นถึงขนาดนั้นค่ะ ความสตรองในการรับยาฮอร์โมนแตกต่างกัน ภาวะต่างๆแตกต่างกัน เราจะได้รู้ว่าผลเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รับรู้และประเมินการเทคที่ถูกต้อง ที่เหมาะกับตัวเราเองค่ะ ที่สำคัญต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ อย่างน้อยปีละครั้งค่ะ หรือสองครั้งก็จะดีมากค่ะ

ค่อยๆดูไปนะคะว่าร่างกายเราเหมาะกับแบบไหน และแบบไหนตอบโจทย์เรามากที่สุดค่ะ เทคอย่างผู้รู้นะคะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขนะคะ แล้วอย่าลืม พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา ตามที่พี่หมวยเคยย้ำสอนไว้นะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

อยากลดกล้าม ทำอย่างไร ?

 

ลูกสาวมาปรึกษาว่า อยากลดกล้ามมาก กินยาคุมไม่ได้เลยจะอ้วกและแพ้ตลอด เลยนิยมฉีดมาตลอด หนูเป็นคนสูง ต้นแขนใหญ่ มีกล้าม อยากลดกล้ามมาก เรื่องอก ผิว เอว ค่อยตามมาทีหลังค่ะ หนูเคยฉีดดูโอโทน ตัวนี้นมมา ผิวมา แต่กล้ามไม่ค่อยลง ส่วนโปรกีนอน โปรลูตอน นมมามากหน่อย ผิวดี ดีกว่าดูโอโทนหน่อย แต่กล้ามและต้นแขนยังไม่ลงอยู่ดี คือลงยากมากค่ะ อาจจะลองฉีดเอสตร้าดู เห็นว่าเพียวๆอาทิตย์ละ 2 หลอดเลย มันเริ่ดอยู่ใช่มั๊ยคะคุณแม่ ?

การตอบสนองของแต่ละคนต่อตัวยานั้นแตกต่างกันไป การเทคยานั้นเราต้องเทคอย่างมีวินัย ทั้งเรื่องการกินอาหารที่มีโปรตีน เราต้องลดตรงนี้ลงบ้างค่ะ รวมไปถึงการออกกำลังกายด้วยค่ะ การเทคยานั้น เราจำเป็นต้องเทคยาที่เหมาะกับเรา ค่า BMI เรา ระดับของยา การที่เราเทคในกลุ่มของยาต้านฮอร์โมนเพศชาย มันจะต้านฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งภาวะต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน จะมีโอกาสทำให้กล้ามนิ่มลง และทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงเด่นขึ้นมา แล้วเสริมฮอร์โมนเพศหญิงให้เป็นไขมันนุ่มๆได้ เราต้องแก้ไปทีละจุด และให้เหมาะกับคนๆนั้น ถ้าเราทานยาคุมไม่ได้ เวียนหัว จะอ้วกตลอด เราก็อาจจะมาลองทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าค่ะ สูตรนี้หลายๆคนชอบมาก พบว่าตัวนิ่ม กล้ามลด นิ่มจนบางคนเหลวเลยก็มีค่ะ บางคนก็จะเทคแอนโดรคัวร์ + LDB สูตรนี้บางคน กล้ามลด นมมา ผิวมา ก็ชอบกันเยอะมาก บางคนเห็นผลไว อย่างไรก็ตาม การตอบสนองแตกต่างกัน ความแมนแต่ละคนก็แตกต่างกัน กรรมพันธุ์ก็ต่างกัน เราต้องเทคยาที่เหมาะกับเรา ส่วนยาฉีดก็เช่นกัน ในบางคนกล้ามลดยาก ซึ่งเราต้องดูว่าร่างกายเราเข้ากับสูตรไหนมากกว่า หรือบางคนฉีดแต่ฮอร์โมนเพศหญิงแล้วทานแอนโดรคัวร์กลับเห็นผลได้ชัดเจนก็มีค่ะ หรือฉีดทั้งโปรกีนอน + โปรลูตอน แล้วทานแอนโดรคัวร์ แล้วโอเคมากก็มีเยอะค่ะ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทานโปรกีโนว่า ก็มีเยอะค่ะ เพราะฉะนั้นค่อยๆดูสูตรที่เหมาะกับเรานะคะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ เราต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ด้วยนะคะ เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ควบคุมการทาน ออกกำลังกาย ทำอะไรก็ทำให้มีความสุข ทำอย่างพอดีค่ะ ค่อยๆแก้ไปทีละจุด และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ

คำถามว่า ฉีดเอสตร้า 2 หลอด เพียวๆ เริศไหม ตอบ : 10 mg. แรงค่ะ แรงมาก เอสตร้าเป็นเคมี Oestradiol Benzoate ที่เป็นสูตรเกลือ ในหลายๆคนพบว่าตัวนิ่มลง กล้ามลดลงได้ แต่หลายๆคนกลับอวบขึ้น ลดการเผาผลาญเกิดการสะสมไขมัน ส่งผลต่างๆ ข้อเสียมีเยอะ ไปจนถึงหลอดเลือดอุดตันได้ อันตรายมาก ถ้าฉีด ฉีดหลอดเดียวก็พอค่ะ เป็นสูตรเอสตร้า 1 หลอด + โปรลูตอน 1 หลอด แบบนี้โอเคค่ะ แล้วมาดูว่าผลตอบสนองเป็นอย่างไร หลายๆคนฉีดเอสตร้า 1 หลอด ทุกๆ 5-6 วันแล้วทานแอนโดรคัวร์ ก็พบว่ากล้ามลดลงมาก และให้ผลน่าพอใจก็มีค่ะ แต่บางคนก็จะเพลียมากเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ล้วนแล้วแต่ความแมนของแต่ละคนด้วย และอื่นๆตามที่บอก ฯลฯ แตกต่างกันไป อย่างไรก็ต้องมาประเมินและปรับใช้กันอีกทีค่ะ ซึ่งกรณียาฉีดหลังฉีดต้องไปตรวจวัดค่าฮอร์โมนด้วยนะคะ อย่าคิดเองเออเอง เพิ่มเอง การมีระดับฮอร์โมนที่สูงเกินค่ามาตราฐานจะมีอันตรายอย่างมากเลยนะคะ

อีกวิธีหนึ่งคือ การออกกำลังกาย ออกกำลังกายให้ตรงจุด วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ดีมากเลยค่ะในหลายๆคน นิยามความสวยแต่ละคนแตกต่างกัน อย่าไปฟังคำคนอื่นค่ะ ทำไมดูไม่ซอฟเลย? ไม่ละมุนเลย? เราสวยในแบบของเราได้ ความสวยนั้นหลากหลาย สวยแบบ healthy ก็ได้ค่ะ ก็จะยิ่งดีมากเลยค่ะ เทคฮอร์โมนให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย แล้วออกกำลังกาย มันคือสิ่งที่ดีที่สุดจริงๆค่ะ มีความสุขในการรับฮอร์โมนเข้าร่างกาย แล้วก็ยังมีความสุขได้ดูแลสุขภาพควบคู่ไปด้วย วันเวลาผ่านไปอะไรๆมันก็จะดีค่ะ

ดังนั้นการเทคฮอร์โมนนั้นเพื่อเปลี่ยนกล้ามให้เป็นไขมัน แล้วเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อที่เฟิร์ม อันนี้เก่งมากๆค่ะ เยี่ยมมาก นอกจากสวยแล้ว สุขภาพดี หุ่นดี รูปร่างดี และเฟิร์มด้วย กล้ามลดด้วย อันนี้ทำได้ คือหนูเก่งมากค่ะ เยี่ยมเลย เทคฮอร์โมน แล้วออกกำลังกายให้ตรงจุด มีความสุขกับการดูแลตัวเอง สวยด้วย สุขภาพก็ดีด้วย รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง สุขในใจ เปล่งออกมาที่กาย เป็นผู้ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช่ฮอร์โมนใช่เรา อันนี้แหล่ะเรียกว่า เลิศจริงๆ อย่าลืมตรวจวัดระดับฮอร์โมน และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จะต้านยาไหมคะ ?

 

ไม่ต้านค่ะ พี่หมวยเคยสอนไว้เสมอว่า เราเป็นผู้ใช้ยา ไม่ใช่ยาใช้เรา เพราะฉะนั้นเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข นี่คือหัวใจหลักๆของการเทคฮอร์โมนเลยค่ะ

พี่หมวยจะไม่เคร่งครัดเช่นพวก ห้ามทานนั่น ห้ามทานนี่ เพราะพวกนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรหนักหนาสาหัส แล้วเราก็ไม่ได้กินกันหลายๆกิโล (เว้นหลุ่มยาต่างๆที่ทำให้ระดับยาฮอร์โมนในร่างกายลดลง) ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว ปัจจัยอื่นควรเลิกกังวลค่ะ ทั้งการกิน การช่วยตัวเอง ไม่ได้ล้างยา หรือต้านยา เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ ทำอะไรทำให้พอดีค่ะ ทานอาหารให้อร่อย ทานผักผลไม้ เปลี่ยนๆเมนูกันไป อย่าเดิมๆซ้ำๆ เราไม่ได้กินทีหลายๆกิโล ส่วนมีเซ็กส์เพื่อผ่อนคลาย ทำอะไรทำแต่พอดี ทั้งมีวินิยและทั้งรู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ หากตรวจวัดระดับฮอร์โมนก็จะทราบอย่างแน่ชัดมากขึ้น จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ควบคุมอารมณ์ และออกกำลังกายรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ทำอะไรทำอย่างพอดี ทำอย่างมีวินัยค่ะ

อย่างที่บอก ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคให้ต่อเนื่อง เทคอย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักผ่อนปรน อย่าเครียด อย่าคิดมากนะคะ เทคอย่างมีความสุขค่ะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ

เรียกว่าสุขกาย สุขใจแล้ว สุขกิน สุขใช้ชีวิตแล้ว ยังมีความสุขที่ได้เทคฮอร์โมนทุกวันสม่ำเสมอค่ะ

ส่วนการสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า ในระหว่างเทคยาฮอร์โมนนี่อันตรายมากค่ะ ถ้าเป็นไปได้เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ ลดได้ลดค่ะ ละได้ละค่ะ พวกสารพิษพวกนี้จะส่งผลตามมาเช่น เพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน ไปถึงโรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ ฯลฯ และกระตุ้นมะเร็งได้ หากเรายังเทคฮอร์โมนอยู่ ถ้าเรายังดื่มเหล้าเข้าไปอีก ก็มีโอกาสตับวายสูงนะคะ เลี่ยงสารพิษเหล่านี้ไว้ค่ะ หรือเพลาๆลง แล้วปรับพฤติกรรมดูนะคะ พยายามค่ะ ถ้าไม่ได้วันนี้ ก็ได้วันหน้าค่ะ อะไรที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำใจให้สบาย วันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็ได้ มันยากแต่ต้องอดทนนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ แล้วมันจะค่อยๆง่ายขึ้น ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆนะคะ เราเก่งค่ะ และอย่าไปเครียดอันจะส่งผลอื่นๆตามมาได้ค่ะ สู้ๆค่ะ

คิดอะไรไม่ออกนึกถึงพี่หมวยนะคะ พี่หมวยยังลดน้ำหนัก 50 โลในเวลา 10 เดือนได้เลยค่ะ คุมอาหารออกกำลังกาย วิ่งวันละ 10 โลทุกวันเลย ก่อนนอนซิตอัพ 400 ที ลดเร็วหน้าตอบ ซูบเหมือนคนเป็นโรคเลย หลังจากนั้นก็บำรุงตัวเองให้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น เทคฮอร์โมนอย่างมีวินัย วันเวลาผ่านไปผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ พี่หมวยก็มีสุขภาพที่ดีขึ้น สวยขึ้น เราก็ต้องทำได้นะคะ อดทนนะคะ สู้ๆนะคะ 
และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

เทคยาแล้วจะเอ๋อไหมคะ ถ้าฉีดฮอร์โมนแล้วจะทำให้เราเบลอมึนงงไหมคะ ?

เทคยาตัวนั้นตัวนี้แล้วจะอ๊องยาไหม เอ๋อไหม เบลอ มึนงงไหมคะ ?

 

จริงๆแล้วเบลอ มึนงง อาการต่างๆเหล่านี้นั้นมีหลายปัจจัยค่ะ ทั้งปัจจัยของยา ผู้ใช้ยา วัยของผู้ใช้ยา ระดับการใช้ของยา การเทคยาหลากหลาย รวมไปถึงภาวะต่างๆของผู้ใช้ ทั้งภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค และมีปัจจัยเสริมต่างๆ รวมไปถึงความไม่รู้ ไม่เข้าใจ เทคยาผิดๆ ร่างกายอ่อนแอ ความไม่สตรองทั้งร่างกายและจิตใจ ฯลฯ เป็นต้น

พี่หมวยต้องประเมินถึงปัจจัยต่างๆของแต่ละบุคคล ว่าอยู่ในภาวะใด และอาจจะช่วงเวลานั้นๆ เทคยาไม่ว่าจะฉีดหรือทานก็มีโอกาสเบลอได้เหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ทุกคนค่ะ เพราะการใช้และระดับการใช้แตกต่างกัน ระดับฮอร์โมนเป็นอย่างไร ฮอร์โมนแกว่งหรือไม่ ยิ่งเทคแอนโดรคัวร์ด้วย จะส่งผลถึงอารมณ์เราให้แปรปรวนและสมาธิเราด้วย รวมไปถึงการนำฮอร์โมนเพศหญิงเข้ามาร่วมด้วยอีกเช่นกัน ไม่ว่าจากตัว โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม หรือแม้แต่ยาคุม เป็นต้น ล้วนส่งผลต่ออารมณ์ ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ แล้วเมื่อเทคฮอร์โมนต่างๆ ในระดับต่างๆ แล้วยิ่งเทคสูงๆ เยอะๆ หลากหลาย แรงด้วย ภาวะร่วมต่างๆ เช่น ภาวะด้านอารมณ์ เครียด คิดมาก จากเรียนหนัก สอบ ปัญหาส่วนตัวต่างๆ ฯลฯ หรือทางด้านร่างกาย ร่างกายอ่อนแอ อ่อนเพลีย พักผ่อนน้อย มีไข้ มีโรคประจำตัว ฯลฯ มีปัจจัยเสริมเข้ามาร่วมอีก เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็จะมีปัญหาหลากหลายตามมามากค่ะ

การเทคยาให้เหมาะกับเรา (ภาวะและปัจจัยเรา) จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก และเนื่องจากปัจจัยร่วมต่างๆ เช่นนอนน้อย พักผ่อนน้อย ความเครียด เป็นต้น ก็มีโอกาสได้หมด การเทคยาฮอร์โมนนั้นไม่ว่าจะฉีดหรือทานล้วนส่งผลต่อร่างกายและจิตใจเราอยู่แล้ว กรณีที่เรานำเอาสิ่งที่ผิดต่อธรรมชาติที่สร้างเรามาเข้าสู่ร่างกายเรา เปลี่ยนจากชายเป็นหญิง ในบางคนเมื่อร่างกายเราไม่เหมาะ เกิดการต่อต้าน หรือไม่เข้ากับยาตัวนั้น อาการข้างเคียงก็จะตามมา ก็จะเกิดผลอันไม่พึงประสงค์เช่น เวียนหัว มึนงง คลื่นไส้ อาเจียน รวมไปถึง คัน และแพ้ได้ ฯลฯ เป็นเคสเบื้องต้น และผลจากการเทคยาหลายๆตัว ผลข้างเคียงของยาแต่ละตัว ก็จะส่งผลหลายๆอย่างประดังกันเข้ามา รวมถึงภาวะของอารมณ์และสมาธิอีกด้วยค่ะ อื่นๆนานัปประการ อะไรๆก็จะตามมาค่ะ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนส่งผลให้เกิดภาวะดังกล่าว

สรุปก็คือว่า ต้องดูหลายปัจจัยค่ะ ทั้งยาต้านฮอร์โมนชาย ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง รวมไปถึงยาคุมด้วย ฯลฯ รวมไปถึงปัจจัยของผู้ใช้ด้วยตามที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนมีความเสี่ยงและอันตรายทั้งนั้นค่ะ แล้วเป็นยากลุ่มไหน ใช้ในปริมาณไหน ระดับไหน เทคหลากหลายไหม แล้วระหว่างการใช้ มีปัจจัยของการเรียนหนัก เครียดไหม ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ไหม ภาวะอารมณ์เป็นอย่างไร ฯลฯ วัยไหน อายุไหน มีโรคประจำตัวไหม อีกทั้งอยู่ในภาวะใดๆบ้าง ภาวะสะสมต่างๆ (เช่นภาวะของอารมณ์ที่เกิดจากการเทคฮอร์โมน จนกลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน คิดมาก หรือไปจนถึงขั้น วิตก หดหู่ คิดแต่แง่ลบ หวาดระแวง ซึมเศร้า ฯลฯ) รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เหล่านี้ก็ล้วนเป็นหลายๆองค์ประกอบที่ต้องนำมาประเมินพิจารณากันค่ะ หรือแม้แต่ อาทิ แปลงเพศแล้วไม่เทคยาก็มีโอกาสได้เช่นกันค่ะ แต่อย่างไรต้องดูอีกหลายปัจจัยค่ะ และประเมินละเอียดให้ลงลึกมากขึ้นค่ะ

กรณีของภาวะการเบลอ มึนงง อ๊องยา เอ๋อไหมตามที่ถามมานั้น สามารถพบได้มากในผู้ที่ใช้ยาแอนโดรคัวร์เป็นอันดับต้นๆค่ะ ยกตัวอย่างเช่น แอนโดรคัวร์ จะมีผลต่อการทำงานของตับ กระดูก และยังทำให้มีผลข้างเคียง จากที่มีข้อมูล และพบได้บ่อยๆ เช่น

- ทำให้สมาธิสั้นลง ใจลอย นั่งเหมอลอย ทำให้ส่งผลต่อการเรียนหรือการอ่านที่เข้าใจได้ยากกว่าคนปกติ และพบว่ามีอาการเบลอได้ สมองล้า สมองช้าได้ คิดนานขึ้น

- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกาย ไปจนถึงมีเสียงดังตามข้อ

- รู้สึกเหนื่อย เพลีย หรือง่วงนอนตลอดเวลา ไม่สดชื่น เช่น บางคนนั่งทำกิจกรรมต่างๆก็หลับได้ บางคนก็นอนเมื่อยตัวจนไม่อยากลุก จะนอนอย่างเดียว ไม่อยากทำกิจกรรมใดๆ

- ในระยะยาว ความจำสั้นหรือขี้หลงขี้ลืมก่อนวัย ฯลฯ

สำหรับแอนโดรคัวร์จะส่งผลต่ออารมณ์ จากที่มีข้อมูล และพบได้บ่อยๆ เช่น

- ขี้หงุดหงิด อารมณ์หงุดหงิดง่าย เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไว ขึ้นไวลงไว โกรธง่ายหายเร็ว คิดมาก คิดเยอะ ฟุ้งซ่าน ฯลฯ

- หดหู่ง่าย คิดนั่นคิดนี่ อยู่ดีๆก็อยากร้องไห้ขึ้นมา คิดแต่ด้านลบ ขี้น้อยใจ บางช่วงอยู่ๆก็น้อยใจชีวิต รู้สึกรันทดในชีวิตแบบไม่ทราบสาเหตุ ร้องไห้คนเดียว กลายเป็นคนคิดแต่แง่ลบ หวาดระแวง ไปจนถึงซึมเศร้า เก็บตัว ฯลฯ

ที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นแค่บางส่วนจากผลข้างเคียงจากยาตัวหนึ่ง เมื่อเรา + อีกตัวหนึ่งเป็นตัวเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง อาทิเช่น โปรกีโนว่า ก็จะมีผลข้างเคียงของโปรกีโนว่าอีกเช่นกัน หรือยาคุมก็เช่นกัน ยาตัวอื่นๆก็เช่นกันได้ค่ะ และปริมาณที่เทคก็เช่นกัน เมื่อเราเทคร่วมกัน รวมฤทธิ์กัน ภาวะดังกล่าวก็สามารถเกิดขึ้นได้ เราจึงต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง ให้เหมาะกับวัยเรา ภาวะและปัจจัยของเรา ในระดับที่เหมาะกับเรา และเหมาะกับชีวิตประจำวันของเรา และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ

หรือแม้เราอาจจะไม่ได้ใช้ยาแอนโดรคัวร์ก็ตาม แต่ที่พบได้บ่อย ก็เกิดจากการใช้ยาคุมหลายๆเม็ด ก็เช่นกัน (บางคนกินเช้า-เย็นกันเลย) หรือแม้แต่ยาฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเดียว ก็เช่นกันค่ะ ในปริมาณที่สูง หรือหลากหลายก็เช่นกันค่ะ เช่น ยาคุม+ยาฮอร์โมนเพศหญิง เป็นต้น เกี่ยวข้องกับอาการต่างๆ อารมณ์ได้หมดค่ะ

เพราะฉะนั้นการที่จะเทคฮอร์โมนนั้น ต้องเทคให้เหมาะกับร่างกายเรา เทคให้เป็น เทคอย่างถูกต้อง เทคอย่างพอดี ในเวลาที่เหมาะสม และปฏิบัติตัวให้ถูกต้องหลังเทคยา ถ้าสอบหรือเรียนหนักก็อย่าเพิ่งเทคค่ะ อย่าห่วงแต่สวยนะคะ และพยายามเลี่ยงสารพิษต่างๆค่ะ

สาวประเภทสองอย่างเราจึงต้องเก่ง ต้องสตรอง นอกจากเก่งแล้ว จึงต้องอดทน ต้องต่อสู้ต่างๆแล้ว อย่างไรก็ตามภาวะทางอารมณ์และจิตใจนั้นสำคัญมาก นอกจากเราต้องสตรองทั้งร่างกายและจิตใจ เราต้องรู้จักหักห้ามอารมณ์ของตัวเอง เป็นคนใจเย็นมากขึ้น หากชอบคิดมาก ก็หัดทำใจให้สบาย เลิกคิดมาก เลิกฟุ้งซ่าน อันเป็นต้นเหตุต่ออารมณ์แปรปรวนต่างๆที่จะตามมาค่ะ และปัญหาต่างๆก็ค่อยๆแก้ไขไปอย่างฉลาดค่ะ

อย่าลืมยึดมั่นในคำย้ำสอนพี่หมวย 3 พึงไว้นะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ

เป็นสาวประเภทสองที่ต้องใช้ยาแล้ว จึงต้องมีสติ มีความสตรอง ต้องอดทน ต้องแข็งแกร่ง ต้องมั่นเข้าไว้ และต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างผู้รู้นะคะ เทคอย่างมีความสุข เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน มิใช่ฮอร์โมนใช้เราค่ะ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนค่ะ สู้ๆนะคะ

 

ฉีดหรือทานฮอร์โมน แล้วช่วยตัวเองได้ไหมคะ ?

 

เทคฮอร์โมนแล้วสามารถช่วยตัวเองได้ค่ะ เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ เราต้องเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคให้เหมาะกับค่า BMI ของเรา ภาวะเรา การใชีชีวิตประจำวันของเรา เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ ยาเข้ากระแสเลือดไปแล้ว ก็สบายใจได้ค่ะ ช่วยตัวเองได้ค่ะ แต่อย่าบ่อยมากไปค่ะ อย่าคิดมากค่ะ ทำอะไรทำให้มีความสุข สบายใจ ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ ทั้งมีวินัยและทั้งรู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ

ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว ปัจจัยอื่นควรเลิกกังวลค่ะ ทั้งการกิน การช่วยตัวเอง ไม่ได้ล้างยา หรือต้านยา เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ ทำอะไรทำให้พอดีค่ะ ทานอาหารให้อร่อย ทานผักผลไม้ เปลี่ยนๆเมนูกันไป อย่าเดิมๆซ้ำๆ เราไม่ได้กินทีหลายๆกิโล ส่วนมีเซ็กส์เพื่อผ่อนคลาย ทำอะไรทำแต่พอดี รู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ หากตรวจวัดระดับฮอร์โมนก็จะทราบอย่างแน่ชัดมากขึ้น จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ควบคุมอารมณ์ และออกกำลังกายรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ทำอะไรทำอย่างพอดี ทำอย่างมีวินัยค่ะ

อย่างที่บอก ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง 
อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคให้ต่อเนื่อง เทคอย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักผ่อนปรน อย่าเครียด อย่าคิดมากนะคะ เทคอย่างมีความสุขค่ะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ

เรียกว่าสุขกาย สุขใจแล้ว สุขกิน สุขใช้ชีวิตแล้ว ยังมีความสุขที่ได้เทคฮอร์โมนทุกวันสม่ำเสมอค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

การเทคโปรกีโนว่า 2 mg. หลายเม็ด อันตรายนะคะ

 

พี่หมวยคะ หนูเทคแอนโดรคัวร์ 1 เม็ด + โปรกีโนว่า 2 mg. 2 เม็ด จะเป็นไรไหมคะ ?

ตอบ : ไม่เป็นไรค่ะ ต้องดูว่าเรามีเหตุอันต้องใช้ในระดับนี้ไหม โปรกีโนว่า 2 mg. 2-3 เม็ด มีโอกาสทำให้บวม อวบ อ้วนขึ้นได้นะคะ ส่วนแอนโดรคัวร์พอถึงระดับหนึ่งก็ลดลงมาประคองค่ะ แอนโดรคัวร์ 50 mg. เทควันละ 1 เม็ดได้ แต่ให้เทคไปตามค่า BMI ค่ะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ หรือไปตรวจระดับฮอร์โมนจะดีมากๆค่ะ

สำหรับการเทคโปรกีโนว่า 2 mg. 2 เม็ดทุกวันนั้น เทคได้นะคะ ซึ่งสำหรับกรณีทั่วๆไปน้องๆไม่จำเป็นต้องเทคให้ถึงหรือเกิน 6-8 mg. ต่อวันก็ได้ค่ะ บางท่านอาจจะยังไม่มีความจำเป็นเกินไปค่ะ ถ้าไปตรวจฮอร์โมนจะได้รู้ว่าควรเทคที่ระดับไหนดีกว่า แต่ถ้าหลายๆเม็ดไม่แนะนำโดยทั่วไปค่ะ เพราะมันจะแรงไป ซึ่งระดับสูงๆ อาทิเช่น 6-8 mg. นั้นต้องให้แพทย์ตัดสินใจเท่านั้นค่ะ อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเลยนะคะ และการเทคสูงๆนั้นจะส่งผลให้หลอดเลือดอุดตันได้ 
และอื่นๆตามมามากมาย อันตรายนะคะ (ลูกสาวพี่หมวยหลายๆท่านทั้งทานทั้งฉีดร่วมด้วย เลือดข้นเลือดหนืดได้ อันตรายมากๆค่ะ) พออายุมากขึ้นก็จะส่งผลเสียตามมาอีกมากมาย ผลเสียเยอะกว่าผลดี การเทคยานั้น เราจะเทคมั่วๆ เทคตามใจตัวเองนั้นไม่ได้ พี่หมวยถึงต้องประเมินเป็นรายๆไป และปรับสูตรการเทคยาต่อเนื่อง โดยพี่หมวยจะไม่แนะนำให้ทาน โปรกีโนว่า 2 mg. 2 เม็ดขึ้นไปแทบทุกราย เพราะไม่มีความจำเป็นขนาดนั้นที่จะต้องเทคแรงๆ นอกจากตรวจฮอร์โมนแล้วมีเหตุอันจำเป็นต้องเทคในระดับนี้ หรืออาทิแปลงเพศแล้วเป็นต้น โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินค่ะ


สำหรับสาวประเภทสองที่ยังไม่ได้แปลงเพศ 1 เม็ดก็เพียงพอค่ะ (เว้นแพทย์ประเมินหรือกรณีแปลงเพศ แพทย์จะเป็นผู้ปรับระดับการใช้ยาให้ค่ะ อาจจะต้องเทคสูงหรือต่ำกว่านี้ 1-8 mg. แต่ต้องอยู่ในความดูแลของเพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ ส่วนอย่างเราๆเทคแค่วันละ 1 เม็ดก็เพียงพอแล้วค่ะ ความสตอง ปัจจัยและภาวะแต่ละคนแตกต่างกัน รวมถึงการใช้ชีวิตก็ต่างกัน ฯลฯ) พี่หมวยเคยสอนเสมอๆให้ 3 พึง คือพึงรู้ พึงพอ พึงรักษา ไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่จะต้องเทคแรงๆ เพียงคิดว่าเห็นผลเร็วๆ เทคแต่พอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ ลด ละ เลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทาน สวยกันไปยาวๆแล้วสุขภาพก็ดีด้วยค่ะ

 

โปรกีโนว่า กับ ไซโคลโปรกีโนว่า Progynova (โปรไกโนว่า) กับ Cyclo-progynova (ไซโคลโปรไกโนว่า) ต่างกันยังไงเหรอคะ ?

 

โปรไกโนว่า หรือที่เรียกติดปากกันว่า โปรกีโนว่า ไซโคลโปรไกโนว่า หรือที่เรียกติดปากกันว่า ไซโคลโปรกีโนว่า ค่ะ

Cyclo-progynova ไซโคลโปรไกโนว่า จะออกแบบยาให้สอดคล้องกับการมีประจำเดือนค่ะ progynova ส่วนโปรไกโนว่า มีปริมาณฮอร์โมนคงที่ Cyclo-Progynova ปริมาณฮอร์โมนในแผงยาจะไม่คงที่ และเปลี่ยนไปตามสภาวะรอบประจำเดือน เนื่องจากสาวประเภทสองไม่มีประจำเดือน ทานแค่ Progynova ก็พอนะคะ

สำหรับ Cyclo-Progynova ไซโคลโปรไกโนวา เป็นฮอร์โมนทดแทนสูตรรวมสำเร็จค่ะ มี 21 เม็ด เม็ดสีขาว 11 เม็ดแล้วก็เม็ดสีน้ำตาล 10 เม็ดค่ะ

เม็ดสีขาว Estradiol Valerate 2 mg

ส่วนเม็ดสีน้ำตาล Estradiol valerate 2 mg + Norgestrel 0.5 mg

ส่วนโปรกีโนวา (โปรไกโนวา) ที่เราทานกันปรกติ 2 mg นั้น 28 เม็ด ตัวยา Estradiol Valerate 2 mg ค่ะ

ถ้าเราได้ Cyclo-Progynova มา ให้ทานเฉพาะเม็ดสีขาวพอค่ะ

 

ทำไมเทคฮอร์โมนช่วยให้หน้าอกใหญ่ขึ้น ทำไมบางคนยุบลง ?

 

ปัจจัยที่ทำให้หน้าอกขยายขึ้นนั้น เมื่อกลไกของการกดฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศหญิงจะเด่นขึ้นมาได้บ้าง และเมื่อเทคยาเข้าไปกระตุ้นเพิ่มก็จะเร่งการพัฒนาของเต้านมให้เร็วขึ้น และมากขึ้น บางคนแทบไม่ขึ้นเลย บางคนขึ้นน้อย บางคนขึ้นมาก ซึ่งต้องดูการตอบสนองของแต่ละคนค่ะ รวมไปถึงปัจจัยของฐานฮอร์โมนเพศชายที่หน้าอกเรา หากมีน้อยก็จะขึ้นได้มากค่ะ หากมีมากก็จะขึ้นได้น้อย รวมไปถึงการประเมินถึงสูตรยาที่เทคนั้นๆ ความแมนของแต่ละคน ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยต่างๆ ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงกรรมพันธุ์ของเราด้วยค่ะ เป็นต้น ฯลฯ

แต่ในทางกลับกัน บางท่านยุบได้ค่ะ นั่นเพราะเกิดการความไม่สมดุลของฮอร์โมน เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อน เทคผิดๆ เทคมั่ว หรือเทคๆหยุดๆจนไม่เกิดการพัฒนาใดๆ ไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนสูตร ปรับสูตรที่ไม่เข้ากับร่างกายเรา ร่างกายไม่ตอบสนอง ร่างกายสับสน ฮอร์โมนผิดเพี้ยน รวมไปถึงปัจจัยต่างๆในชีวิตประจำวัน การกิน ความเครียด ความแมน ฯลฯ เมื่อรวมๆกัน ล้วนมีโอกาสทำให้นมยุบได้ค่ะ

ส่วนกรณีสำหรับตัว LDB ในกรณีที่เราทำนมมาแล้ว จะทำให้นมนิ่มไวขึ้นด้วย เพราะมันจะไปสร้างต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมหุ้มซิลิโคนอีกทีค่ะ เยี่ยมเลยค่ะ

อย่างไรยาฮอร์โมนไม่ใช่ยานมโตนะคะ แต่การที่หน้าอกใหญ่ขึ้นเกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งการต้านฮอร์โมนชาย เสริมฮอร์โมนหญิง ตัวยา ร่างกาย การตอบสนอง ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ กรรมพันธุ์ ฯลฯ เทคยาอย่างผู้รู้นะคะ เทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ อย่าเทคเยอะ เทคผิดๆ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ อย่าลืมตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ช่วงลดน้ำหนัก ต้องหยุดเทคฮอร์โมนไหมคะ ?

 

พี่หมวยจะจำแนกเป็นกรณีๆนะคะ ฮอร์โมนจำเป็นต้องเทคตลอดนะคะ (แต่ไม่ทุกคนเสมอไปค่ะ) นอกจากตัวนั้นจะทำให้เราบวมหรืออวบขึ้น เราอาจจะจำเป็นต้องเปลี่ยนสูตร และต้องประเมินเป็นช่วงๆไปค่ะ

ในกรณีที่อ้วนมาก พี่หมวยอาจจะจำเป็นต้องให้งดไปก่อนค่ะ ถ้าเราอยากเทคพี่หมวยอนุโลมเป็นสมุนไพร LDB + ละมุนนี ดูไปก่อนได้ค่ะ (เพื่อไปต่อระดับ + โปรกีโนว่า หรือเอสโตรเฟม เป็นต้น พี่พออยู่ในระดับที่อนุโลมขึ้นมาอีกได้) อย่างพึงระวัง และยังต้องดูผลตอบสนอง อาการข้างเคียงต่างๆด้วยนะคะ และต่อการลดน้ำหนัก หากไม่มีปัจจัยใดๆก็ตาม ก็สามารถทานได้ พร้อมทั้งลดน้ำหนักไปด้วยกันได้ค่ะ อย่างไรนั้นต้องประเมินดูเป็นระยะๆ ส่วนการลน้ำหนักก็ต้องตั้งใจ มีวินัยและเคร่งครัดด้วยนะคะ

ในกรณีที่เราอ้วนมาก อีกกรณีหนึ่ง พี่หมวยอาจจะจำเป็นต้องให้งดเทคฮอร์โมนทั้งหมด และลดน้ำหนักก่อนค่ะ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดก่อน ก็หมายความว่าเบื้องต้นต้องคำนึงถึงหลายๆปัจจัยค่ะ และมีการตรวจสุขภาพ ร่างกาย ตรวจดูค่าต่างๆ อันตรายต่างๆ ซึ่งเราจะต้องลดปัจจัยเสี่ยงทั้งหมด และตั้งใจลดให้มาอยู่ในระดับที่พี่หมวยประเมินแล้วเริ่มเทคได้ค่ะ รวมไปถึงโรคประจำตัวด้วยก็เช่นกันค่ะ

หรือในกรณีที่แม้ไม่ได้อ้วนมากเกินไป แต่มีปัจจัยเสี่ยง หรือยังไม่ตรวจค่าต่างๆพี่หมวยก็อาจจะจำเป็นต้องให้งดก่อนแล้วไปตรวจให้แน่ชัดอีกทีก่อนนะคะ

สูตรการเทคยาฮอร์โมนนั้น มีเยอะมากมาย ทุกๆตัวล้วนมีผลเสีย ผลข้างเคียง ไม่ใช่เรื่องที่จะสรุปกันง่ายๆ เราต้องคำนึงถึงหลายๆปัจจัย ทั้งอายุ วัยของผู้ใช้แตกต่างกัน ร่างกายก็แตกต่างกัน ความสตรองแตกต่างกัน (อันนี้สำคัญมาก) ภาวะและปัจจัยต่างๆแตกต่างกัน การกิน การอยู่ การใช้ชีวิตก็แตกต่างกัน วิถีชีวิตแตกต่างกัน ปัจจัยร่วมต่างๆก็แตกต่างกัน เช่น เรียน สอบ เครียด ทำงาน ฯลฯ มีความกดดัน ภาวะของโรคต่างๆ ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจก็แตกต่างกัน ล้วนมีผล และต้องนำมาประกอบการพิจจารณาด้วยค่ะ และต้องมีระยะเวลามากำหนด มาประเมินอีกเช่นกันค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น บางรายเทคสูตรแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า แม้ไม่พบว่าทำให้อวบขึ้น อ้วนขึ้น มีผลต่อการกินจุกจิก หิวบ่อยก็ตาม แต่แล้วกลับพบว่าเพลีย อ่อนแรง ออกกำลังกายไม่ไหว หน้ามืด ก็อาจจะเป็นลมไปได้ เป็นต้น (เดี๋ยวมาว่าต่อถึงปัจจัยของการออกกำลังกาย) หรือแม้แต่อยู่ในภาวะเครียด อารมณ์แปรปรวน สอบ เรียนหนังสือหนัก ฯลฯ ปัจจัยพวกนี้ ต้องหยุดเทคไปก่อนนะคะ หรืออาจจะลดระดับ หรืออาจจะเปลี่ยนสูตรไปเป็นสูตรสมุนไพร อาทิเช่น แอลดีบี + ละมุนนี เป็นต้น หรือสูตรอื่นๆ ในระดับต่างๆ ที่ต้องมาประเมินอีกทีค่ะ

กรณีสูตรฉีดก็เช่นกันค่ะ ช่วงลดน้ำหนัก ถ้าเป็นคนอ้วนมาก ต้องงดเลยค่ะ หรือแม้แต่ไม่ถึงกับอ้วนมากพี่หมวยก็อาจจะต้องให้งดค่ะ และต้องตรวจดูค่าต่างๆร่วมด้วยเช่นกัน และปัจจัยต่างๆอีกเช่นกันค่ะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อคำนวณค่า BMI และปัจจัยร่วมต่างๆแล้ว เห็นสมควรว่าเริ่มเทคได้ ก็เทคให้เหมาะกับตัวเรา วัยเรา รวมถึงต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทค และรู้ถึงอันตรายของยาฮอร์โมน ทั้งแบบฉีดและทานด้วยนะคะ และบางท่านอาจจะยังไม่สตรองพอค่ะ แม้บางท่านอาจจะคิดว่าแข็งแรง แต่ปัจจัยยิบย่อยต่างๆอาจจะเกิดได้ เข้ามาแทรกได้ อย่างไรนั้นก็ทำให้ถูกต้องไปตามระบบ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน ตรวจสุขภาพ ร่างกาย และรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไหม และประเมินตัวเราเองว่าสตรองไหม ไหวไหม ก็เทคให้ถูกต้อง ไม่มีปัจจัยต่างๆดังกล่ามตามที่พี่หมวยเคยๆสอน และต้องมาดูปัจจัยของการออกกำลังกายอีกทีค่ะ

ปัจจัยต่อมา คือปัจจัยของการออกกำลังกายค่ะ ซึ่งต้องมาดูว่าเราออกกำลังกายแบบไหน อย่างไรบ้าง ในร่มหรือกลางแจ้ง ระยะเวลาเท่าไหร่ ออกกี่ช่วงเวลา หนัก/เบา แค่ไหน อย่างไร มีวันพักไหม พักอย่างไร ฯลฯ ซึ่งล้วนต้องนำมาประกอบการพิจารณาร่วมอีกเช่นกันค่ะ

อย่างไรก็ตามให้เทคไปตามความเหมาะสม อย่าออกกำลังกายหักโหมเกินไป ไม่ควรทานยาลดน้ำหนักนะคะ อาจจะทานสมุนไพรก็อาจจะพอได้ หรือดีที่สุดคือไม่ต้องใช้ตัวช่วยอะไรเลยค่ะ คุมอาหารให้เหมาะสม เลือกทานอาหารให้เป็น ให้พอดี อย่าอดอย่าโหย ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วออกกำลังกายให้ถูกต้อง ให้พอดีค่ะ ออกกำลังกายให้ถูกจุด ตรงจุด ทำให้มีวินัยไปเรื่อยๆ และที่สำคัญลดน้ำหนักอย่างมีความสุขนะคะ

เราลดน้ำหนักเพื่อลดไขมันสะสม ไขมันส่วนเกินทั้งหลายที่มันมีมากเกินไป โดยค่อยๆเป็นไปตามเวลา อย่าเร่งรีบ รีบร้อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ (ไม่ใช่ออกแล้วบาดเจ็บบ้าง ล้าบ้าง ไม่ไหวบ้าง ป่วยบ้าง หักโหมเกินไป แข่งกับเวลาบ้าง เครียด กดดัน ท้อ ฯลฯ) ถ้าเราต้องการลดให้ผอมถาวร ไม่ใช่ชั่วคราว เราก็ต้องปรับพฤติกรรมต่างๆ หลายๆอย่างเลยค่ะ แต่อย่างไรทำอย่างมีความสุขนะคะ ออกกำลังกาย เพื่อฟิตหุ่นให้ดี ให้เป๊ะ หรือให้ได้ดั่งหวัง ออกกำลังกายให้ถูกจุด สร้างภูมิต้านทานให้ตัวเอง ออกเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ทั้งกายและต้องทั้งใจด้วย

ส่วนฮอร์โมนจำเป็นต้องเทคตลอด ฮอร์โมนนอกจากยังจำเป็นต้องคงความเป็นหญิงของเราให้สม่ำเสมอแล้ว อีกทั้งยังดีต่อความสุขของหัวใจของเราด้วย ตอบโจทย์ของเรา ความสุขของเราก็คือ ยาฮอร์โมนยังตอบโจทย์ทั้งร่างกายทั้งจิตใจ เทคยาอย่างมีความสุขนะคะ ควบคุมอารมณ์ ช่วงลดน้ำหนัก ก็เทคยาควบคู่ไปด้วยค่ะ แต่ต้องเทคให้ถูกต้อง ไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลือกใช้ยาให้ถูกเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง มีเหตุให้ช่วงใดที่ต้องหยุดก็ต้องหยุดนะคะ

ขอเพียงเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดีค่ะ เทคอย่างมีความสุข พอใจเท่าที่ได้ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา เมื่อผอมแล้วเราก็จะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น รู้หลักมากขึ้น ปรับให้เหมาะกับตัวเราเอง อยากทานอะไรก็ทาน ทานแต่พออิ่ม ทานแต่พอดี จะทานแหลกแบบพี่หมวยก็ย่อมได้ แต่ต้องรู้จักพอประมาณ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ให้มีระบบเผาผลาญที่ดี สร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ผอมแล้วสุขภาพก็แข็งแรง ผอมแล้วทานอะไรก็ได้ค่ะ และหมั่นไปตรวจสุขภาพ ตรวจค่าต่างๆปีละครั้ง-สองครั้งค่ะ

สุดท้ายอย่างที่พี่หมวยเคยย้ำสอน "มีวินัยและรู้จักผ่อนปรน" มีความสุขกับการใช้ชีวิต การออกกำลังกาย การเทคฮอร์โมนนะคะ

 

การเริ่มต้นเทคยาที่ผิด

 

พี่หมวยอยากจะเตือนน้องๆเสมอเรื่องการเริ่มต้นเทคยา ช่วงแรกๆนั้นร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน องค์ประกอบหลายๆอย่าง ปัจจัยต่างๆแตกต่างกัน หากเริ่มต้นได้ดี เทคเป็น เทคได้ถูกต้อง และเหมาะกับวัยเรา ร่างกายเรา เราอาจจะมีสัญญาณที่ดีและพัฒนาได้ต่อเนื่อง ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ร่างกายเราจะจดจำฮอร์โมนครั้งแรก เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อาจจะทำให้เราซอฟได้มาก แต่หากเทคมั่วซั่วไปหมด จะส่งผลให้ร่างกายเราเกิดภาวะการรับฮอร์โมนแบบไม่ต่อเนื่อง แบบหลากหลาย มั่วๆ แบบผิดๆ แบบก้าวกระโดด ฮอร์โมนแกว่ง ฮอร์โมนผิดเพี้ยน ฯลฯ ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดจากการเทคยาไม่สม่ำเสมอ และเทคผิด ปรับตามใจตัวเอง ปรับเยอะ ขึ้นเยอะ ลงเยอะ เทคหลายๆตัวอีก และเปลี่ยนสูตรอีก ฯลฯ ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ร่างกายก็จะผิดเพี้ยนไป ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนไปหมด และสุดท้ายก็จะอยู่ตัว ไม่พัฒนาใดๆ หรือเป็นไปได้ช้า และส่งผลเสียตามมาได้

อย่างไรน้องๆต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วยนะคะ ทั้งข้อเสียของยา ภาวะต่างๆอันไม่ควรเทค ปัจจัยอันห้ามเทค ไม่ใช่คิดว่าอยากจะเทคก็เทค ต้องดูองค์ประกอบหลายๆอย่างด้วยนะคะ ยาพวกนี้อันตรายมาก ส่งผลร้ายตามมามาก ศึกษาการเทค เทคอย่างผู้รู้ เทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยนะคะ

 

โปรลูตอนอินเดีย กับเยอรมันต่างกันยังไงเหรอคะ ?

 

จริงๆเรื่องเกรดนั้น อินเดียและเยอรมัน Hydroxyprogesterone Caproate / Hydroxyprogesterone Hexanoate เคมีคนละตัวค่ะ พันธะเคมี ให้ผลแตกต่างกันค่ะ การเกาะตัวของโมเลกุลต่างกัน แต่อย่างไรเป็น steroidal progestin ส่วนที่เราเรียกติดปากว่าเกรดอินเดียนั้น จะมาจากประเทศปากีสถาน จริงๆแล้วให้ดูที่การตอบสนองของร่างกายเราดีกว่าค่ะ จากการประเมินผลการแสดงออกของร่างกายแต่ละคนพบว่าเกรดอินเดีย บางคนหน้าอกใหญ่ขึ้น บางคนผิวดีขึ้น แต่บางคนกลับคล้ำขึ้น บางคนขนดกขึ้น (แต่ไม่ทุกคนค่ะ) ส่วนเกรดเยอรมันบางคนกลับได้ผิวมากกว่าหน้าอก แต่ก็พบได้ว่าบางคนก็ได้หน้าอกมากกว่า บางคนเปลี่ยนจากอินเดียมาเยอรมันนมยุบก็มีค่ะ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยเช่นกัน จะยังไม่สามารถฟันธงได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมน (อาจจะ ณ เวลานั้น) การเทคยาหลากหลาย รวมไปถึงกรรมพันธุ์ ความแมน การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องมาประเมินกันอีกทีค่ะ ซึ่งล้วนแล้วแต่คน และไม่เสมอไป และหลายๆคนพบว่าฉีดเกรดไหนไม่แตกต่างกันค่ะ

เพราะฉะนั้นให้ดูว่าร่างกายเราเข้ากับเกรดไหนได้ดีกว่ากันดีที่สุดค่ะ บางคนก็ถูกกับเกรดอินเดียมากกว่า บางคนก็ปลื้มเยอรมันมากกว่าค่ะ หลังฉีดสักระยะอาจจะประเมินได้ชัดเจนว่าตัวไหนให้ผลไปในทิศทางใด เข้ากับร่างกายเราไหม ตอบโจทย์เราไหม มีอาการข้างเคียงอะไรไหม ค่อยๆประเมินความแตกต่างกันไป ตามการตอบสนองของร่างกาย วิเคราะห์ข้อเด่นข้อด้อยว่าผลอย่างไรบ้างกับตัวนั้นๆ อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

ต้องฉีดตลอดไปไหมคะ ?

 

ได้ทั้งตลอดไป และไม่ตลอดไปค่ะ ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย แล้วแต่กรณีๆค่ะ (จริงๆการฉีดฮอร์โมน พี่หมวยไม่ค่อยอยากแนะนำเลยนะคะ การฉีดฮอร์โมนอันตรายมาก มีความเสี่ยงต่อโรคร้ายๆเยอะมาก แพทย์หลายท่านไม่แนะนำค่ะ แม้พี่หมวยจะตักเตือนแต่น้องๆก็อยากฉีด พี่หมวยก็ทำได้แค่คอยสอน แนะนำ ตักเตือน และให้ความรู้ เราเองก็ต้องระวังไว้ด้วยนะคะ) อยู่ที่ระดับฮอร์โมนของเรา มีความจำเป็นขนาดนั้นไหม ความพอใจ ร่างกายมีการตอบสนองทั้งดีและไม่ดีเท่าที่ควรไหม เราฉีดเราคาดหวังเพื่อให้ช่วงที่เราฉีดนั้นสวยขึ้น เปล่งปลั่งมากขึ้น เป็นหญิงมากขึ้น ไปได้เร็ว มีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เร็วขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้าสวยขึ้น สลายกล้าม ลดขนที่ดกดำให้อ่อนลง บางลง ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาหวานละมุนละไมขึ้น และอ่อนเยาว์ลง หากมีการตอบสนองที่ดีอยากฉีดต่อก็ได้ค่ะ แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อจะได้รู้ค่าอย่างแท้จริง เพื่อประเมินทิศทางต่อไปได้ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

เมื่อฉีดไปจนเราคิดว่าสวย และพอใจแล้ว ให้พอใจเท่าที่ได้ หลังจากนั้นค่อยเว้นห่าง หรือหยุดฉีดไปเลยจะดีมากค่ะ (เพราะการฉีดมันอันตราย และเสี่ยงโรคร้ายมาก พี่หมวยไม่ค่อยอยากแนะนำเลย) แต่ต้องทานยาเพื่อประคองไว้เสมอ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องตับเลย เพราะตับสามารถรักษา ฟื้นฟู คืนสภาพตัวเองได้ แต่นั่นคือเราต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้องด้วยนะคะ เทคแต่พอดี ถึงเวลาหยุดก็ต้องหยุด พักก็ต้องพัก และรักษาสุขภาพให้มากๆนะคะ พักตับทุกๆ 3-4 เดือนครั้ง ตามวัย ตามความหลากหลายของของยาที่เราเทค พักจากสารเคมีต่างๆ และต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนและควรตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ ใช้ยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้แต่พอดีค่ะ เพื่อความสวย และความสวยต้องมาพร้อมสุขภาพดีด้วยค่ะ (เว้นกรณีที่ไม่สามารถทานได้ เช่นกระดูกพรุน แล้วคุณหมอประเมินให้ฉีดแทน อาจจะต้องฉีดไปตลอดชีวิตค่ะ บางท่านก็จะเลือกทาแทนก็ดีค่ะ) พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยนะคะ

 

กินหรือฉีดตัวไหนเห็นผลเร็วสุดคะ / ตัวไหนนมตู้มสุดคะ ?


จริงๆแล้วเราจะไม่เรียกยานมโต หรือกินตัวไหน หรือฉีดตัวไหนนมตู้มที่สุดนะคะ การเทคฮอร์โมนของสาวประเภทสองคือการใช้ฮอร์โมนเพื่อให้ฮอร์โมนเข้ามาพัฒนาเราให้ละม้ายคล้ายคลึงไปทางสตรีเพศ ไปตามเวลาและการตอบสนองของเราด้วย เลือกสูตรที่เหมาะกับเรานะคะ ทุกๆสูตรก็อาจจะมีโอกาสนม มากน้อยก็แล้วแต่การตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ฐานฮอร์โมนเพศที่หน้าอก ระดับฮอร์โมนเพศ กรรมพันธุ์ ปัจจัยต่างๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ไม่ว่าจะสูตรยาเคมี หรือยาสมุนไพร ไม่ว่าจะทานหรือฉีด หรือใช้ร่วมกัน เลือกสูตรที่เข้ากับร่างกายที่สุดค่ะ และให้มันไปตามกาลเวลา ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา เทคยาอย่างผู้รู้ เทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้นะคะ

ปัจจัยที่ทำให้หน้าอกขยายขึ้นนั้น เมื่อกลไกของการกดฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศหญิงจะเด่นขึ้นมาได้บ้าง และเมื่อเทคยาเข้าไปกระตุ้นเพิ่มก็จะเร่งการพัฒนาของเต้านมให้เร็วขึ้น และมากขึ้น บางคนแทบไม่ขึ้นเลย บางคนขึ้นน้อย บางคนขึ้นมาก ซึ่งต้องดูการตอบสนองของแต่ละคนค่ะ รวมไปถึงปัจจัยของฐานฮอร์โมนเพศชายที่หน้าอกเรา หากมีน้อยก็จะขึ้นได้มากค่ะ หากมีมากก็จะขึ้นได้น้อย รวมไปถึงการประเมินถึงสูตรยาที่เทคนั้นๆ ความแมนของแต่ละคน ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยต่างๆ ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงกรรมพันธุ์ของเราด้วยค่ะ เป็นต้น ฯลฯ

เราเห็นเพื่อนเทคสูตรนั้นสูตรนี้นมตู้ม นมมาเยอะ ผิวพรรณดี ดูซอฟ ดูละมุน ฯลฯ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขาค่ะ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน กรรมพันธุ์แตกต่างกัน การตอบสนองต่อยาไม่เหมือนกัน การเทคฮอร์โมนนั้น เราต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้องค่ะ เป็นเรื่องที่ดีที่สุดค่ะ โดยไม่ควรคาดหวังว่าอยากได้ตรงนั้น อยากได้ตรงนี้ อยากเหมือนคนนั้น อยากเหมือนคนนี้ เทคแล้วค่อยๆให้มันมีพัฒนาการของรูปร่าง หุ่น สรีระ ผิวพรรณ หน้าอก ความละมุนละไม ฯลฯ ไปตามกาลเวลา การตอบสนองของแต่ละคนค่ะ เทคให้มันถูกต้องก็พอ อย่าไปเทคตามใคร และพอใจเท่าที่ได้นะคะ สูงสุดอย่างไรก็ต้องกลับคืนสู่สามัญ เทคอย่างพอดี สวยในแบบของเราค่ะ เทคในวันนี้ต้องห่วงถึงวันข้างหน้า รู้อันตราย รู้ผลข้างเคียง รู้ผลที่จะตามมาระยะยาวด้วย สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วย จะดีที่สุดในระยะยาวค่ะ

โดยหลักๆแล้วการเทคฮอร์โมนของสาวประเภทสองนั้นเราต้องกดฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง แล้วดูการตอบสนองของร่างกายเราว่าเหมาะกับสูตรไหนที่สุด แต่ละสูตรให้ผลเป็นอย่างไร ไปในทิศทางใด ขอเพียงเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ และหากมีการตอบสนองที่ดี ก็จะมีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยนะคะ

อย่างไรยาฮอร์โมนไม่ใช่ยานมโตนะคะ แต่การที่หน้าอกใหญ่ขึ้นเกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งการต้านฮอร์โมนชาย เสริมฮอร์โมนหญิง ตัวยา ร่างกาย การตอบสนอง ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ กรรมพันธุ์ ฯลฯ เทคยาอย่างผู้รู้นะคะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ อย่าเทคเยอะ เทคผิดๆ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ อย่าลืมตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

พึงรู้ คือรู้ว่าเรากำลังเทคอะไร ต้องเทคอย่างไร ผลดีผลเสียเป็นอย่างไร อาการข้างเคียงเป็นอย่างไร พึงพอ คือพอใจเท่าที่ได้ เท่าที่มี รู้จักพอดี พึงรักษา คือคิดถึงวันข้างหน้า สุขภาพของเรา ผลข้างเคียงระยะยาวของการเทคยา ผลเสียมีเยอะ ต้องเทคอย่างระวัง เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างผู้รู้ อย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ เทควันนี้แล้วต้องห่วงถึงวันข้างหน้า ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้กับตัวเรา แล้วดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆค่ะ

 

ทำไมเป็นก้อนๆตรงบริเวณที่เราฉีด จะเป็นอะไรไหมคะ ? และวิธีการฉีดที่ถูกต้องค่ะ

 

อาการนี้มีหลายกรณีค่ะ

1. ไม่ได้ไล่ยา หลังจากฉีดแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นะคะ ยาฉีดเป็นสารละลายน้ำมัน เราต้องพยายามนวดคลึงเบาๆ บริเวณที่เราฉีดเพื่อเป็นการไล่ยา ให้กระจายและค่อยๆซึมซับเข้าไป เพราะบางทีพยาบาลอาจเดินยาเร็วไป และไม่ได้นวดคลึงหลังฉีดยา ทำให้ยาอัดอยู่บริเวณนั้น และอาจจะทำให้เป็นฝีได้ค่ะ

2. เดินยาเร็วไป จะทำให้การดูดซึมช้าลงและเกิดการสะสมจนก่อให้เกินการจับตัวเป็นก้อน

3. ฉีดบ่อย ฉีดซ้ำๆตำแหน่งเดิม น้องๆหลายท่านใจร้อน หลังฉีดผ่านไป 2-3 วันก็กลับมาฉีดอีก และฉีดบ่อยไป ซ้ำๆตำแหน่งเดิม ถ้าเราฉีดซ้ำๆตำแหน่งเดิมบ่อยๆจะมีโอกาสเป็นก้อน หรือเป็นฝีสูงด้วยนะคะ

4. ฉีดในปริมาณที่เยอะเกิน และยาตกค้าง ทำให้เกิดการกระจายตัวไม่หมด ตกค้าง เกิดการอักเสบ บวมข้างใน และจับตัว ไม่แตกตัวและกระจายออก และไล่ยาไม่หมด

5. ฉีดยาตื้นเกินไปเข้าในชั้นใต้ผิวหนัง หรือเกิดจากการฉีดยาจำนวนมากเข้าในกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็ก

6. การบาดเจ็บ ร่างกายไวต่อการกระตุ้น

7. จับตัวเป็นก้อน คลึงแล้วเจ็บ ถ้าไม่หายต้องพบแพทย์ค่ะ เพื่อตรวจดูว่าเป็นฝีไหม หรืออื่นๆ โดยส่วนใหญ่จะพบว่าน้องๆหลายท่านเป็นฝีกันเยอะมาก

วิธีการฉีดฮอร์โมนที่ถูกต้อง ให้ฉีดสลับข้างกันไปเรื่อยๆ และหมั่นนวดคลึงเบาๆบริเวณที่ฉีดค่ะ เช่น ครั้งแรก เราฉีดที่สะโพกขวา ครั้งที่สอง ให้เปลี่ยนมาฉีดสะโพกซ้าย และหลังฉีดให้นวดคลึงเบาๆบริเวณที่ฉีดประมาณ 2-3 นาที เพื่อเป็นการไล่ยาให้กระจายและแตกตัว ยาฮอร์โมนในสารละลายน้ำมันจะดูดซึมช้า ร่างกายแต่ละท่านการดูดซึมและตอบสนองไม่เหมือนกัน บางท่านแค่คลึงเบาๆแปบเดียวหรือเดินยาช้าๆ ไล่ยาได้ดี ไม่ต้องคลึงเลย ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ

การรักษาเบื้องต้นเมื่อพบว่าเป็นก้อน : เอาผ้าชุบน้ำอุ่น คลึงเบาๆ 2-3 นาที เช้า-เย็น ค่ะ

 

ทำไมฉีดฮอร์โมนแล้ว ไอ สำลัก ได้กลิ่นยา หรือหายใจติดๆขัดๆ ?

 

เพราะปักเข็มไม่ลึก ทำให้ยาเข้าเส้นเลือดเล็กน้อย ไม่อันตรายมาก เพราะมันเข้าแค่นิดหน่อยค่ะ แต่ต้องพึงระวังไว้อย่างมากเลยนะคะ เพราะถ้าเข้าเส้นเลือดโดยตรงจะอันตรายอย่างมากๆ ควรฉีดด้วยแพทย์หรือพยาบาลที่เชี่ยวชาญ และค่อยๆเดินยาช้าๆค่ะ หลังฉีดให้นวดคลึงเบาๆเพื่อไล่ยาให้กระจายตัวด้วยค่ะ

 

ทำไมเทคฮอร์โมนแล้วรู้สึกไม่ค่อยเห็นผลเลยคะ ?

 

ก่อนอื่นเลยจริงแล้วเราต้องประเมินหลายๆอย่างค่ะ อาทิเช่น เทคสูตรไหนอยู่ เทคมานานเท่าไหร่ เทคระดับเท่าไหร่ เทคแบบเกย์หรือแบบสาวสอง หรือแบบใด ระดับไหน การคาดหวังของเราเป็นแบบใด อยากงูตาย อยากงูไม่ตาย อยากนมขึ้น อยากนมไม่ขึ้น อยากซอฟ ลดกล้าม ลดขน อยากมีสรีระ หรืออะไรอย่างไร ซึ่งต้องประเมินเป็นกรณีๆไปค่ะ แล้วคำว่าเห็นผลเราให้คำจำกัดความว่าอย่างไร ? ซึ่งปัจจัยของพวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัยซึ่งต้องลงรายละเอียดกันยาวค่ะ เพราะการเทคแบบเกย์ก็จะต้องเทคแบบนึง มีการไล่ระดับยาเพื่อประเมินระยะต้น แล้วปรับกันต่อ แบบสาวประเภทสองก็เทคอีกแบบนึง อีกทั้งปัจจัยของตัวยาด้วย ความแมนของแต่ละคนด้วย กรรมพันธุ์ด้วย ค่า BMI ก็แตกต่างกัน ระดับการเทคก็แตกต่างกัน ผลตอบสนองก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตก็แตกต่างกัน  อายุ การดูดซึมด้วย ฐารฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมไปถึงการคาดหวัง เอานมไม่เอานม เอางูตาย ไม่เอางูตาย ฯลฯ ก็แตกต่างกันไปอีก รวมไปถึงภาวะต่างๆด้วย เช่นความเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ด้วย ฯลฯ หรือเรื่องของกล้าม ปัจจัยในการลดกล้ามเกิดจากหลากหลายปัจจัยด้วย องค์ประกอบมีอีกเยอะมากค่ะ ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณา ประเมินเป็นรายๆไปค่ะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

เราเทคฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายเรามีฮอร์โมนเข้ามาพัฒนาตัวเองให้เป็นหญิงไปตามกาลเวลา การตอบสนอง กรรมพันธุ์ของแต่ละคนนะคะ และตอบโจทย์ของหัวใจ ไม่ใช่เทคเพื่อกี่วันเห็นผลนะคะ แล้วดูว่าเรามีการตอบสนองที่ดีไหม สูตรไหนเหมาะกับเราที่สุดค่ะ โดยจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจด้วยนะคะ

จะไม่สามารถตอบได้ว่าสูตรไหนดีกว่าสูตรไหน หรือใช้คำว่าเห็นผลกี่วันก็เช่นกัน พวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งตัวยาเอง ตัวยาที่เหมาะกับเรา ระยะเวลา สูตรเทคยาต่างๆ การตอบสนองของแต่ละคน ร่างกายเรา กรรมพันธุ์เรา ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ การกิน การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความแมนของแต่ละคนก็เช่นกัน ซึ่งแตกต่างกัน รวมไปถึงความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ต่างๆมากมาย ล้วนมีผลต่อการประเมินผลหมดค่ะ

เพราะฉะนั้น 1. เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย 2. เลือกสูตรที่เข้ากับตัวเรา 3. การตอบสนองแล้วแต่คน 4.พอใจเท่าที่ได้ค่ะ

ก่อนอื่นเราจะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด/ทาน สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีด/ทาน แล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ

 

ทำไมรู้สึกว่ามันบีบรัด และปวดแสบปลายอวัยวะเพศ บางครั้งก็เจ็บด้วย มันคืออะไรเหรอคะ ? การขลิบเจ็บไหม ? หากขลิบแล้วแปลงเพศความสวยจะน้อยลง ?

 

พี่หมวยคะ ทานฮอร์โมนแล้วรู้สึกว่ามันบีบรัดตรงอวัยวะเพศ บางครั้งก็เจ็บด้วยค่ะ มันคืออะไรคะ ? แล้วเวลาเราจะล้างทำความสะอาดข้างในอ่ะค่ะ คือเจ็บมากๆ สัมผัสไม่ได้เลยค่ะ

ในการเทคยาฮอร์โมนกลุ่มต้านฮอร์โมนเพศชายนั้น (ในปริมาณใดๆตามแต่ร่างกายแต่ละคน) มันจะยับยั้งภาวะต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน จะพยายามทำลายอสุจิเรา อวัยวะเพศของเราจะหลับ ไม่ค่อยตื่นเหมือนปกติ หลายๆท่านจะถูกบีบรัดตัวให้เล็กลง รวมไปถึงหนังหุ้มปลาย เมื่อขนาดของอวัยวะเล็กลง หนังหุ้มปลายก็จะไปกระจุกรวมตัวกัน การที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่ไม่เปิด หรือบวม หรือแน่นเกินไป บวกกับการหมักหมมจนอักเสบ หรือสุขอนามัยไม่ดีนั้น จะทำให้รู้สึกเจ็บ ตึง ปวดและแสบได้ ทั้งในช่วงที่แข็งตัวหรือไม่แข็งตัวก็ตาม การรักษาจะจำแนกไปตามโรค ทั้งทาครีม ล้างทำความสะอาดอย่างนุ่มนวลด้วยน้ำอุ่น การทายา ทานยา ฯลฯ

รวมไปถึงการขลิบ การขลิบนั้น ไม่เจ็บ ใช้เวลาไม่นาน เจ็บเฉพาะตอนที่ฉีดยาชาเท่านั้น และปวดหลังหมดฤทธิ์ยา อย่างไรก็ตาม การขลิบในแง่สุขอนามัยนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับสาวประเภทสองที่คิดจะแปลงเพศ ถ้าขลิบไปแล้ววันหนึ่งเราจะแปลงเพศ เราก็จะได้รูปร่างที่สวยน้อยลง เพราะเราต้องใช้หนังบริเวณนั้นมาตกแต่งให้สวยงาม เนื้อน้อยความสวยก็น้อย อย่างไรเทคโนโลยีการแปลงเพศสมัยนี้มีหลากหลายวิธีช่วยได้มาก อย่างไรก็ตามน้องๆต้องศึกษาอย่างละเอียดและตัดสินใจให้ดีค่ะ

 

อยากแปลงเพศค่ะ แปลงเพศดีไหมคะ ?

 

พี่หมวยอยากจะเตือนและให้แนะนำว่าให้เราคิดไตร่ตรองให้มากๆเลยนะคะ การแปลงเพศไม่ใช่เรื่องเล่นๆค่ะ การแปลงเพศเป็นเรื่องที่ดีในการตอบโจทย์ของหัวใจของเรา แต่ผลเสียก็มีเยอะ และแต่ละคนมีผลเสียปลีกย่อยแตกต่างกันไป แต่ผลเสียหลักๆไม่ต่างกัน สมัยนี้การแพทย์พัฒนาก้าวไปไกลมาก แปลงเพศแล้วได้รูปลักษณ์ออกมาสวย และคล้ายของผู้หญิงมาก ถึงจุดสุดยอดได้ แต่บางคนแม้จะถึงจุดสุดยอดได้แต่ก็กลับไร้ความรู้สึกบริเวณอวัยเพศ เพราะเส้นประสาทยังไม่มา ซึ่งต้องพยายามศึกษาและเลือกแพทย์ให้ดีด้วยนะคะ และต้องทำความเข้าใจเรื่องเส้นประสาทด้วยนะคะ

สิ่งพี่หมวยไม่แนะนำเลยนะคะ คือตัดไข่ก่อนแล้วมาแปลงเพศ เพราะเนื้อจะไม่พอ ได้รูปลักษณ์ที่สวยน้อยลง ต้องไปใช้ผิวบริเวณอื่น ส่วนน้องๆที่ไม่ดูแลสุขภาพตัวเองก่อนแปลงเพศ ตัดสินใจจะผ่าก็ผ่า ไม่ควรนะคะ น้องๆต้องพยายามฟิตร่างกายให้แข็งแรงมากๆ ลดน้ำหนัก เทคยาอย่างต่อเนื่องมาสม่ำเสมอ ดูแลตัวเองให้ดีก่อนมาแปลงเพศนะคะ เพราะหลังแปลงเพศเราต้องดูแลตัวเองเพิ่มเป็นหลายเท่า การแปลงเพศไม่ได้ทำให้เราซอฟขึ้นนะคะ เพียงแต่สรีระต่างๆจะค่อยๆตามมา หลังแปลงเพศแล้วต้องเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ หลายๆคนพบว่าซูบลง ดูแก่ ดูเหี่ยว ดูโทรมลง ผอมลง อ้วนขึ้น ขนดกขึ้น ฯลฯ พบได้เยอะมากค่ะ หลายๆคนตัวใหญ่ขึ้น อวบขึ้นได้ง่าย เพราะฉะนั้นต้องฟิตตัวเองให้พร้อมก่อนมาแปลงเพศค่ะ และหลังแปลงก็ต้องดูแลตัวเองอย่างมากเช่นกันค่ะ และยังต้องเทคยาไปตลอดชีวิต เราต้องตระหนักหลายๆเรื่องก่อนนะคะ มีวินัยทั้งก่อนแปลงเพศและหลังแปลงเพศด้วยนะคะ

เราไม่ควรแปลงเพศเพียงเพราะเรื่องผู้ชาย หรือเพราะความคิดชั่ววูบ เราควรแปลงเพศเพราะใจรัก เพราะอยากเป็นหญิง เพราะความฝัน เพราะความสุข ถ้าคิดจะแปลงต้องพร้อมที่จะรับปัจจัยต่างๆตามมา ค่อยๆเรียนรู้และเอาชนะมันค่ะ แล้วต่อๆไปเราก็จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และมีความสุขขึ้นมากค่ะ โดยหลักของพี่หมวยคือ "แปลงเพศอย่างมีความสุข และเอาชนะมัน" เพราะถ้าแปลงแล้วเราปรับตัวได้เร็ว เราก็จะมีความสุขกับมัน ชีวิตเราก็จะมีความสุขค่ะ มีความสุขมากกว่าก่อนแปลงเพศด้วยนะคะ มีความสุขที่ได้เป็นตัวของตัวเอง ส่วนเอาชนะมันก็คือ หลังแปลงเพศไม่มีอะไรทำอะไรเราได้ค่ะ อย่าคิดมาก อย่าจิตตก เราเก่งค่ะ เราต้องสตรองนะคะ

พี่หมวยเคยสอนเรื่องหัวใจของการเทคยาคือ "เทคยาอย่างมีความสุข และเอาชนะมัน เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา" หัวใจของการแปลงเพศก็เช่นกันค่ะคือ "แปลงเพศอย่างมีความสุข" และ "เอาชนะมัน"

เราต้องมีความฝัน มีความตั้งใจที่แน่วแน่ เพื่อการแปลงเพศ เพื่อเป็นตัวเองที่แท้จริงนะคะ เช่น พี่หมวยดูแลตัวเองจากน้ำหนัก 105 โล ช่วงนั้นพี่หมวยอุบาทว์มาก ผู้ชายก็ไม่เอา โดนล้ออีก จากนั้นพี่หมวยก็ลดน้ำหนักเหลือราวๆ 55-58 สุขภาพก็ดีขึ้น ร่างกายแข็งแรงมาก พี่หมวยแปลงเพศตอนอายุสามสิบกว่าๆ แบบต่อลำไส้ หากเราฟิตร่างกายให้แข็งแรง หลังแปลงเพศร่างกายก็จะฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บทรมานแค่ตอนโม (แล้วแต่คนแล้วแต่เทคนิคคุณหมอ) ก็ไม่ท้อแท้ค่ะ เพราะมันเจ็บแค่ช่วงเดือนนั้น จากนั้นความเจ็บก็ค่อยๆเพลาลง หลังแปลงก็ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รักษาความสะอาดอวัยวะเพศ สวนล้างให้ถูกต้อง ดูแลหุ่นตัวเอง ฟิตร่างกายออกกำลังกายเสมอๆ แปลงเพศเราไม่ได้ซอฟขึ้น เพียงแต่สรีระต่างๆจะค่อยๆตามมา เมื่อร่างกายแข็งแรงแล้ว ก็เทคฮอร์โมนให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ให้สม่ำเสมอ เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ดูแลตัวเองให้ดี ให้สวยๆ ทำตัวให้ดี แต่งตัวมั่นใจขึ้นมาก ไม่ต้องมาตงมาแต๊บ ขนขึ้นก็ไปเลเซอร์ค่ะ คุ้มค่า ราคาก็ไม่แพงค่ะ ค่อยๆแก้ไปทีละจุดนะคะ

หลังแปลงก็ดูแลสุขภาพกายและใจตัวเอง ออกกำลังกาย ฟิตหุ่น สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง เทคฮอร์โมนให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ อย่างมีวินัย ให้พอดีและสม่ำเสมอ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน ดื่มน้ำเยอะๆตามวัย ทานผัก ทานผลไม้ เน้นทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ต้องทั้งมีวินัยและทั้งผ่อนปรนบ้าง ใช้ชีวิตให้มีความสุข เลิกเครียด เลิกคิดมาก ต่างๆนาๆ อยากทานอะไรก็ทาน ผ่อนปรนไม่ต้องเข้มงวดมาก ทานให้มีความสุข และมีวินัย ออกกำลังกายบ้าง ทำอะไรก็ตามทำให้มันพอดี ทางด้านสุขภาพใจก็แต่งตัวให้มันสวยๆ ปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพตัวเอง มองโลกในแง่ดี ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หาความสุข หาอะไรทำ หาอะไรดีๆให้กับตัวเอง ที่เราชอบ เพราะแปลงเพศแล้วหลายๆคนมีความสุขขึ้น นั่นเพราะเค้าผ่านและเอาชนะมาได้ค่ะ เราก้ต้องทำได้ค่ะ การแปลงเพศนำมาซึ่งความมั่นใจ พบปัญหาใดๆก็ค่อยๆแก้ไปนะคะ เชื่อว่าทุกคนเก่ง สตรอง และแข็งแกร่งค่ะ จะทำอะไรก็คิดถึงคุณพ่อ คุณแม่ คิดถึงสิ่งดีๆ เอาบทเรียนต่างๆเป็นแสงส่องนำทางไปนะคะ เชื่อพี่ค่ะ พี่จะสอนน้องเอง

มีโอกาสก็หาเวลาพบคุณหมอ ตรวจสุขภาพตัวเอง ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และหากมีปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาทิ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ก็พยายามเลิกนะคะ วันนี้เลิกไม่ได้ วันหน้าก็ได้ค่ะ หากเลิกไม่ได้ก็เพลาๆลงค่ะ ถ้าเป็นไปได้เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ ลดได้ลดค่ะ ละได้ละค่ะ พวกสารพิษพวกนี้จะส่งผลตามมาเช่น เพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน ไปถึงโรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ ฯลฯ และกระตุ้นมะเร็งได้ หากเรายังเทคฮอร์โมนอยู่ ถ้าเรายังดื่มเหล้าเข้าไปอีก ก็มีโอกาสตับวายสูงนะคะ เลี่ยงสารพิษเหล่านี้ไว้ค่ะ หรือเพลาๆลง แล้วปรับพฤติกรรมดูนะคะ พยายามค่ะ ถ้าไม่ได้วันนี้ ก็ได้วันหน้าค่ะ อะไรที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำใจให้สบาย วันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็ได้ มันยากแต่ต้องอดทนนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ แล้วมันจะค่อยๆง่ายขึ้น ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆนะคะ เราเก่งค่ะ และอย่าไปเครียดอันจะส่งผลอื่นๆตามมาได้ค่ะ สู้ๆค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

แปลงเพศแล้ว จำเป็นต้องเทคฮอร์โมนไหมคะ แล้วถ้าไม่เทคจะมีผลเสียอย่างไร ?

 

จำเป็นอย่างมากค่ะ และควรพบแพทย์ด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อปรับยาให้เหมาะกับเรา และอย่างถูกต้องค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อเราแปลงเพศแล้ว เราจะไม่มีฮอร์โมนแล้ว ทั้งชายและหญิง นั่นคือเราจะเป็นคนแทบจะไม่มีฮอร์โมนเลย ซึ่งจะส่งผลเสียตามมามากมาย เราจึงจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมนทดแทนค่ะ ด้วยเหตุผลหลายๆประการ และเพื่อป้องกันผลเสียต่างๆอันเนื่องมากจากการขาดฮอร์โมนตามมาด้วย อาทิเช่นเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ฯลฯ เป็นต้น อย่างไรเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) นั้น มันก็มีข้อดีของมันเยอะแยะด้วยนะคะ

หากเราไม่ได้รับเอสโตรเจน พบว่าในหลายๆท่าน นอกจากเราอาจจะแก่เร็ว โทรมเร็วแล้ว ฯลฯ จะมีผลเสียต่างๆตามมาอีกมากมาย การใช้ฮอร์โมนทดแทน สำหรับสาวประเภทสอง เราอาจจะพูดภาษาชาวบ้านได้ว่า กันเหี่ยว กันแก่ โทรม โรยรา อาจย่อมได้ เพราะสำหรับสาวประเภทสอง เราแปลงเพศกันตั้งแต่สาวๆเป็นส่วนมาก สาวประเภทสองจึงยังต้องอยากสาว อยากสวย อยากดูดีเสมอ ฮอร์โมนทดแทนจึงจำเป็นอย่างมาก เพื่อมาหล่อเลี้ยงเราให้ดูมีชีวิตชีวา มีน้ำมีนวล มีกำลังวังชา รวมไปถึงจิตใจด้วย (จิตใจมีความสุขอะไรๆก็ดีค่ะ) 
เราใช้ฮอร์โมนเพื่อป้องกันผลเสียอันเกิดจากการขาดฮอร์โมน แต่อย่างไรต้องใช้ให้เป็น ให้ถูกต้องด้วยนะคะ อย่างมีวินัย อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ มีการตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมน จะได้ใช้ยาได้อย่างถูกต้อง หากปล่อยให้ระดับฮอร์โมนต่ำกว่าหรือสูงกว่าค่ามาตราฐานก็จะมีผลเสีย มีอันตรายมากนะคะ ส่วนผลดีที่ได้จากฮอร์โมน ไม่ว่าจะเรื่องผิวพรรณ หรือเรื่องอื่นๆใดๆก็ตาม ก็ขอให้เทคอย่างมีความสุขนะคะ สุขกายแล้วก็ต้องสุขใจนะคะ มีวินัยในการดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย สวยแล้วสุขภาพก็ต้องแข็งแรงด้วยค่ะ

ผลเสียอันเกิดจากการขาดฮอร์โมน คือ คุณภาพชีวิตที่แย่ลง นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ปวดหัว ปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ ข้อติด อ่อนแอง่าย ภูมิต้านทานน้อย ป่วยง่าย แพ้ง่าย เราอาจจะเสี่ยงภาวะกระดูกบาง เราอาจจะแก่เร็ว โทรมเร็ว ซูบลงได้ โทรม หน้าคล้ำ ผิวคล้ำ ผิดรูปผิดร่าง อ้วนง่าย เสียงแหบ อารมณ์แปรปรวน กลิ่นตัวแรง ตัวเหม็น ปากเหม็น เหนื่อยง่าย คัน ผมร่วง ภูมิต้านทานต่ำ กระดูกพรุน ฯลฯ และเพื่อป้องกันกระดูกพรุน ที่ทำให้หลังค่อมลง ตัวเตี้ยลง เพราะกระดูกสันหลังยุบ ถ้ากระดูกพรุนมาก จะเกิดกระดูกคอสะโพกหัก เดินไม่ได้ ซึ่งมักจะเกิดในผู้สูงอายุ เราจึงควรต้องป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ และรับรู้ถึงผลเสียที่มีโอกาสจะตามมาได้ เมื่อขาดฮอร์โมนด้วยนะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

และหัวใจหลักๆเลย ตามที่พี่หมวยสอนไว้เสมอๆ คือ ออกกำลังกายค่ะ ออกกำลังกายอย่างมีความสุขด้วยนะคะ ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อวัยของเรา และควบคุมอารมณ์ตัวเองค่ะ นอกจากสุขภาพจะแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเรา แข็งแรงขึ้น จิตใจที่มีความสุข เราก็เอาชนะได้ทุกอย่างค่ะ อะไรๆก็จะดีค่ะ ต้องทั้งมีวินัยและต้องรู้จักผ่อนปรนนะคะ แปลงเพศแล้ว ข้อเสียบางท่านอาจจะพบว่ามีเยอะ ทั้งข้อเสียจากกาย จากโรคภัย อีกทั้งยังจิตใจอีก เรื่องจิตใจนี่สำคัญมาก บางคนเพิ่งจะแปลงเพศมาก็จิตตกแล้ว ต้องสตรองนะคะ จำคำพี่หมวยไว้นะคะ จงเรียนรู้ แล้วเอาชนะมันนะคะ เป็นสาวประเภทสองต้องสู้ค่ะ ต้องแข็งแกร่ง ต้องสรองค่ะ อย่าคิดมาก อย่าให้อะไรมาทำร้ายเรา ไม่มีอะไรทำอะไรเราได้ 
ใช้ความเก่ง + ความสุข ของเราเข้าสู้ค่ะ เราผ่านมาถึงวันนี้ได้ เราเป็นคนเก่งค่ะ เชื่อมั่นในตัวเองค่ะ มีอะไรคิดถึงพี่หมวย สู้ไปด้วยกันกับพี่หมวยนะคะ

 

แปลงเพศแล้ว ต้องเทคฮอร์โมนอย่างไร ?

 

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

เราจึงจำเป็นต้องไปตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนของเราก่อนนะคะ เพื่อดูค่าฮอร์โมนต่างๆว่าอยู่ในระดับใด ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป แพทย์จะได้ประเมินได้ถูกต้อง และปรับยาให้เราได้อย่างถูกต้อง แม่นยำค่ะ ซึ่งน้องๆหลังแปลงเพศแล้วจำเป็นต้องเทคฮอร์โมนให้ถูกต้องอย่างมาก 
เพราะเราต้องเทคฮอร์โมนไปตลอดชีวิตค่ะ การขาดฮอร์โมน การมีฮอร์โมนที่ต่ำเกินไป หรือสูงเกินไปจะมีความเสี่ยง และอันตรายตามมามาก หลายๆท่านผ่าตัดแปลงเพศมานานตั้งแต่สมัยสาวๆ ไม่เทคฮอร์โมนเลยเป็นสิบๆปี พออายุมากขึ้นมาตรวจกลับค้นพบโรคต่างๆตามมา บ้างก็กระดูกพรุน ฯลฯ รวมถึงภาวะต่างๆ ภาวะทางอารมณ์ด้วยเช่นกันค่ะ ฯลฯ หรือบางท่านเทคมั่วๆ ผิดๆ เทคหลากหลายก็เช่นกัน ค่าฮอร์โมนเพี้ยนไปหมด ต่ำมากหรือสูงเกินมาตราฐานก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้อันตรายมากๆเลยนะคะ เพราะฉะนั้นขอเพียงเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้นะคะ พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขนะคะ และหาเวลาไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเรา จะได้เทคได้อย่างถูกต้องค่ะ มีการตรวจร่างกายประจำปี ปีละครั้ง - สองครั้ง เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

ถ้าไม่เทคฮอร์โมนเลยนานวันขึ้น ผลเสียต่างๆจะตามมา พบได้มากและแตกต่างกันแต่ละคนไป ตามภาวะและปัจจัยของแต่ละบุคคล อาทิเช่น นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ปวดหัว ปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ ข้อติด อ่อนแอง่าย ภูมิต้านทานน้อย ป่วยง่าย แพ้ง่าย เราอาจจะเสี่ยงภาวะกระดูกบาง เราอาจจะแก่เร็ว โทรมเร็ว ซูบลงได้ โทรม หน้าคล้ำ ผิวคล้ำ ผิดรูปผิดร่าง อ้วนง่าย เสียงแหบ อารมณ์แปรปรวน กลิ่นตัวแรง ตัวเหม็น ปากเหม็น เหนื่อยง่าย คัน ผมร่วง ภูมิต้านทานต่ำ กระดูกพรุน ฯลฯ ไม่ต่างกับวัยทอง หรือเทคฮอร์โมนผิดๆค่ะ และอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำในหลายๆเคส หลายกรณีค่ะ และเพื่อป้องกันกระดูกพรุน ที่ทำให้หลังค่อมลง ตัวเตี้ยลง เพราะกระดูกสันหลังยุบ ถ้ากระดูกพรุนมาก จะเกิดกระดูกคอสะโพกหัก เดินไม่ได้ ซึ่งมักจะเกิดในผู้สูงอายุ เป็นต้น เราจึงควรต้องป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ และรับรู้ถึงผลเสียที่มีโอกาสจะตามมาได้ ความเสี่ยงต่างๆเมื่อขาดฮอร์โมนด้วยนะคะ

แล้วลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆด้วยค่ะ เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เครียด ฯลฯ เป็นต้น การสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า ในระหว่างเทคยาฮอร์โมนนี่อันตรายมากค่ะ ถ้าเป็นไปได้เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ ลดได้ลดค่ะ ละได้ละค่ะ พวกสารพิษพวกนี้จะส่งผลตามมาเช่น เพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน ไปถึงโรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ ฯลฯ และกระตุ้นมะเร็งได้ หากเรายังเทคฮอร์โมนอยู่ ถ้าเรายังดื่มเหล้าเข้าไปอีก ก็มีโอกาสตับวายสูงนะคะ เลี่ยงสารพิษเหล่านี้ไว้ค่ะ หรือเพลาๆลง แล้วปรับพฤติกรรมดูนะคะ พยายามค่ะ ถ้าไม่ได้วันนี้ วันหน้าก็ได้ค่ะ อะไรที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ห้ามหักดิบ ทำใจให้สบาย วันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็ได้ มันยากแต่ต้องอดทนนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ แล้วมันจะค่อยๆง่ายขึ้น ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆนะคะ เราเก่งค่ะ และอย่าไปเครียดอันจะส่งผลอื่นๆตามมาได้ค่ะ สู้ๆค่ะ

นอกจากนั้นยิ่งอายุมากขึ้นปัจจัยเสี่ยงหลักๆเช่น หลอดเลือดหัวใจก็มีโอกาสเกิดได้เช่นกันค่ะ สำรวจพฤติกรรมตัวเอง หรือหมั่นตรวจสุขภาพด้วยนะคะ หรือให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีที่สุดค่ะ

สรุป แปลงเพศแล้วจะเทคได้แค่ฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเดียวค่ะ (หลังผ่าตัด 6 เดือนไปแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ตัวลดฮอร์โมนเพศชายแล้วค่ะ) เช่น โปรกีโนว่า / เอสโตรเฟม / เอสโตรเจลแบบทา เป็นต้น ให้เลือกตัวใดตัวหนึ่งค่ะ ก็เพียงพอแล้วค่ะ ไม่ควรเทคซ้ำซ้อนหลากหลายนะคะ หรือถ้าอยากเทคร่วมกันก็สามารถเทคร่วมกันได้ ซึ่งต้องประเมินเป็นกรณีๆไปค่ะ

แล้วสามารถทาน LDB เสริมได้ค่ะ LDB จะใช้เป็นตัวเสริมร่วม เพื่อเอาลักษณะเด่นๆของมันมาใช้ อาทิ ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ เลือดลมดีขึ้น ฯลฯ และพบว่ายังช่วยกระตุ้นการพัฒนาของหน้าอกได้ค่ะ อีกทั้งยังต้านอุนมูลอิสระ เช่น ริ้วรอย ฝ้า ฯลฯ เป็นต้นค่ะ

ส่วนกรณียาฉีด หรือทั้งฉีดทั้งทาน หรือทานหลายตัวก็เช่นกัน ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนทั้งก่อนและหลังเทคนะคะ เพราะการมีฮอร์โมนสูงที่ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป จะมีอันตรายค่ะ

โปรกีโนว่า / เอสโตรเฟม / เอสโตรเจล เป็นฮอร์โมนเพศหญิงล้วนที่ดีมากค่ะ และเป็นที่นิยมาก ใช้เพื่อให้เรามีฮอร์โมนเพศหญิงไปตามเกณฑ์ เพื่อไม่โรยราไปตามกาลเวลาเพราะขาดฮอร์โมนมาหล่อเลี้ยง คล้ายวัยทอง และมีโรค มีอันตราย มีอาการต่างๆตามมาอันเนื่องมาจากการขาดฮอร์โมน และสามารถวัดค่าระดับฮอร์โมนได้อย่างดีค่ะ

ส่วน LDB เป็นยาสมุนไพร เป็นยาตำรับ ใช้ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศหญิงจากยาเคมีหลักที่เราใช้อยู่ค่ะ ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศ เลือดลมดีขึ้น ฯลฯ และพบว่ายังช่วยกระตุ้นการพัฒนาของหน้าอกได้ค่ะ อีกทั้งยังต้านอุนมูลอิสระ เช่น ริ้วรอย ฝ้า ฯลฯ เป็นต้นค่ะ

แอลดีบี (LDB) = ยาสมุนไพรเสริมฮอร์โมนเพศหญิง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวแลดูผ่อง ดูขาวใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวล อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ หน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ ช่วยเร่งพัฒนาหน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้นได้ โตเต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นไม่อ้วนขึ้น อีกทั้งยังปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นต้น

สำหรับ LDB ถ้าหากว่าทำนมแล้วมีโอกาสจะทำให้นมนิ่มไวขึ้นด้วยเพราะมันจะไปสร้างต่อมน้ำนมและท่อน้ำนมหุ้มซิลิโคนอีกทีค่ะ

ส่วนยาคอนจูเกท เอสโตรเจน (Conjugated estrogen) ในพรีมาริน หรือ เอสโตรม่อน พวกนี้จะวัดระดับฮอร์โมนจากยาได้ยาก หรือวัดไม่ได้เลยค่ะ พรีมาริน (PREMARIN ยาต้นแบบ หรือ original drug) หรือ เอสโตรม่อน (ESTROMON ยาสามัญ ผลิตในประเทศ generic drug) ยาลุ่มนี้จะวัดระดับยาได้ยาก หากจะใช้ต้องให้แพทย์ประเมินค่ะ

โปรกีโนว่า, โปรไกโนว่า (Progynova) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ผิวพรรณนวลขึ้น ผ่องขึ้น เร่งพัฒนาหน้าอก ผิวพรรณ สรีระ (หุ่น อก เอว สะโพก) มีผลต่อเม็ดสีเช่นหัวนม ผิว และปลายอวัยวะเพศได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น  สิวขึ้น นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เป็นต้น

เอสโตรเฟม (Estrofem) = เป็นฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกับโปรกีโนว่า แต่เป็นอีกฟอร์มหนึ่ง (โครงสร้างทางเคมี hemihydrate 2 mg.) มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน ยกตัวอย่าง อาทิเช่น บางท่านทานโปรกีโนว่าผิวพรรณดีขึ้น แต่พบว่าอารมณ์แปรปรวนได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น  สิวขึ้น นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ฯลฯ เป็นต้น หรือมีผลข้างเคียงต่างๆที่ไม่ปลื้ม ก็สามารถเปลี่ยนมาทานเอสโตรเฟม แล้วประเมินผลตอบสนองดูนะคะ อาจจะมีข้อดี เด่น ด้อย ผลตอบสนอง ผลข้างเคียงแตกต่างกันไป และผลข้างเคียงดังกล่าวก็พบได้ในเอสโตรเฟมเช่นกัน อย่างไรเลือกตัวที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เราค่ะ เอสโตรเฟมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น้องๆหลายท่านชอบมากค่ะ

เอสโตรเจล (Oestrogel) = เป็นฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกันกับโปรกีโนว่าและเอสโตรเฟม แต่เป็นชนิดทา ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดรับประทานไม่ได้ หรือฉีดไม่ได้ หรือแผ่นแปะไม่ได้ เช่น มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับ มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มดลูก เส้นเลือดสมองแตก หรืออุดตัน เป็นต้น (หรือสะดวกที่จะทามากกว่า) เอสโตรเจล ผลิตออกมาใน รูปของเนื้อเจล ใช้ทาซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังผ่านกระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะไม่ผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ตับ และไม่สูญสลายเนื่องจากการถูกทำลายจากวิตามินซีในระบบย่อยอาหาร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์หลายๆท่านได้ดีค่ะ มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน บริเวณหัวนม และปลายอวัยวะเพศได้ ผลข้างเคียงคล้ายคลึงกันกับโปรกีโนว่า และเอสโตรเฟมเช่นกันค่ะ แล้วแต่บุคคลค่ะ

ยกตัวอย่างสูตรการเทคฮอร์โมนของสาวประเภทสองที่แปลงเพศแล้ว (เบื้องต้น) จะเทคได้ตามนี้ค่ะ

(ควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนทั้งก่อนเทคและหลังเทคด้วยนะคะ เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และเพื่อป้องกันไม่ให้ค่าระดับฮอร์โมนแต่ละตัวสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปค่ะ)

ในสูตรที่เทคซ้ำซ้อน หรือหลากหลาย หรือรวมฤทธิ์กัน อาจจะไม่แนะนำ ไม่ทุกคนเทคแล้วจะให้ผลดีค่ะ ต้องประเมินระดับการเทค อาการข้างเคียงด้วยนะคะ

1. โปรกีโนว่า 2 mg. วันละ 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น (กรณี 2 เม็ดขึ้นไป แพทย์ประเมิน หรือพบแพทย์วัดระดับฮอร์โมน)
2. LDB วันละ 1-2 แคปซูล (ให้ใช้เป็นตัวเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิงหลักที่ใช้อยู่นะคะ)
3. เอสโตรเจล ทาวันละ 1-2 ครั้งเป็นเบื้องต้น (แพทย์ประเมิน หรือพบแพทย์วัดระดับฮอร์โมน)
4. เอสโตรเฟม 2 mg. วันละ 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น (กรณี 2 เม็ดขึ้นไป แพทย์ประเมิน หรือพบแพทย์วัดระดับฮอร์โมน)
5. โปรกีโนว่า 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น + LDB 1-2 แคปซูล (กรณีทาน LDB 2 แคปซูล ประเมินผลข้างเคียงต่างๆ และดูว่าอวบขึ้นไหม บวมขึ้นไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ)
6. โปรกีโนว่า 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น + ทาเอสโตรเจลวันละ 1-2 ครั้ง (แพทย์ประเมิน หรือพบแพทย์วัดระดับฮอร์โมน)
7. เอสโตรเฟม 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น + LDB 1-2 แคปซูล (กรณีทาน LDB 2 แคปซูล ประเมินผลข้างเคียงต่างๆ และดูว่าอวบขึ้นไหม บวมขึ้นไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ)
8. เอสโตรเฟม 1 เม็ดเป็นเบื้องต้น + ทาเอสโตรเจลวันละ 1-2 ครั้ง (แพทย์ประเมิน หรือพบแพทย์วัดระดับฮอร์โมน)
9. ทาเอสโตรเจลวันละ 1-2 ครั้งเป็นเบื้องต้น + LDB 1-2 แคปซูล (กรณีทาน LDB 2 แคปซูล ประเมินผลข้างเคียงและดูว่าอวบขึ้นไหม บวมขึ้นไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ)

การมีตัว LDB + โปรกีโนว่า (หรือเอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจล หรือร่วมกันหลากหลายในสูตรใดๆ) ร่วมกัน ฮอร์โมนเพศหญิงรวมฤทธิ์กันพบว่าในบางท่าน บวมได้ อวบอ้วนขึ้นได้ เป็นต้น (เอสโตรเจนสูงอาจจะทำให้หน้ามืดวิงเวียนได้) อาการข้างเคียงอื่นๆ ฯลฯ ให้ประเมินแอลดีบีที่ 1 แคปซูลก่อนค่ะ เพื่อประเมินว่าแพ้สมุนไพรไหม มีอาการข้างเคียงใดๆไหม

สำหรับยาสมุนไพร LDB ใช้เป็นตัวเสริมฮอร์โมนร่วมจากยาตัวหลักนะคะ แต่ต้องประเมินว่าใช้เสริมร่วมแล้วพบการแพ้ไหม มีอาการข้างเคียงใดๆไหม ทำให้บวมไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ อันเนื่องมากจากฮอร์โมนเพศหญิงรวมฤทธิ์กัน ส่วนสูตรอื่นๆนอกเหนือจากนี้พี่หมวยยังไม่ลงรายละเอียดมากค่ะ และจะปรับใช้เป็นกรณีๆไปค่ะ

แต่อย่างไรคนที่แพ้สมุนไพรในตัว LDB เช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน ทานแล้วรู้สึก เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย คัน ผื่นขึ้น ปวดหัว ฯลฯ ก็มีนะคะ และผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่างๆก็เป็นข้อควรระวังและข้อห้ามในการทานเช่นกันนะคะ โดยน้องๆต้องเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อควรระวัง ผลข้างเคียงและอันตรายของทั้งยาสมุนไพรและยาเคมี และรายละเอียดต่างๆที่เว็บไซต์พี่หมวยในส่วนของเมนูตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวยด้วยนะคะ

กรณียาฉีด ปล่อยฤทธิ์แรงและเร็ว ความสตรองแตกต่างกัน ภาวะแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนช็อกได้ ค่อนข้างอันตรายมาก เสี่ยงมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน อ่อนเพลีย ล้า ป่วยง่าย ฯลฯ และเสี่ยงมะเร็งสูง คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ น้องๆก็ยังอยากจะฉีดกัน แม้พี่หมวยห้ามไม่ได้ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ และไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ

ถ้าอยากจะฉีด อาจจะฉีดโปรกีนอน อาทิตย์ละครั้งๆละ 1 หลอด หรือ เอสตร้า อาทิตย์ละครั้ง หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1 หลอด เป็นเบื้องต้นค่ะ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ค่ะ หรือระยะเวลาการฉีดใดๆนั้นต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ เพราะ half life ของยาในแต่ละบุคคลแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยตามที่เคยสอน ซึ่งกรณียาฉีดจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนทั้งก่อนฉีดและหลังฉีด เพื่อการฉีดที่ถูกต้อง ในระดับที่ถูกต้อง แม่นยำ และเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง อันตรายของยาเพิ่มเติมตามที่พี่หมวยสอนด้วยนะคะ ทั้งยาฉีดและยาทาน ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร 
และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

 

แปลงเพศแล้ว ยังจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์อีกไหม ?

 

ไม่จำเป็นค่ะ ต้องดูภาวะรวมๆเพื่อประเมินก่อนนะคะ ในช่วง 6 เดือนแรกหลังผ่าตัดแปลงเพศเรายังสามารถใช้ยาต้านฮอร์โมนเพศชายได้ค่ะ หลังจากนั้นไม่จำเป็นแล้วนะคะ ใช้แต่ฮอร์โมนเพศหญิงค่ะ แต่ในบางท่านอาจจะยังจำเป็น ในกรณีที่ร่างกายเรายังมีกล้าม เราอาจจะยังใช้เพื่อประเมินผลตอบสนองในด้านการลดกล้าม ลดขนที่ยังคงอยู่ก่อนแปลงเพศ โดยต้องอาศัยกลไกการสลายกล้าม ให้ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นไขมัน จึงจำเป็นมากที่ต้องเสริมฮอร์โมนเพศหญิง อาทิเช่น โปรกีโนว่า เป็นต้น หลายๆท่านพบว่ากลไกนี้ยังทำงานอยู่ได้ช่วงนี้ เพื่อสลายกล้ามให้ตัวนิ่มลง ให้สรีระที่ดูแข็งๆอ่อนนุ่มลงและดูละมุนละไมมากขึ้น หลังจากนั้นก็พยายามมีวินัยทั้งการทานและการออกกำลังกาย และเทคแต่ฮอร์โมนเพศหญิงอย่างถูกต้องนะคะ

ถึงแม้เราจะแปลงเพศแล้ว แต่ต้นทุนเดิมเรายังดูหนา ดูบึก ดูใหญ่ และมีกล้ามก็ตาม แอนโดรคัวร์อาจจะยังมีความจำเป็นอย่างมากต่อภาวะดังกล่าวนี้ แต่อย่างไรในส่วนนี้อาจจะเป็นปลายเหตุ น้องๆต้องเทคฮอร์โมนอย่างมีวินัย พัฒนาตัวเอง และฟิตร่างกายให้พร้อมมาก่อนแปลงเพศนะคะ แม้เราจะเทคได้ แต่ก็ได้แค่เฉพาะช่วงหลังแปลงเพศ 6 เดือนเท่านั้นค่ะ

หลังจาก 6 เดือนแรกไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์อีกต่อไปค่ะ เราไม่มีตัวสร้างฮอร์โมนเพศชายแล้วนะคะ มีแค่จากต่อมหมวกไต เล็กๆน้อยๆ ก็ให้มันมีบ้างนะคะ เพื่อให้เรามีพลัง กำลังวังชา มีเรื่ยวแรง มีสมดุล มีความเกื้อหนุนต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต แอนโดรคัวร์ไม่มีความจำเป็นต้องทานอีกต่อไปค่ะ ทานแต่เพียงฮอร์โมนเพศหญิงล้วน อาทิเช่น โปรกีโนว่า ฯลฯ เพื่อให้มีฮอร์โมนทดแทน ในปริมาณ ในระดับที่ถูกต้อง ก็สวยแล้วก็เพียงพอค่ะ หลังแปลงเพศสรีระเราจะค่อยๆตามมาเองค่ะ แล้วลดการทานโปรตีนลง ฟิตหุ่น ออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเราเองแข็งแรงเสมอๆนะคะ ควบคุมอารมณ์ แข็งแรงทั้งร่างกายและก็ต้องทั้งจิตใจด้วยนะคะ

เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ทำไมแปลงเพศแล้วขนขึ้นเยอะ จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ไหมคะ ?

 

โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดการกระตุ้นของเส้นขนหลังแปลงเพศนั้นสาเหตุอาจจะมาจากระดับฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง การทำงานของต่อมถูกกระตุ้น จึงทำให้มีการเร่งการเจริญเติบโตของเส้นขน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแอนโดรเจนในกระแสเลือดและความไวในการตอบสนองต่อฮอร์โมนแอนโดรเจนของรูขุมขน โดยฮอร์โมนแอนโดรเจนที่หลั่งออกมามากเกินมีได้หลายรูปแบบ อาทิเช่น สร้างมาจากต่อมหมวกไตนั่นเองค่ะ

ในหลายๆท่านเมื่อแปลงเพศแล้วกลับมีขนขึ้นเยอะกว่าเดิม เพราะมีความไว กลับไปกระตุ้นรูขุมขน หรือทำงานผิดเพี้ยนไป ส่งผลให้ขนเยอะขึ้น และบางท่านร่างกายโทรมลงได้เร็ว จากการมีภาวะฮอร์โมนมีการลดระดับลงอย่างรวดเร็ว กลไกในร่างกายเองรู้สึกสับสน แล้วแสดงผลเด่นชัดไปตามจุดต่างๆ

การใช้แอนโดรคัวร์ก็อาจจะมีส่วนช่วยแต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หลังแปลงเพศผ่านไปแล้ว 6 เดือน แต่จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้ฮอร์โมนเพศหญิงเสริม เช่น โปรกีโนว่า เป็นต้น หลังจาก 6 เดือนไปแล้ว แอนโดรคัวร์ไม่จำเป็นต้องเทคอีกเลยค่ะ (เพราะเราไม่มีตัวผลิตฮอร์โมนเพศชายแล้ว มีแค่เล็กๆน้อยๆจากต่อมหมวกไต เพื่อให้มีพละกำลัง วังชา มีเรี่ยวมีแรงบ้าง มีสมดุล) หรือบางท่านพบว่ากินแค่ยาคุมก็พอช่วยได้เหมือนกัน (แต่พี่หมวยไม่แนะนำให้ทานยาคุมนะคะ ศึกษาเพิ่มเติมคำถามก่อนหน้าๆนะคะ) หรือสูตรอื่นๆ แต่อย่างไรนั้นต้องประเมินเป็นรายๆไปค่ะ

หลังจาก 6 เดือนแรกไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์อีกต่อไปค่ะ เราไม่มีตัวสร้างฮอร์โมนเพศชายแล้วนะคะ มีแค่จากต่อมหมวกไต เล็กๆน้อยๆ ก็ให้มันมีบ้างนะคะ เพื่อให้เรามีพลัง กำลังวังชา มีเรื่ยวแรง มีสมดุล มีความเกื้อหนุนต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต แอนโดรคัวร์ไม่มีความจำเป็นต้องทานอีกต่อไปค่ะ ทานแต่เพียงฮอร์โมนเพศหญิงล้วน อาทิเช่น โปรกีโนว่า ฯลฯ เพื่อให้มีฮอร์โมนทดแทน ในปริมาณ ในระดับที่ถูกต้อง ก็สวยแล้วก็เพียงพอค่ะ หลังแปลงเพศสรีระเราจะค่อยๆตามมาเองค่ะ แล้วลดการทานโปรตีนลง ฟิตหุ่น ออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเราเองแข็งแรงเสมอๆนะคะ ควบคุมอารมณ์ แข็งแรงทั้งร่างกายและก็ต้องทั้งจิตใจด้วยนะคะ

เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ท้องผูก รวมถึงแปลงเพศแล้วท้องผูก หรือแปลงเพศแล้วถ่ายไม่ออก ทำยังไงดีคะ ? พี่หมวยจะมาสอนวิธีรักษาให้หายถาวรค่ะ

 

กรณีที่ท้องผูกก่อนมาแปลงเพศอันนี้น้องๆต้องรักษาให้หายก่อนนะคะ จะดีมากค่ะ เดี๋ยวพี่หมวยจะแนะนำให้ค่ะ (รวมไปถึงมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักบ่อยๆ หรือสวนน้ำเข้าทางทวารเพื่อทำแท้งมาบ่อยๆจนท้องผูก ก็ควรรักษาให้หายมาก่อนนะคะ)

มีน้องๆหลายๆคนแปลงเพศแล้วท้องผูก (หรือแปลงเพศแล้วถ่ายไม่ออก) ท้องผูกนั้นเกิดจากหลังแปลงเพศ ไม่ได้ท้องผูกก่อนมาแปลงเพศ ก่อนแปลงนั้นขับถ่ายปกติ พอหลังแปลงเพศเกิดขับถ่ายยากขึ้น พี่หมวยเข้าใจค่ะ ว่ามันทรมานมากๆ บางคนท้อแท้กันเลย แทบอยากตาย เบ่งยังไงก็ไม่ออก ทำยังไงก็ไม่ออก เบ่งกันแทบจะเป็นลม หน้ามืด ประมาณเส้นเลือดในสมองแทบแตก พี่หมวยจะสอนให้นะคะ ว่ามีวิธีรักษาค่ะ ห้ามท้อแท้ แต่ต้องยอมรับและอดทนและค่อยๆแก้ไปค่ะ พอมันเริ่มดีขึ้นแล้วเราจะมีความสุขขึ้นอย่างมากค่ะ

ทีนี้เราต้องเข้าใจก่อนว่าถ้าท้องผูกเหมือนรายปกติทั่วไป การรักษาก็จะต้องทำตาม 7 ข้อที่หมวยสอนนะคะ

ก่อนอื่นเลยเลิกเครียดค่ะ (แล้วพี่หมวยจะพาเราไปเข้าสู่ขั้นตอนต่อๆไป) โดยเราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่า ท้องผูกที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากก่อนแปลงเพศ หรือหลังแปลงเพศ และโดยการต่อลำไส้ค่ะ โดยวันนี้พี่หมวยจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับท้องผูกที่เกิดจากการแปลงเพศแบบต่อลำไส้ค่ะ

ถ้าท้องผูกอันเกิดจากการแปลงเพศแบบต่อลำไส้ ก็คือลำไส้ที่ถูกตัดส่วนหนึ่งออกมาทำช่องคลอดให้เรา แล้วนำอีกส่วนหนึ่งเข้ามาต่อกับทวารหนัก บริเวณที่ลงมีดและมีการเย็บบริเวณนั้นๆน่ะ มันจะทำให้เกิดพังผืด ก็เลยทำให้ไม่สามารถยืดหยุ่นเหมือนเดิมได้ พังผืดมันจะบีบรัดไว้ อุจจาระเราจึงก้อนเล็กลง สั้นขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว มันก็จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนตัวได้ลำบากขึ้นค่ะ บางคนจะสะสมเป็นก้อนแข็งและใหญ่ เวลาขับถ่ายออกมาจะทั้งทรมานและเจ็บ และมีเลือดออกได้ด้วย ออกยากมาก และไม่ออกด้วยค่ะ ต้องค่อยๆแก้นะคะ ซึ่งมันมีวิธีค่ะ

ซึ่งวิธีแก้นั้นเราต้องฝึกขมิบค่ะ ขมิบจนเก่งเลยค่ะ และต้องขมิบอย่างมีความสุขด้วยนะคะ แล้วที่สำคัญต้องออกกำลังกายค่ะ สำหรับพี่หมวยจะออกกำลังกายด้วยการวิ่งค่ะ ส่วนการทานก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากเช่นกันนะคะ ลองดูว่าร่างกายเราทานอะไรแล้วมีผลเป็นอย่างไร เราทานอะไรแล้วทำให้อุจจาระนิ่มลง ขับถ่ายง่ายขึ้น ค่อยๆดูว่าร่างกายเราเหมาะกับแบบไหนนะคะ แล้วดำเนินการตามวิธีของคนที่ท้องผูกแบบรายปกติทั่วไปค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ค่อยๆเรียนรู้ร่างกายเรา เราเอาชนะมันได้นะคะ เราเก่งค่ะ

ส่วนนอกเหนือจากการขมิบเป็นหัวใจหลักแล้ว การแขม่วพุงแล้วเกร็งหน้าท้องก็เป็นอีกวิธีที่ดีมากค่ะ แต่วิธีนี้ก็แล้วแต่คนด้วยนะคะ หากใครกำลังมีพุงอยู่พอดี แล้วอยากพุงยุบ อันเนื่องมาจากกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง การแขม่วพุงแล้วเกร็งหน้าท้องบ่อยๆ เป็นประจำ ก็จะช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้นด้วยค่ะ ร่วมกับการออกกำลังกายบริหารหน้าท้องก็ดี (โดยน้องๆสามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมที่บทความผอมแต่มีพุง มีซิกแพคแต่พุงป่อง ออกกำลังกายลดหมดแต่พุงไม่ลด ฯลฯ ของพี่หมวยเพิ่มเติมได้นะคะ เกี่ยวกับวิธีทำต่างๆในส่วนของการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องค่ะ ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่พาดมาด้านข้าง ไม่ใช่ตรงกลางที่เราเห็นเป็นซิกแพคนะคะ เราจะบริหารตรงนั้น) โดยการทำอันใดก็ตามทั้งหมดทั้งมวล ต้องทำอย่างมีความสุข ทำอย่างพอดี ไม่ยึดติด ไม่เครียดค่ะ

การรักษาท้องผูกนั้นง่ายมากค่ะ เราต้องใช้วิธีธรรมชาติค่ะ พี่หมวยห้ามเลยนะคะ ใช้ยาถ่าย ยาระบายบ้าง ยาเหน็บบ้าง เอานิ้วล้วงบ้าง เอาน้ำสวนเข้าไปบ้าง ไม่ว่าจะน้ำเปล่าหรือน้ำยาของลูกสวนทวารก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ห้ามทั้งหมดค่ะ เว้นแต่จำเป็นต้องใช้จริงๆค่ะ หรือเพื่อการรักษาช่วงแรกค่ะ อย่างไรแค่ช่วงแรกพอนะคะ

1. แรกๆให้ปรับเปลี่ยนการทานอาหารค่ะ ให้เน้นดื่มน้ำ ทานผลไม้ ทานผักเยอะๆ เน้นกากใย ทานอาหารอ่อนๆไปก่อนค่ะ

2. ทานตัวช่วยที่เหมาะกับร่างกายเราในช่วงแรกๆ (ห้ามใช้ตัวช่วยถ่ายนะคะ เช่น ยาถ่าย ลูกสวน ยาเหน็บ นิ้วล้วง ฉีดน้ำ ห้ามเด็ดขาดเลยนะคะ คือการสวนน้ำเข้าไปข้างในทุกรูปแบบค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า (ทำแท้ง) น้ำเกลือ การใช้ยาสวนต่างๆ ฯลฯ ห้ามเด็ดขาดค่ะ) เช่น ทานโยเกิร์ต ดื่มนมเปรี้ยว ดื่มนมผสมโยเกิร์ต ทานกล้วยน้ำว้า มะละกอ ตำลึง มะขาม สับปะรด แก้วมังกร หรือแก้วมังกรผสมนมเปรี้ยว มะม่วงจิ้มกะปิหวาน ฯลฯ เอาที่เหมาะกับร่างกายเรา เป็นต้นค่ะ แต่อย่าทานเยอะ ทานบ่อย ติดต่อกันนานไปนะคะ สลับสับเปลี่ยนกันไป ไม่ว่าจะทานอะไร ทำอะไรต้องเดินสายกลางค่ะ แต่พอดี และหลากหลายค่ะ (ส่วนพวกน้ำลูกพรุนถ้าช่วยได้ก็อย่าทานบ่อยเกินไปค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะกลายเป็นต้องทานตลอด เอาเป็นแค่ตัวช่วยระยะสั้นๆค่ะ)

3. ออกกำลังกาย + ออกกำลังกายลำไส้ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนพี่หมวยวิ่งวันละ 7-10 โลเป็นประจำ อาทิตย์ละ 5-6 วัน (ปัจจุบันเหลือวันละ 3-4 โล อาทิตย์ละ 5 วันก็เพียงพอแล้วค่ะ) ต้องวิ่งอย่างมีความสุขด้วยนะคะ มีพักทุกๆรอบ มีการยกขา ก้มตัว ลุกนั่ง ตีศอกมาที่เข่า บริหารร่างกายทำให้ลำได้บิดได้งอ (หรือบางคนถนัดกระโดดเชือกก็ได้ค่ะ เป็นต้น) มีสลับการขมิบ เมื่อเริ่มผายลมได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ ดื่มน้ำเยอะๆ เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆเริ่มมาค่ะ ปัจจุบันพี่หมวยขับถ่ายเป็นปกติทุกอย่างแล้วค่ะ บางทีไม่สบายหยุดวิ่งเป็นอาทิตย์ - เป็นเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พอหายแล้วก็กลับไปออกกำลังกาย มีขมิบบ้างเหมือนเดิมค่ะ ทำอะไรทำอย่างมีความสุขนะคะ ไม่เครียด พยายามมีวินัยนะคะ และต้องรู้จักผ่อนปรนค่ะ ส่วนการแขม่วพุงแล้วเกร็งหน้าท้อง อันเนื่องมากจากมีพุง อยากลดพุงร่วมด้วยพอดี กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง ก็ทำท่าบริหารกล้ามเนื้องหน้าท้องไม่ว่าจะ crunch ก็ดี plank ก็ดี air bike ก็ดี mountain climber ก็ดี หรือนอนราบแล้วยกขาเป็นท่าต่างๆก็ดี ฯลฯ การออกกำลังกายแบบนี้ล้วนมีส่วนเกี่ยวพันกันหมด ที่สำคัญต้องเกร็งหน้าท้องเสมอด้วยนะคะ หากไม่ได้ออกกำลังกาย หรือเวลาว่างๆก็หมั่นแขม่วพุงแล้วเกร็งค้างไว้ ทำบ่อยๆด้วยนะคะ เฉพาะช่วงแรกๆค่ะ (การเกร็งหน้าท้องนั้นต้องทำตอนท้องว่างนะคะ) เหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกันหมด ลำไส้ทำงานดี ผายลมกันสนุกเลยค่ะ หรือจะคาร์ดิโอร่วมด้วยเพื่อให้ผลดียิ่งขึ้นก็ดีค่ะ หลายๆคนประสบความสำเร็จ พุงยุบ แบน กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง หุ่นดี แถมกลับมาขับถ่ายปกติดีอีกด้วย เก่งมากค่ะ และปัจจุบันพี่หมวยก็ลดการออกกำลังกายลงมาเยอะมาก ใช้เวลาไปกับการทำอย่างอื่นได้อย่างมีความสุข โดยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับท้องผูกอีกเลย และการเกร็งหน้าท้อง ก็ทำแค่ช่วงเวลาออกกำลังกายเท่านั้นค่ะ ไม่ต้องทำบ่อยๆเหมือนช่วงแรกๆค่ะ

4. อันนี้ย้ำว่าต้องทำเลยค่ะ ฝึกขมิบค่ะ วันละ 100-500 ครั้งเป็นต้นค่ะ อันนี้เยี่ยมเลยค่ะ แรกๆอาจจะทำยาก แต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันละนิดหน่อย (แรกๆอาจจะขมิบเช้า 20 กลางวัน 20 เย็น 20 ก่อนนอน 40 ก็ได้ค่ะ) เดี๋ยวเราจะเริ่มขมิบได้เยอะขึ้นค่ะ ทำแล้วพัก แล้วทำต่อ วันนี้ได้ไม่กี่ครั้ง วันต่อๆไปก็จะเริ่มได้มากขึ้นค่ะ ค่อยๆไล่ทำไปเรื่อยๆค่ะ จะค่อยๆดีขึ้น หลังจากนั้นพอเก่งแล้ว คล่องแล้วก็จะสบายขึ้นค่ะ สมัยก่อนพี่หมวยก็ขมิบวันละ 700 ครั้งค่ะ แบ่งเป็นเซ็ตๆไปค่ะ หลังๆก็วันละ 100-200 ครั้งก็พอค่ะ มีพักอาทิตย์ละ 2 วันด้วยนะคะ ^^ (แต่มันก็มีข้อเสียนะคะ อย่าขมิบเยอะมากเกินไปนะคะ ทำอะไรให้ทำแต่พอดีค่ะ ขมิบมากๆ กล้ามเนื้อก้นฟิต ลำไส้แข็งแรงก็ดีจริง แต่ถ้าเกิดมีช่วงที่ท้องผูก หรือนานๆถ่ายที ดื่มน้ำน้อย การทานไม่ค่อยมีวินัย แล้วถ่ายเป็นก้อนแข็ง ใหญ่ ก้นที่ฟิตเกินไป ทำให้ถ่ายลำบากอีก เสียดสีเลือดออกขึ้นมาอีกค่ะ)

5. ถ้ารู้สึกปวดให้เข้าห้องน้ำเลยนะคะ อย่ากลั้นไว้

6. ควมคุมอารมณ์ค่ะ สำคัญมาก และเลิกเครียดด้วยนะคะ ความเครียดนี่ตัวดีเลยค่ะ ทำใจให้สบายค่ะ อย่าไปกังวล อย่าไปเครียดกับมัน กลับไปฝึกขมิบ ฝึกตามที่สอนข้างต้นแล้วทำใจให้สบายค่ะ

7. อย่าทำอะไรรีบๆ เร่งๆ ทำนี่พร้อมกับทำนั่น ชีวิตในยุคนี้หลายๆท่านทำอะไรรีบเร่งไปหมด บางทีก็รีบๆกิน เคี้ยวอาหารรีบๆ รีบๆถ่าย รีบๆนั่นนี่ไปหมด ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ อย่าใจร้อน ละบางอย่างได้ก็ละนะคะ

จะทำอะไรทำให้มีความสุขนะคะ มองให้เหนือปัญหา เชื่อมั่นในตัวเองค่ะ แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จนะคะ

พี่หมวยเองก็เคยทรมานกับการถ่ายไม่ออกหลังแปลงเพศค่ะ ที่เกิดจากการต่อลำไส้ ปัจจุบันนี้เรียกว่าถ่ายออกมาก้อนทั้งใหญ่และยาวมาก ย้ำเลยค่ะว่ายาวมาก เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน แรกๆทานผัก ดื่มน้ำ ดื่มนมเปรี้ยว ผสมนั่นผสมนี่ ทานผลไม้ บางวันก็ทานกล้วยน้ำว้าบ้าง มะละกอบ้าง ออกกำลังกาย เป็นการฟิตหุ่นให้สวยเสมอด้วย ช่วงอยู่บนรถบ้าง เดินทางไปไหนมาไหนบ้าง ช่วงที่ออกกำลังกายบ้าง พี่หมวยก็จะขมิบเรื่อยๆ ทีละ 100 แล้วพัก ประมาณ 3-7 ครั้ง จนคล่องมากแล้วค่ะ ปัจจุบันก็ขมิบแค่วันละ 100-200 ทีก็พอแล้วค่ะ ไม่ขมิบเลยเป็นอาทิตย์ก็ยังได้ค่ะ (อย่างที่บอกอย่าขมิบจนมากเกินไป) ทำท่าลดพุงต่างๆ ถือโอกาสฝึกกล้ามเนื้อหน้าท้องให้แข็งแรง หุ่นดีขึ้น พุงยุบเริ่มมีซิกแพค หุ่นดีขึ้น แข็งแรง อีกทั้งขับถ่ายง่ายขึ้น จากที่เคยเครียด กลุ้มใจ นั่งคิดแต่เรื่องท้องผูก เดี๋ยวนี้ไม่เคยคิด ไม่สนใจ ลืมไปเลยค่ะ ไม่ไปใส่ใจกับมันเลย มันก็จะถ่ายได้เอง ชีวิตกลับมาปกติทุกอย่างค่ะ บางวันก็ลืมขมิบออกไปจากระบบไปเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องขมิบทุกวันแล้วค่ะ บางทีก็ไม่ขมิบ 2-3 อาทิตย์เลยค่ะ กินสารพัดของอร่อยเลยค่ะ เพราะเราเก่งแล้ว แต่พอว่างไปออกกำลังกายก็จะได้โอกาสขมิบต่อ (ศึกษาร่างกายตัวเองว่าทานอะไรทำให้อุจจาระนิ่มลงเพื่อให้ขับถ่ายง่ายขึ้น อย่างพี่หมวยก็จะดื่มนมวันละแก้ว นมถั่วเหลือง ทานกล้วยน้ำว้าวันละลูก ขับถ่ายนิ่มสบาย กินบ้างไม่กินบ้าง ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดไปหมด มีวินัย แต่ไม่ต้องเข้มงวดมาก และรู้จักผ่อนปรนนะคะ) ทำให้เป็นปกติ ทำให้มันกลายเป็นเรื่องง่ายนะคะ ทำอะไรทำให้มีความสุขนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอน จงเรียนรู้แล้วเอาชนะมันค่ะ

และที่สำคัญอย่าลืมตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ ปีละ 2 ครั้งค่ะ

ปัจจุบันพี่หมวยลืมเรื่องท้องผูกไปเลยค่ะ และไม่เคร่งครัดอะไรมากมายเลยค่ะ ทั้งการกินและการออกกำลังกาย กินทุกอย่างค่ะ ใช้ชีวิตปกติ มีความสุข อารมณ์ดี ดื่มน้ำเยอะๆ ให้เหมาะกับเรา แถมยังช่วยให้ผิวพรรณดีด้วย มีวินัยและผ่อนปรนควบคู่กันไปค่ะ

 

ทำนม ทำหน้าอก แล้วเทคฮอร์โมนอย่างไรคะ ?

 

ถ้ายังไม่ได้แปลงเพศ กรณีทำนม ทำหน้าอกแล้ว หรือยังไม่ได้ทำก็ตาม เราจะเทคฮอร์โมนเหมือนกันค่ะ ต้านฮอร์โมนเพศชาย + เสริมฮอร์โมนเพศหญิงค่ะ ตามกลไกของเราค่ะ อาจจะต้องสอบถามดูก่อนว่าทำมานานหรือยัง เป็นอย่างไรบ้าง ต้องมาประเมินอีกทีค่ะ เพราะบางกรณี บางท่านอาจจะปลื้มที่เต่งตึงขึ้น ขยายขึ้น แต่บางท่านอาจจะ คัด ตึง เจ็บ หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น อาจจะไม่ปลื้ม ก็อาจจะลดปริมาณฮอร์โมนเพศหญิง หรือปรับเปลี่ยนสูตรเป็นรายๆไปค่ะ

 

ฉีดฮอร์โมนแล้วทานเสริมอีกได้ไหมคะ ?

 

ต้องดูว่าฉีดอะไรบ้าง ปริมาณไหนก่อนค่ะ ตามหลักและกลไกของเราแล้ว เราต้องต้านฮอร์โมนเพศชาย และเสริมฮอร์โมนเพศหญิง อาทิเช่น กรณีฉีดแต่ฮอร์โมนเพศหญิง อาทิ โปรกีนอน หรือเอสตร้า ตัวใดตัวหนึ่ง เราจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ค่ะ เพื่อต้านฮอร์โมนเพศชายค่ะ หรือถ้าฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน หรือ เอสตร้า + โปรลูตอน การทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า ไม่จำเป็นแล้วนะคะ โปรกีโนว่าควรตัดออกค่ะ ฮอร์โมนเพศหญิงเสริมซ้ำซ้อน หลากหลาย ไม่แนะนำค่ะ อาจจะทำให้มีฮอร์โมนเพศหญิงสูงเกินไป และภาวะอันตรายต่างๆตามมาได้ รวมไปถึงฮอร์โมนแกว่ง เกิดอารมณ์แปรปรวนได้ด้วย ซึ่งต้องมีการไปตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนด้วยค่ะ เพื่อประเมินว่า แอนโดรคัวร์อาจจะยังใช้ร่วมได้หรือไม่ หรือตัดทั้งแอนโดรคัวร์และโปรกีโนว่าออกทั้งคู่ค่ะ เราต้องคอยระมัดระวังเรื่องระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้สูงหรือต่ำกว่าค่ามารตราฐาน เพราะจะมีอันตรายตามมาอย่างมหันต์เลยค่ะ อย่างไรการใช้ฮอร์โมนนั้น ต้องใช้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ เทคแต่พอดีนะคะ หลายๆคนไม่ต้องทานร่วมฉีดก็เพียงพอได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนเดิม กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ค่า BMI ความแมนของแต่ละคน การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ สวยในแบบตัวของเราค่ะ ในกรณีฉีดถ้าอยากจะทานร่วมด้วย ทานสมุนไพร LDB หรือละมุนนีก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ กรณียาฉีดนั้น อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

สรุปได้ว่า ต้องดูว่าเราฉีดตัวไหน อะไรบ้าง ปริมาณไหน และจะทานเสริมตัวไหน หรือมีความจำเป็นขนาดนั้นไหมต้องดูอีกทีค่ะ ต้องดูยาที่ฉีดก่อนค่ะ หรือตรวจวัดระดับฮอร์โมนจะดีที่สุดค่ะ ดูเคมียาที่ฉีด ดูอนุพันธ์ของตัวยา ว่าทานเสริมร่วมแล้วจะไปซ้ำซ้อนกันไหม เช่น บางท่านฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน ก็ไม่จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าแล้วนะคะ หรือบางท่านฉีดแต่โปรกีนอน หรือ เอสตร้า (เสริมฮอร์โมนเพศหญิง) แล้วทานแอนโดรคัวร์ (ต้านฮอร์โมนเพศชาย) ได้ค่ะ ก็เป็นอีกสูตรที่นิยมกันค่ะ เป็นต้น

กรณีฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน หรือ เอสตร้า + โปรลูตอน หรือดูโอโทน หรือฟีโนกีนอนเอฟ ฯลฯ นั้น เราต้องมีการตรวจวัดค่าฮอร์โมนนะคะ แล้วมาประเมินว่าค่าฮอร์โมนต่างๆเป็นอย่างไร สามารถทานเสริมดีหรือไม่ มีความจำเป็นไหม หรือควรลดอะไร ตัดอะไร แม้อาจจะไม่จำเป็น ฉีดเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว แต่เพื่อให้ตอบโจทย์และเด่นชัดขึ้น สามารถเทคยาทานร่วมได้ โดยต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนนะคะ ถ้าจะทานเสริมต้องมาให้พี่หมวยประเมินปัจจัยต่างๆก่อนนะคะ ทั้งค่าฮอร์โมน อายุ น้ำหนัก BMI ความแมน กรรมพันธุ์ ประวัติครอบครัว ภาวะต่างๆอันไม่ควรเทค และปัจจัยอันห้ามเทค ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน ระยะเวลาของการใช้ยามาก่อน ฯลฯ ต้องให้พี่หมวยวิเคราะห์ก่อนนะคะ อย่าไรเบื้องต้นหากน้องยังไม่มีความรู้มาก อย่าเทคเยอะ ซ้ำซ้อนเกินไปนะคะ และต้องศึกษาข้อเสีย อันตรายของยาด้วยนะคะ ทั้งกินและฉีด ต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยสอนนะคะ

กรณีทั้งฉีดและทานนั้นอาจจะไม่จำเป็นขนาดนั้น ต้องดูปัจจัยว่าเทคครบตามหลักไหม หรือเทคแค่นี้เพียงพอไหม เทคหลากหลายไปไหม ฮอร์โมนสูงเกินไปไหม ถ้าเราไม่ตรวจระดับฮอร์โมน ก็ให้ยึดหลักเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ ในหลายๆท่านไม่จำเป็นต้องทานยาเลย ฉีดก็เพียงพอแล้ว หรือหลายๆท่านทานอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ให้ผลดีด้วยเช่นกัน ก็ต้องดูหลายๆปัจจัย องค์ประกอบ และต้นทุนของแต่ละคนด้วยนะคะ อย่างไรอย่าทำให้ตับทำงานหนักขึ้นเลยนะคะ บางท่านฉีดแล้วยังทานเสริมก็เพื่อเน้นฮอร์โมนเพศหญิงให้สูงขึ้นไปอีก ให้เด่นชัดเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ ซึ่งก็อาจจะเห็นผลได้ดีในหลายๆท่านเช่นกัน แต่ก็เสี่ยงมาก อาทิ ไมเกรน หลอดเลือดอุดตัน ฯลฯ อย่างไรก็ตามเทคยาไม่ว่าจะสูตรไหนก็ตาม ให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคแต่พอดีค่ะ เทคอย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน แล้วอย่าลืมพักตับตามความหลากหลายของยาที่เทค ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ คือธรรมชาติให้ตัวเองบ้าง และหมั่นดูแลสุขภาพให้เข็งแรงเสมอๆนะคะ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเอง และมีตรวจสุขภาพทุกปีก็จะดีมากค่ะ

หากจะทานยาเสริมด้วย ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ

กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านอวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

 

– เทคยาแล้ว จำเป็นต้องหยุดพักตับไหมคะ ?

 

 

ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นค่ะ แล้วแต่กรณีๆไปนะคะ ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยค่ะ ซึ่งปัจจัยของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ รวมถึงตามความหลากหลายของยาที่เทคด้วยนะคะ ไม่ว่าจะยาเคมี หรือยาสมุนไพร ไม่ว่าจะฉีด ทาน หรือทา หรือใดๆก็ตาม รวมถึงอาหารเสริมต่างๆร่วมด้วยค่ะ ปัจจัยต่อมารวมถึงอายุ วัยของผู้เทคยา ภาวะต่างๆ ไปจนถึงปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น เรียกหนัก สอบ เครียด ฯลฯ รวมถึงโรคประจำตัว ฯลฯ ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

พี่หมวยจะอธิบายสอนน้องๆนะคะ แม้คุณหมออาจจะบอกว่าไม่ต้องพัก อาจทำให้ร่างกายปั่นป่วน มีฮอร์โมนไม่คงที่ ให้ออกกำลังกาย ทานผักผลไม้ ฯลฯ ใดๆก็ตาม แต่หากเรามองลึกรายละเอียดรายบุคคลลงไป ก็จะสามารถประเมินได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ว่าใครเทคอะไร มากน้อยแค่ไหน มีวิตามิน อาหารเสริม ยารักษาโรคประจำตัว ยารักษาอาการต่างๆเสริมเข้ามา เช่นเจ็บป่วย หรือศัลยกรรมใดๆมา หรืออื่นๆใดๆ เพื่อประเมินว่าใครเหมาะกับการเทคแบบไหน แต่ละคนมีภาวะและปัจจัยใดๆ ระยะเวลานานแค่ไหน ฯลฯ และควรพักตับหรือไม่ค่ะ และควรพักอย่างไรค่ะ

พี่หมวยวิเคราะห์ว่า หากมองที่ความจริงอีกด้าน สำหรับสาวประเภทสองที่ยังไม่ได้แปลงเพศนั้นเราต้องเทคยากันยาวนาน เทคกันตลอดไป แล้วเทคกันหลายตัว ทั้งตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย + เสริมฮอร์โมนเพศหญิง (แล้วแต่กรณีๆไปค่ะ เพราะต้องประเมินว่าเทคอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เทคหลากหลายไหม เทคเยอะไหม เทคสูงๆไหม ฉีดหรือทานหรือทา หรือทั้งฉีดทั้งทาน หรือทั้งทา รวมฤทธิ์กันเยอะไหม และมีวิตามิน อาหารเสริมอะไรอีกไหม อายุ วัยของผู้เทคยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ) เพื่อพัฒนาการของตัวเราเองให้เป็นหญิงมากขึ้นไปตามกาลเวลา และเพื่อคงอยู่ (ประคอง) การเทคยาเพื่อข้ามเพศของสาวประเภทสองในหลายๆท่านจะเทคหลายตัว เทคแรง (แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ ความแมน ร่างกาย BMI กรรมพันธุ์ของแต่ละคน ฯลฯ) และเทคนาน อาจจะตลอดไป ซึ่งยาแต่ละตัวจะมีผลข้างเคียง มีอันตรายเยอะมาก การใช้ยาระยะยาว จะมีปัจจัยเสี่ยงตามมาเยอะมากด้วย และบางท่านทั้งทานทั้งฉีดควบคู่กันอีก อีกทั้งยังมีวิตามินอาหารเสริมต่างๆร่วมด้วยอีก การหยุดพักตับจึงเป็นเรื่องที่ควรอย่างมากค่ะ ในกรณีที่เทคเยอะ เทคหลากหลายค่ะ

อีกเรื่องที่สำคัญมาก คือ
ปัจจัยของความสตรองของการหยุดพักตับแต่ละคนก็แตกต่างกันค่ะ บางคนเทคยาจนขาดยาไม่ได้แล้ว อันนี้น่ากลัวมาก พอหยุดยาจะเริ่มมีอาการ ทั้งหงุดหงิด ทั้งภาวะของอารมณ์แปรปรวน ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกร่างกาย เช่น ไม่ได้เทคยาแล้วหนูจะเป็นนั่นเป็นนี่ หนูจะรู้สึกนั่นนี่ ภาะวะของโรคต่างๆเล็กๆแทรกเข้ามา ไปจนถึงโรคที่อันตรายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะซึมเศร้า จิตตก วิตก ฯลฯ แล้วมาวิเคราะห์ว่าอันตรายของยา ผลข้างเคียงของยาที่ได้รับมา รวมถึงที่กำลังจะเกิดขึ้น กับผลข้างเคียงของการพักตับช่วงสั้นๆ เราก็ต้องไตร่ตรองดูนะคะ เมื่อเราเทคให้เป็น เทคอย่างฉลาด เรื่องอารมณ์ เรื่องภาวะต่างๆช่วงที่หยุกพักยา ฯลฯ เราก็สามารถเอาชนะมันได้ค่ะ เราต้องสตรองนะคะ เราเก่งค่ะ รักษาตัวเองก่อนพักตับอย่างคนเก่งนะคะ พี่หมวยเชื่อว่าน้องๆเก่งค่ะ สู้ๆนะคะ

เมื่อรู้แบบนี้แล้วนอกจากเราต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ และต้องเทคยาอย่างมีความสุขค่ะ เทคยาให้คิดถึงตอนที่เราแก่ตัวไปนะคะ เทคอย่างระมัดระวัง ต้องมีการหยุดพักยาบ้าง คืนธรรมชาติให้กับตัวเองบ้าง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทาน เทคฮอร์โมนให้เป็นนะคะ เทคอย่างมีความสุข สวยแล้วสุขภาพเราก็ต้องดีควบคู่ไปด้วย จะได้สวยกันไปนานๆ เพราะเป้าหมายเราคือ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยค่ะ

ต่อมาเรื่องของยาที่รับยาเข้ามาเป็นปัจจัยเสริมในการประเมินการพักตับ เกริ่นก่อนว่า น้องๆสาวประเภทสองเราจะเทคยากันนาน บ้างก็เทคกันเยอะ เทคหลายตัว บ้างก็เทคในระดับที่สูงเพื่อการข้ามเพศ บางคนทั้งทานทั้งฉีด บางคนยังมีทานวิตามิน ทานอาหารเสริม บางท่านมีกลูต้าอีก มีนั่นมีนี่ ฯลฯ รวมไปถึงบางท่านมียา มีโรคประจำตัวอีก (รวมไปถึงปัจจัยเสริม ยกตัวอย่างเช่น เราไม่สามารถคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา เราจะมียาอะไรเพิ่มเข้ามาอีกไหม เช่น ทำศัลยกรรมมา มียาต่างๆเพิ่มมาให้ทาน หรือเป็นไข้ มียาลดไข้แก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้แพ้ ยาแก้นั่นนี่เข้ามา บาดเจ็บอะไรมา ปวดเมื่อยออกกำลังกายต้องกินยาคลายกล้ามเนื้อ ฯลฯ เป็นต้น รวมถึงยาเคมี ยาสมุนไพรใดๆอีก ฯลฯ) นี่คือปัจจัยหลักเลยที่ต้องควรมีการหยุดพักตับ เราควรคำนึงถึงความหลากหลายของยา ปริมาณยาเยอะๆที่ใช้มากกว่าผลข้างเคียงของการพักตับดีกว่านะคะ ถ้าเราสตรอง เราเก่ง เทคยาเป็น เทคอย่างมีความสุข พักตับช่วงสั้นๆ ฮอร์โมนก็จะไม่ใช่ผู้ใช้เราค่ะ

แต่ถ้าเราเทคปกติ เทคอย่างพอดี แม้อาจจะไม่จำเป็นต้องพักตับ แต่ปีนึงอาจจะมีการพักบ้างอย่างน้อยสัก 1-3 ครั้งพี่หมวยถือว่าดีค่ะ 
เราควรหยุดเพื่อให้ตับได้พักบ้าง แม้ตับสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ก็ตาม (พี่หมวยจะใช้คำว่าพักตับเป็นองค์รวมกว้างๆแทนแล้วกันนะคะ ให้น้องๆเข้าใจว่าพักร่างกายก็ได้ค่ะ) แต่อย่าลืมว่า บางท่านเราเทคทั้งแอนโดรคัวร์ ทั้งโปรกีโนว่า เป็นต้น เป็นสูตรหลัก ระดับการเทค ทั้งอาจจะตามค่า BMI การใช้ฮอร์โมนที่สูง แล้วเทคมานาน อันตรายระยะยาวของแอนโดรคัวร์นั้นมีเยอะมาก หรืออาจจะมีวิตามิน อาหารเสริมเข้ามาร่วมด้วยอีก หรือเปลี่ยนสูตรไปมาอีก เบื่อสูตรนี้ เปลี่ยนสูตรนั้น เทคทั้งยาเคมี ยาสมุนไพรร่วมกันหลากหลายอีก หรือทั้ง แอนโดคัวร์ + โปรกีโนว่า บางท่าน + ยาคุมเข้าไปอีก ฯลฯ เราจึงต้องควรหยุดพักตับด้วย จะดีที่สุดค่ะ และกลับมาเทคให้เหมาะ ให้ถูกต้อง ขอเพียงไม่เทคเยอะๆ ผิดๆ แล้วก็ดื่มน้ำให้เหมาะพอดีไปตามวัย ตามปัจจัยต่างๆของแต่ละคน เราจึงควรหยุดพัก เพื่อล้างสารพิษที่ตกค้างจากยาเคมี ยาสมุนไพร ฯลฯ และให้ร่างกายเราได้พักผ่อนบ้าง พักสมองบ้าง เทคกันจนปวดหัว พักร่างกายบ้าง เทคกันจนกระดูกมีเสียงดังเวลาจะทำอะไรกันไปหมดและค่ะ กล้ามเนื้อหาย หมดเรี่ยวหมดแรง ร่างกายเราก็เหนื่อย อ่อนแอลงอยู่แล้วนะคะ ป่วยง่ายอีก คืนธรรมชาติให้เขาบ้างค่ะ แล้วกลับมาแก้ไขให้ตรงจุดค่ะ

พี่หมวยคิดว่า เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ การไม่อยู่ในภาวะของมนุษย์ฮอร์โมนสักระยะ คืนความเป็นต้นกำเนิดของตัวเอง อย่างฉลาด อย่างคนเก่ง อย่างมีความสุข เป็นสิ่งที่ดีมากค่ะ เมื่อพักแล้ว กลับมาเทค เราต้องเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคให้เหมาะกับค่า BMI ของเรา (แต่ไม่เสมอไป) ภาวะเรา ปัจจัยต่างๆของเรา การใชีชีวิตประจำวันของเรา การกิน การอยู่ การดำเนินชีวิต โรคประจำตัว ฯลฯ เทคให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างมีวินัย อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ยาเข้ากระแสเลือดไปแล้ว ก็สบายใจได้ค่ะ อย่าคิดมากค่ะ ทำอะไรทำให้มีความสุข สบายใจ ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ อะไรที่ละได้ก็ละ ส่วนแอลกอฮอล์ บุหรี่ เลิกไม่ได้ก็ค่อยๆละค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ ทั้งมีวินัยและทั้งรู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ ปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ แต่บางเรื่องก็ทำให้จริงๆจังๆนะคะ

ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคยาอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว ปัจจัยอื่นควรเลิกกังวลค่ะ ทั้งการกิน การช่วยตัวเอง ไม่ได้ล้างยา หรือต้านยา เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ ทำอะไรทำให้พอดีค่ะ ทานอาหารให้อร่อย ทานผักผลไม้ เปลี่ยนๆเมนูกันไป อย่าเดิมๆซ้ำๆ เราไม่ได้กินทีหลายๆกิโลเพื่อไปลดประสิทธิภาพของยา ส่วนมีเซ็กส์เพื่อผ่อนคลาย เพื่อความสุข ไม่ได้ล้างยาใดๆ ทำอะไรทำแต่พอดี รู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ใช้ชีวิตให้มีความสุข เต็มที่ อยู่บนทางสายกลาง ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ หากตรวจวัดระดับฮอร์โมนก็จะทราบอย่างแน่ชัดมากขึ้น จะได้นำมาประกอบการพิจารณาเพื่อการเทคที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น (ไม่เสมอไป) จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ควบคุมอารมณ์ และออกกำลังกายรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ทำอะไรทำอย่างพอดี ทำอย่างมีวินัยค่ะ

อย่างที่บอก การกลับมาเทคฮอร์โมน ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคให้ต่อเนื่อง อย่าเทคๆหยุดๆ เปลี่ยนไปมา เทคอย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักผ่อนปรน อย่าเครียด อย่าคิดมากนะคะ เทคอย่างมีความสุขค่ะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เราเก่งค่ะ เราต้องสตรองนะคะ ส่วนปัญหาใดๆก้ค่อยๆแก้ไปอย่างคนเก่งนะคะ

เรียกว่าสุขกาย สุขใจแล้ว สุขกิน สุขใช้ชีวิตแล้ว ยังมีความสุขที่ได้เทคฮอร์โมนทุกวันสม่ำเสมอค่ะ และเหนือสิ่งอื่นใดคือ สุขที่มีสุขภาพแข็งแรง แก่ตัวไปก็ยังแข็งแรง สุขภาพดี อันนี้ยอดเยี่ยมเลยค่ะ พี่หมวยชื่นใจมากๆเลยค่ะ


สำหรับการพักตับนั้น จริงๆแล้วโดยหลักการ สำหรับพวกอาหารเสริม สมุนไพร ราวๆ 3 เดือนพักสัก 2-4 อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นยาฮอร์โมนนั้น อาทิเช่น ยาคุม จริงๆจะเทคได้นานเป็นปีเลยค่ะ แต่สำหรับสาวประเภทสองจะค่อนข้างเทคกันเยอะ ทั้งต้านฮอร์โมนชาย เสริมฮอร์โมนหญิง อีกทั้งบางคนทั้งฉีดและทาน บางคนทานทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร และหลายๆคนก็มีฉีดร่วมด้วย ซึ่งอาจจะเยอะเกินไปค่ะ ก็ต้องเป็นปัจจัยนำมาพิจารณาอีกทีค่ะ ซึ่งระยะการพักตับก็จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็รวมไปถึงอายุ วัยของละคน ค่า BMI ของแต่ละคนด้วยค่ะ ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงโรคประจำตัว ฯลฯ สรุปนั่นก็คือปัจจัยของการเทคยาเอง ว่าเทคอะไรบ้าง กี่ตัว มีอาหารเสริมใดๆไหม และการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ภาวะและปัจจัยต่างๆ มีอะไรบ้าง รวมถึงจำเป็นต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป จะมีอันตรายอย่างมากค่ะ

การหยุดพักนั้นเราควรหยุดทั้งหมดไม่ว่ากินหรือฉีดก็ตาม ต้องหยุดหมดค่ะ (อย่างไรอายุ วัยของผู้เทคยา การเทคหลากหลายตัว เทคสูงๆ มีอาหารเสริม มีวิตามิน ก็มีส่วนในการนำมาประกอบการประเมินด้วยนะคะ ซึ่งกรณีนี้จะต้องประเมินเป้นรายบุคคลไปค่ะ) โดยแบ่งการหยุดพักตับอาจจะตามนี้นะคะ

สำหรับช่วงวัยรุ่นที่เริ่มเทคฮอร์โมน ทุกๆ 4-6 เดือน ให้หยุดพักประมาณ 2-3 อาทิตย์ค่ะ พอช่วงปีที่สองไป ทุกๆ 4 เดือนหยุดพักประมาณ 2-4 อาทิตย์ค่ะ (ช่วงที่หยุดพักก็หาอะไรทำ ทำอะไรทำอย่างมีความสุข ออกกำลังกาย ควบคุมอารมณ์ มีความสุขกับการใช้ชีวิตนะคะ อย่าไปเครียด คิดมาก เลี่ยงปัจจัยต่างๆ ควบคุมอารมณ์นะคะ)

ปล. หากเทคเยอะ หรือทั้งกินทั้งฉีด อาจจะลดระยะการพักตับเป็นทุกๆ 3 เดือนพัก 2-4 อาทิตย์ก็ได้ค่ะ (โดยพี่หมวยจะประเมินอีกทีค่ะว่าเราเทคอะไรมาบ้าง แล้วเทคเยอะไหม หลากหลายไหม เทคสุงๆไหม ค่า BMI เท่าไหร่ แล้วการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร อายุ วัย โรคประจำตัว ฯลฯ ล้วนต้องนำมาประกอบการประเมินค่ะ)

แล้วกลับมาเทคใหม่โดยไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่สวย จะกลับมาสภาพเดิม จะกลายร่าง หรือหยุดยาแล้วกลับมาเทคจะไม่เหมือนเดิม เป็นแค่เพียงช่วงสั้นๆให้ตับ ให้ร่างกายได้พักบ้าง เพื่อสุขภาพตัวเอง คืนธรรมชาติให้กับตัวเองบ้าง ไม่ได้ทำให้เรากลายร่างมากมายแต่อย่างไร เพราะเราพัฒนามาเยอะ มาไกล หรือมานานแล้ว ให้พอใจเท่าที่ได้ ช่วงที่พักอาจจะมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาบ้าง ขนอาจมีขึ้นมาได้บ้าง ตราบใดที่เราใช้ยาฮอร์โมน เราก็ต้องรู้จักผ่อนปรน ต้องรู้จักใช้ให้เป็น พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา รู้จักยอมรับและผ่อนปรน คือธรรมชาติให้ตัวเองบ้างนะคะ

น้องๆไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ปล่อยให้ธรรมชาติกลับมาหาร่างกายเราบ้าง เพื่อสุขภาพตัวเราเองค่ะ เรื่องสวยพักไว้ก่อน (แล้วการพักตับก็ไม่ได้แปลว่าหยุดยาแล้วจะ = ไม่สวยนะคะ) ดูแลตัวเองก่อนนะคะ แล้วค่อยกลับมาเทคใหม่ได้จ้ะ

น้องๆหลายคนมักจะคิดไปว่ากลับมาเทคจะไม่เหมือนเดิม ต้องเทคให้แรงขึ้น สนองตัวเองเพื่อแก้ไขจุดนี้ เพราะไม่พึงพอใจเท่าที่ได้ทั้งๆที่ความจริงแล้ว เราควรเทคให้เป็น เทคให้พอดี เทคให้ถูก เราก็สวยได้ สวยในแบบตัวเราเองค่ะ พอใจเท่าที่ได้ มิใช่เทคเพื่อคาดหวังให้สวยยิ่งๆขึ้นไปอีก อันตรายจะตามมามากค่ะ ยาฮอร์โมนเป็นยาอันตรายมาก ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งนะคะ ยิ่งเทคยาเคมีนานๆ เทคมั่วๆ เทคหลากหลาย เทคอย่างไม่รู้ ปัจจัยเสี่ยงต่างๆก็จะตามมา อีกทั้งผลข้างเคียงของยาแต่ละตัวมันก็มีเยอะ ต้องระวังระวังด้วยนะคะ ใช้ให้เป็น และรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ แล้วหากมีเวลาก็ไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ จะดีที่สุดค่ะ เพื่อที่จะได้เทคในระดับที่เหมาะกับเราได้อย่างถูกต้องค่ะ และอย่าลืมต้องเป็นผู้ที่สตรองด้วยนะคะ ทั้งกายและใจ และอารมณ์ มองโลกในแง่ดี คิดบวกนะคะ ฯลฯ อย่ากลัวไม่สวย กลัวนั่นกลัวนี่ เราสวยในแบบของเราค่ะ เราต้องเทคยาให้เป็น เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เราเป็นคนเก่งค่ะ สู้นะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

ทำไมบางคนฉีดหรือทานฮอร์โมนถึงเป็นสิว ?

 

หน้าที่หลักๆเลยของเอสโตรเจน คือ ทำให้มีหน้าอก เต้านมเต่งตึง สะโพกผาย ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ผิวหน้าผ่อง นวลขึ้นหรือใสขึ้นได้ โปรเจสเตอโรนก็เช่นกัน ช่วยเสริมเอสโตรเจนซึ่งกันและกัน กรณีทานก็เหมือนกัน หรือทั้งฉีดทั้งทาน ซึ่งต้องดูสูตรยาทานและสูตรยาฉีดนั้นๆอีกหลายๆอย่าง ในบางท่านการมีฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง การไวต่อการกระตุ้น การเปลี่ยนสูตร การมีภาวะต่างๆ อาทิเช่น เครียด พักผ่อนน้อย ฯลฯ รวมไปถึงมลภาวะ สุขอนามัย ฯลฯ เหล่านี้ล้วนมีโอกาสกระตุ้นให้เป็นสิวได้

ปัจจัยที่ 1. เกิดจากภาวะการมีฮอร์โมนที่ไม่สมดุลกัน ทั้งจากยาต้านฮอร์โมนเพศชาย ยาเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ยาคุม แล้วการนำมาทานร่วมกันหลากหลายอีก ซึ่งส่งผลถึงอารมณ์ต่างๆ รวมไปถึงความเครียด อารมณ์แปรปรวน ฯลฯ

ปัจจัยที่ 2. ในการเทคยาที่มีการใช้โปรเจสเตอโรนที่สูง โปรเจสเตอโรนที่หลั่งเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการคั่งน้ำในร่างกาย จนทำให้รูขุมขนบวมมากขึ้น อีกทั้งยังหลั่งน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวมากขึ้น จนเกิดการสะสมและอุดตันตามใบหน้า

ปัจจัยที่ 3. การเทคยา ไม่ว่าจะเทคยามั่วๆ เทคยาซ้ำซ้อน เทคหลากหลาย เทคเยอะแยะไปหมด หรือเทคยาที่ไม่เหมาะกับร่างกายเรา ปัจจัยการเทคยาต่างๆทั้งหลายล้วนมีโอกาสส่งผลให้เราเป็นสิวได้ หรือร่างกายตอบสนองไม่ดีต่อกลุ่มยากลุ่มนั้น หรือบางท่านอาจจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆของการมีฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงแล้วหลังจากนั้นก็ไม่เป็นอีกเลยก็มีค่ะ

ปัจจัยที่ 4. พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย มลพิษ มลภาวะ การใช้ชีวิตประจำวัน สุขอนามัย ความสกปรกก็เป็นอีกปัจจัยร่วมเช่นกันค่ะ

การรักษา เราสามารถเทคยาที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย จะช่วยทำให้ลดสิวบนผิวหน้าได้ หรือ Progestin ที่มีฤทธิ์ต้าน Androgen อาทิ Cyproterone acetate หรือจากยาคุม กลุ่ม ซูซี่/นีน่า/พรีม/ไดแอน ฯลฯ หรือแม้กระทั้งฮอร์โมน Drospirenone ที่มีฤทธิ์ลดการคั่งของน้ำ เช่นยาสมิน หรืออย่างเช่น Oilezz เองมี Progestin ชนิด Desogestrel ที่แรงและมีฤทธิ์ต้านความมันบนผิวหน้า แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ และขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีกหลายๆอย่างตามที่สอน อย่างไรก็ตามเลือกกลุ่มยาที่เหมาะกับร่างกายของเรา ใช้ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างผู้รู้ ใช้อย่างพอดีนะคะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ ไม่เครียดและไม่ควรมีภาวะกระตุ้นต่างๆ อาหารการกิน ฯลฯ และไม่แคะ ไม่แกะ ไม่เกาค่ะ ดูแลสุขภาพผิวหน้าให้สะอาด ล้างมือให้สะอาด รักษาความสะอาด ไม่เครียด ไม่ควรนอนดึก ฯลฯ เลือกใช้ปรับใช้ให้เหมาะกับเราค่ะ

 

 ฉีดดูโอโทน แล้วผอมลงมาก หน้าตอบ มีแต่คนทักว่าซูบลงมาก ฉีดฮอร์โมนตัวไหนทำให้อ้วนขึ้นดีคะ ?

 

จริงๆแล้วการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ จะยังไม่สามารถชี้ชัดได้เลยว่าสูตรนี้สูตรนั้นกับร่างกายเราจะให้ผลตอบสนองจะออกมาเป็นอย่างไรค่ะ เพราะหลายๆท่านฉีดฮอร์โมนบางสูตรก็อวบอ้วนขึ้น อันเนื่องมาจากผลของฮอร์โมนเพศหญิงที่ลดการเผาผลาญและเกิดการสะสมของไขมันตามกลไกของมัน ให้เกิดการพัฒนาการของสรีระลักษณะไปทางสตรีเพศ บางท่านก็จะมีอาหารหิวบ่อย หิวง่าย ทานจุกจิก ทานเก่งขึ้น เป็นต้น ฯลฯ ส่วนบางท่านก็พบว่าผอมลง ซึ่งเราต้องดูว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา และเหมาะกับความต้องการของเราอีกค่ะ

การตอบสนองแตกต่างกัน ปัจจัยอื่นๆแตกต่างกัน อายุ กรรมพันธุ์ ค่า BMI สูตรเทคยา ตัวยา การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยการใช้ชีวิตแตกต่างกัน ฯลฯ เราจะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด/ทาน สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีด/ทาน แล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ

การตอบสนองแตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเองนะคะ จากนั้นฉีด/ทานแล้วประเมินตัวเองค่ะ ว่ามีผลอย่างไร เทคยาให้มันถูกต้องก็พอค่ะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคตามที่สอนด้วยนะคะ

 

 ผอมมาก เทคแอนโดรคัวร์ไม่ได้ ทำยังไงดีคะ ?

 

การเทคฮอร์โมนนั้น เราควรเทคตามค่า BMI ของเรา เทคให้เหมาะกับรูปร่างเรา ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ฯลฯ รวมไปถึงภาวะต่างๆอันไม่ควรเทค ปัจจัยต่างๆอันห้ามเทค ตามที่สอนไปแล้วนั้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเทคแอนโดรคัวร์ได้นั่นก็คือ ผอมเกินไปค่ะ หากค่า BMI ของน้องๆต่ำกว่า 15-16 จะไม่สามารถเทคแอนโดรคัวร์ได้ค่ะ จำเป็นต้องเลี่ยงไปก่อนนะคะ อาจจะลองทานกลุ่มสมุนไพรเช่น ละมุนนี เป็นต้น ดูไปก่อนค่ะ ซึ่งพี่หมวยแนะนำให้น้องควรบำรุงตัวเอง ดูแลตัวเอง และเพิ่มน้ำหนักให้อยู่ในระดับ BMI ที่พอดีก่อนนะคะ ไม่ให้ผอมเกินไป

 

 

 เทคฮอร์โมนแล้วอ้วนขึ้น ทำยังไงดีคะ ?

 

การเทคฮอร์โมนไม่ว่าจะทานหรือฉีด หลายๆท่านจะส่งผลถึงการอยากอาหารมากขึ้น หิวบ่อย หิวง่ายขึ้น หรืออวบขึ้น อ้วนขึ้นได้ อันเป็นผลจากฮอร์โมนเพศหญิง ที่ลดการเผาผลาญ เกิดการสะสมไขมัน ต้องดูว่าเทคอะไรบ้าง ระดับไหน การใช้ยาฮอร์โมนหญิงโดสเยอะ จะยิ่งทำให้อ้วนบวมน้ำได้เช่นกันนะคะ ก่อนอื่นต้องดูว่าอาการเหล่านี้ว่าเกิดจากตัวไหน อาจจะให้ลองเปลี่ยนสูตรแล้วประเมินดูว่าสูตรไหนเหมาะกับเรามากกว่าค่ะ ประเมินว่ามีข้อดี ข้อเด่น ข้อด้อยกว่ากันอย่างไร ทั้งแบบฉีดและทาน สูตรไหนตอบโจทย์เราได้มากที่สุดค่ะ

ส่วนอวบขึ้นอ้วนขึ้นให้ดูว่าอยู่ในระดับไหน อย่าปล่อยตัวให้อ้วนเกินไปนะคะ ถ้ามีอาการอย่างที่บอกต้องหยุดก่อนนะคะ อย่าฝืน ค่อยๆดูไปทีละสูตรค่ะ 
เพราะว่าเราต้องเทคฮอร์โมนไปตลอด เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน พยายามมีวินัยนะคะ ควบคู่กันไป เราก็ดำรงชีวิตให้เป็น เมื่อรู้ว่าเราจำเป็นต้องใช้ฮอร์โมน ก็ต้องมีการตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมน มีวินัยบ้าง มีการออกกำลังกายควบคู่กันไป ทำให้เป็นปกติ ทำอย่างมีความสุข เทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ รู้ข้อเสียของยา เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ออกกำลังกายกระตุ้นระบบเผาผลาญ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเราเอง และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ นอกจากสุขภาพเราจะแข็งแรง ภูมิคุ้มกัน ภูมิต้านทานแข็งแรง รูปร่างเราก็จะได้เฟิร์มขึ้น สวยแล้วสุขภาพก็ดีด้วยค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

 คือหนูไม่สบายแล้วต้องทานยาพาราลดไข้ หนูยังสามารถเทคยาแอนโดรคัวร์+โปรกีโนว่า ได้ตามปกติไหมคะ ?

 

หนูต้องหยุดแอนโดรคัวร์ โปรกีโนว่าก่อนนะคะ รักษาไข้ให้หายก่อนค่ะ หายดีแล้ว หยุดทานพารา ยาลดไข้ ฯลฯ เมื่อไหร่แล้วค่อยกลับมาเทคค่ะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงก่อนนะคะ

 

 พี่หมวยคะ หนูอยากได้สะโพก ทำยังไงคะ ?


การเทคฮอร์โมนที่ถูกต้อง และมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสทำให้เรามีพัฒนาการของสรีระ เช่น หุ่น อก เอว สะโพก ผิวพรรณ อีกทั้งยังสลายกล้าม กล้ามนิ่มลง ตัวนิ่มลง เลือกสูตรให้เหมาะกับเราค่ะ ทั้งสูตรฉีด หรือสูตรทาน หรือทั้งฉีดและทานร่วมกันก็ตามค่ะ แต่ต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง 
อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ รู้ข้อเสีย รู้อันตรายของยา และเทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ มีการตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมน เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง ไม่ให้ระดับฮอร์โมนสูงหรือต่ำเกินไป อันจะมีอันตรายตามมามาก

เมื่อร่างกายเราถูกฮอร์โมนเข้ามากระตุ้นไปตามกลไกที่ถูกต้อง ระดับที่ถูกต้อง ไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี หลายๆท่านสะโพกเริ่มมา เริ่มผายได้ค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนอง ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมน กรรมพันธุ์ของแต่ละคนด้วยนะคะ ฯลฯ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปไปตามกาลเวลานะคะ พอใจเท่าที่ได้นะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนค่ะ

 

 อยากซอฟ ตัวนิ่ม มีนม แล้วก็อยากฉีดด้วยค่ะ

 

พี่หมวยจะให้น้องๆศึกษาสูตรการเทคยาก่อนนะคะ ทั้งสูตรทานและสูตรฉีดอย่างละเอียด ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ต้องมีความรู้ก่อนนะคะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ 

ตามกลไกหลักเราต้อง ต้านฮอร์โมนเพศชาย + เสริมฮอร์โมนเพศหญิง สำหรับสูตรที่เป็นสูตรยอดนิยมที่สุดคือ แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าค่ะ สูตรนี้จะเป็นสูตรยอดนิยมอันดับ 1 เลยค่ะ หรือแอนโดรคัวร์ + LDB ก็ได้ค่ะ สูตรนี้ก็นิยมมาก สำหรับยาแอนโดรคัวร์จำเป็นต้องศึกษาข้อเสีย อันตรายของยาแอนโดรคัวร์มาก่อนด้วยนะคะ และต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้องด้วยนะคะ เทคอย่างมีวินัย อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ 
ตามที่พี่หมวยได้สอนไว้ ต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ เทคให้เป็นค่ะ เทคอย่างผู้รู้ค่ะ หรืออีกสูตรที่นิยมกันมาก คือ แอนโดรคัวร์ + ยาคุม อาทิเช่น ไดแอน/นีน่า/ซูซี่/พรีม เป็นต้น สูตรนี้แม้จะเทคได้ และส่วนใหญ่จะได้ผลดีกันมาก และราคาถูกนิยมกันมาก แต่ให้เป็นเพียงแค่ช่วงวัยรุ่นพอนะคะ โตเป็นสาวแล้วก็เปลี่ยนจากสูตรยาคุม ไปใช้ตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย อาทิเช่น แอนโดรคัวร์ หรือละมุนนี เป็นต้นค่ะ แล้วเสริมฮอร์โมนเพศหญิงเช่นโปรกีโนว่า หรือ แอลดีบี เป็นต้น แทนค่ะ สำหรับยาคุมสูตร EE แม้จะปลอดภัย แต่แพทย์ไม่แนะนำให้อายุเกินกว่า 35 ใช้ เพราะเสี่ยงต่อหลอดเลือดดำอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ มะเร็งเต้านม ฯลฯ สำหรับพี่หมวยจะค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งถ้าอายุต่ำกว่า 30 ก็ไม่ค่อยแนะนำแล้วค่ะ สำหรับสาวประเภทสอง ให้เทคเฉพาะช่วงวัยรุ่นพอ เพราะด้วยเรื่องงบ และการเห็นผลเรื่องผิว นม ลดขน ลดสิวเด่นชัด ชัดเจน แต่อย่างไรยาคุมมันก็อันตรายอยู่มากเช่นกันค่ะ

แอนโดรคัวร์นั้นจะต้านความเป็นชาย ทำให้กล้ามเนื้อ ขน ภาวะต่างๆอันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจนลดลง เราจะแลดูซอฟขึ้น สลายกล้ามแข็งๆให้เป็นไขมันและนุ่มลง เมื่อฮอร์โมนเพศชายเราถูกกด จึงทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงเราเด่นขึ้นมาบ้าง เมื่อเทคร่วมกับฮอร์โมนเพศหญิง อาทิเช่น โปรกีโนว่า ก็จะทำให้มีการะบวนของการเปลี่ยนแปลง พัฒนาของสรีระ หุ่น อก เอว สะโพก ฯลฯ หากทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว มีผลตอบสนองที่ดี รวมถึงผิวพรรณก็จะนวลขึ้น หรือผ่องขึ้นได้ ละเอียดขึ้นได้ด้วยค่ะ มีการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มสังเกตุได้ อย่างไรต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ด้วยนะคะ เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปพัฒนาไปตามกาลเวลาค่ะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา ศึกษาอันตรายของยาด้วยนะคะ


ส่วนสูตรฉีดมีหลายสูตรค่ะ โดยที่นิยมกันหลักๆจะฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน, เอสตร้า + โปรลูตอน หรือจะเลือกฉีดสูตร ดูโอโทน หรือฟีโนกีนอนเอฟก็ได้ค่ะ ต้องให้แพทย์ประเมินก่อนนะคะ ว่าควรฉีดหรือไม่ แล้วฉีดระดับไหน อย่างไรยาฉีดเป็นยาที่อันตรายและเสี่ยงมาก พี่หมวยไม่ค่อยอยากแนะนำค่ะ ถ้าฉีดก่อนอื่นต้องดูว่าฉีดแล้วแพ้ไหม มึน เวียนหัว คลื่นไส้ คัน ผื่นขึ้นไหม อ่อนเพลียมากไปไหม รวมฤทธิ์กันเกินไปไหม บวมไหม ฯลฯ เป็นต้น แล้วมาประเมินว่าตัวไหนเหมาะกับเรา ตอบโจทย์เราได้มากที่สุดค่ะ พี่หมวยจะแนะนำคร่าวๆ แต่การใช้จริงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยค่ะ อีกทั้งยาฉีดเป็นยาที่อันตรายมาก แพทย์หลายท่านไม่แนะนำให้ใช้เพราะมีความเสี่ยงมากค่ะ ส่วนเรื่องซอฟ อ่านเพิ่มเติมที่คำถาม "
อยากลดกล้าม ทำอย่างไร ?" ค่ะ

 

 อยากฉีดแบบไม่เร่ง ทำยังไงบ้างคะ ?

 

เป็นคำถามที่ดีมากค่ะ ไม่ว่าสูตรใดๆพี่หมวยสอนเสมอว่าให้เทคอย่างผู้รู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคแต่พอดี พอใจเท่าที่ได้ค่ะ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ไม่ต้องรีบร้อน ไม่จำเป็นไม่ต้องเทคแรงเพื่อหวังผลเร็วๆ อันตรายของยามีเยอะ ผลข้างเคียง ผลเสียจะตามมา ไม่มีความจำเป็นใดๆก็ไม่ต้องฉีดสูตรสลับ หรือฉีดสูตรเสริมค่ะ รวมไปถึงทั้งฉีดและทานที่ไม่ถูกต้อง หรือเทคเยอะแยะไปหมด โดยไม่มีการตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมน

การฉีดแบบไม่เร่งนั้น ให้ฉีดแบบปกติ อาทิตย์ละครั้งค่ะ ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องสลับตัวนั้น สลับตัวนี้ เสริมตัวนั้น เสริมตัวนี้ มั่วไปหมดเหมือนบางท่าน โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องทานร่วมด้วยก็ได้ค่ะ กรณีทานร่วมต้องดูว่าเราฉีดตัวไหนด้วย พี่หมวยถึงประเมินได้ค่ะ อย่างไรก็ตามอย่าเทคเยอะเกินไป หลากหลายเกินไป ให้เทคให้พอดี อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย เราต้องนึกถึงวันข้างหน้า วันที่เราอายุมากขึ้นด้วยนะคะ ออกกำลังกายด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยค่ะ และต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมนทั้งก่อนและหลังฉีด เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

 เห็นเพื่อนๆฉีดกัน อยากฉีดตาม อยากสวยเหมือนเขาบ้างค่ะ

 

สูตรฉีดและสูตรทานนั้นมีมากมาย เราต้องเช็คตัวเองก่อนนะคะ ว่าต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทค และไม่ควรเทคตามเพื่อนตามรีวิวนะคะ แต่เราควรศึกษารีวิวผลตอบสนองเพื่อประกอบการการวิเคราะห์ ของผลตอบสนองของการใช้ฮอร์โมนเพื่อต้านฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง เป็นกรณีศึกษาไป อย่างผู้มีความรู้ รู้ว่ากรรมพันธุ์ต่างกัน อายุ ค่า BMI ต่างกัน การดูดซึม สูตรการเทคยาทาน/ฉีดก้แตกต่างกัน การตอบสนองแตกต่างกัน การกิน การใช้ชีวิตประจำวันก็ต่างกัน ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ฯลฯ รวมไปถึงภาวะต่างๆแตกต่างกัน รวมถึงศึกษาข้อเสียของยา อันตรายของยา ผลข้างเคียงของยาด้วยนะคะ

ก็เพราะว่าร่างกายและการตอบสนองแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ แตกต่างกัน ปัจจัยอื่นๆตามที่สอนก็แตกต่างกัน เราจึงต้องประเมินกันเป็นกรณีๆค่ะ เช่นบางคนทาน/ฉีดสูตรนี้ปกติ แต่บางคนกลับมึน เวียนหัว คลื่นไส้ แพ้ คัน ผื่นขึ้น อ่อนเพลีย หมดแรง บวม อวบขึ้น ฯลฯ หรือเห็นเพื่อนฉีดตัวนั้น ตัวนี้ แล้วนมมา ผิวมา สะโพกมา ไม่ได้แปลว่าเราฉีดสูตรเดียวกับเพื่อนแล้วจะได้เหมือนเขา เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา มีการตอบสนองที่ดีกับเราดีกว่าค่ะ โดยต้องเป็นการเทคที่ถูกต้องด้วยนะคะ ไม่ควรเทคผิดๆ มั่วๆ หลากหลายอย่างไม่มีความรู้ด้วยนะคะ ส่วนผลตอบสนองเราอาจจะได้น้อยกว่า หรือได้มากกว่าเขาก็เป็นไปได้ค่ะ บางคนทานหรือฉีดสูตรนี้ได้นม ได้ผิว บางคนกลับได้น้อย หรือแทบไม่ได้เลย พอย้ายไปทานหรือฉีดอีกสูตรกลับได้มากขึ้นหรือดีขึ้น หรืออย่างไรก็ตามล้วนแล้วแต่ฐานฮอร์โมนเพศ การตอบสนอง ร่างกาย ความแมนแตกต่างกัน รวมไปถึง DNA กรรมพันธุ์ของแต่ละบุคคล การกินการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน ฯลฯ เพราะฉะนั้นเลือกสูตรที่เหมาะกับเราเองที่สุดค่ะ เราใช้แล้วรู้สึกดี แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ศึกษาอันตรายของยาฮอร์โมนด้วยค่ะ 
ซึ่งกรณียาฉีดจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

อย่างไรยาฉีดนั้นเป็นยาที่อันตรายมาก ไม่อนุญาตให้แอบฉีดเอง หรือใดๆทั้งสิ้นค่ะ หากผิดพลาดขึ้นมามีโอกาสเสี่ยงต่างๆ มีโอกาสพิการ และเสียชีวิตได้ค่ะ ซึ่งน้องๆต้องเข้าเว็บพี่หมวยเพื่อศึกษาอันตรายของยา ฯลฯ อย่างไรการใช้ยาฮอร์โมนชนิดฉีด ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดและมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้อง แม่นยำกับตัวเรามากที่สุด มีการตรวจสุขภาพประจำปีๆละครั้ง - 2 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ค่ะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย


อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

 

 เห็นเพื่อนฉีดดูโอโทน แล้วนมใหญ่มาก จะฉีดตัวนี้ต้องฉีดอย่างไร และครั้งละกี่หลอดคะ ?

 

ดูโอโทน (DUOTON FORT) นั้นจะโดดเด่นในเรื่อง ผิว นม สรีระ ให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ 1 กล่อง บรรจุ 10 หลอด ใน 1 หลอด (1ml.) ประกอบด้วยตัวยา Progesterone U.S.P. 50 mg. Estradiol Benzoate U.S.P. 3 mg. ดูโอโทนเป็นยาฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรน ร่วมกันในหลอดเดียวกัน นิยมฉีดกันมากในวัยรุ่น เพราะตัวนี้ค่อนข้างให้ผลตอบสนองที่ดี และราคาถูกค่ะ ให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ อาทิเช่น บริเวณสะโพก เป็นต้น โดยต้องนำไปฉีดที่คลินิกที่นับฉีดนะคะ ห้ามฉีดเองโดยเด็ดขาด ในบางท่านอาจจะมีผลในเรื่องการสลายกล้ามให้ค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นไขมัน จึงทำให้ตัวนิ่ม และกระตุ้นให้หน้าอกขยายใหญขึ้นได้ และมีการพัฒนาของรูปร่าง สรีระ ทำให้แลดูละม้ายคล้ายคลึงผู้หญิงมากขึ้นค่ะ แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ฯลฯ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เลือกเทคตัวที่เหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ อย่างไรยาฉีดเป็นยาที่มีความเสี่ยงอันตรายต่อโรคร้ายมาก ต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– ตอนนี้เทคยา แอนโดรคัวร์ + นีน่าอยู่ ถ้าหนูจะฉีด DUOTON FORT จะเป็นไรไหมคะ ?

 

ควรตัดนีน่าออกค่ะ ฉีดดูโอโทนอาทิตย์ละครั้งๆละ 2 หลอด แล้วทานแอนโดรคัวร์ให้เป็นไปตามค่า BMI ก็เพียงพอแล้วค่ะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ถ้าไม่ตัดนีน่าออก ให้ฉีดดูโอโทนแค่หลอดเดียวพอค่ะ หรือกรณีเร่ง ให้ฉีดทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1 หลอดพอค่ะ กรณี 2 หลอดต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ เพราะว่ากรณีนี้เราเทคแอนโดรคัวร์ + นีน่าอยู่ จะค่อนข้างรวมฤทธิ์กันหลากหลาย ในบางท่านอาจจะส่งผลต่างๆตามมาตามที่สอน ถ้าฉีดเสริมเข้าไปอีกไม่ควรฉีดแรงเกินไปค่ะ และจำเป็นต้องตัดยาคุมออก เท่านี้ก็อันตรายมากแล้วนะคะ และอย่าลืมตรวจวัดระดับฮอร์โมน และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– หนูไม่รู้จะเริ่มฉีดอะไรสลับกับอะไรดีค่ะ ?

 

จริงๆแล้วเราเห็นคนนั้นฉีดสลับตัวนั้นตัวนี้ เราไม่จำเป็นต้องสลับเหมือนเขาก็ได้ค่ะ เราควรใช้ยาให้เป็น ให้ถูกต้อง ใช้อย่างผู้รู้ดีกว่าค่ะ ไม่ควรไปตามใครเขานะคะ ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนอง ฯลฯ แตกต่างกัน รวมถึงเราต้องรู้ถึงอันตรายของยาด้วยนะคะ เราจะได้ใช้เป็น ใช้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าค่ะ การฉีดหลากหลายโดยที่ไม่ได้มีการไปตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนอาจจะทำให้ฮอร์โมนเราแกว่ง เราฉีดอะไรมาบ้างฉีดบ่อยแค่ไหน หรือทั้งฉีดทั้งทาน อาจจะทำให้ค่าระดับฮอร์โมนเราสูงเกินค่ามาตราฐานซึ่งจะอันตรายอย่างมากนะคะ

บางคนฉีดสูตรสลับแล้วให้ผลดีกว่า ตอบโจทย์มากกว่า แต่ยิ่งฉีดหลากหลายสูตร ยิ่งสลับ หรือยิ่งเสริม การปรับยาต่อๆไปจะยาก บางคนฉีดสูตรเดิมเรื่อยๆไปทุกอาทิตย์ และ/หรือ เทคยาทานร่วมด้วยก็อาจจะให้ผลดีเป็นที่น่าพอใจก็มี การฉีดสลับจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ฉีดเพื่อใช้แก้ไขในกรณีที่เราฉีดสูตรเดิมแล้วการตอบสนองหรือให้ผลได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร จึงนิยมสลับกัน ซึ่งอาจจะให้ผลดีเช่นกัน แต่ก็ไม่ทุกคนนะคะที่จะสลับแล้วดี บางคนฉีดสูตรสลับแล้วพัฒนาไปได้ไวก็มีเยอะค่ะ แต่บางคนกลับอ่อนแรงมากขึ้น เพลียมากขึ้น ร่างกายอ่อนแอลงเร็ว ผิวคล้ำขึ้น เบลอ มึนได้ ฯลฯ และการตอบสนองก็ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ดีก็มีเยอะค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างไรก็ตาม เลือกฉีดให้เป็นสูตรๆดีกว่าค่ะ และเหมาะกับเราที่สุดดีกว่าค่ะ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วค่อยๆให้มันพัฒนาไปตามกาลเวลาเรื่อยๆ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนด้วยนะคะ ใช้ยาให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ไม่ว่าจะฉีดหรือทาน หรือใช้ร่วมกันก็ตาม จึงจะเป็นการเทคฮอร์โมนที่เรียกว่าเทคเป็น ยังไงเทคให้ถูกต้อง อย่าเทคเยอะ อย่าเทคแรงๆ เทคแต่พอดีค่ะ ศึกษาอันตรายของยา เทคยาให้ทำร้ายเราให้น้อยที่สุด เทคยาก็คิดถึงตอนเราแก่ตัวไปด้วยนะคะ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเรานะคะ เราก็จะสวยและสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน กับ ดูโอโทน อันไหนได้นมมากกว่ากัน ?

 

จริงๆแล้วไม่มีตัวไหนดีกว่ากันค่ะ เป็นคนละเคมีกันค่ะ พันธะทางเคมีต่างกัน ผู้ใช้ยา อายุ กรรมพันธุ์ ร่างกาย ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแตกต่างกัน ปัจจัยอื่นๆต่างๆแตกต่างกัน ฯลฯ จะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ค่ะ

ยาฉีดไม่ไช่ยานมโตนะคะ แต่การมีฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะฉีดหรือทาน แล้วมีการต้านฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย อาจจะช่วยกระตุ้นพัฒนาบริเวณหน้าอกให้เกิดการขยาย โต เต่งตึงได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องดูอีกหลายๆปัจจัยด้วยนะคะ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาบอกว่าตัวนั้นตัวนี้ได้นมมากกว่าตัวนี้ เราอาจจะเสพติดโฆษนามากเกินไปค่ะ

ให้เลือกตัวที่เหมาะกับตัวเราเองค่ะ ตัวที่เข้ากับร่างกายเรามากที่สุดดีกว่าค่ะ แล้วมีผลตอบสนองที่ตอบโจทย์เรา ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคนค่ะ บางคนฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน (Estradiol Valerate 10 mg. + Hydroxyprogesterone Caproate/hexanoate 250 mg.) แล้วได้ผิวพรรณดีขึ้น ได้นม ได้สรีระ ได้ความเป็นหญิงมากขึ้น แต่บางคนกลับได้นมน้อยขึ้น และบางคนคล้ำขึ้นได้ ขนขึ้นเยอะได้ ฯลฯ ส่วนดูโอโทนมี Progesterone U.S.P. 50 mg. + Estradiol Benzoate 3 mg. หลายๆท่านผิวพรรณดีขึ้น กล้ามนิ่มลง ละมุนละไมมากขึ้น ได้สรีระ ได้นม ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ว่าจะได้เหมือนๆกันทุกคนค่ะ บางคนก็กลับอวบขึ้นด้วย ฯลฯ ผลตอบสนองแตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆแตกต่างกัน อย่างไรเลือกที่เหมาะกับร่างกายเรา การตอบสนองของเรานะคะ เพราะร่างกายแต่ละคนแตกต่างกัน ความแมนก็แตกต่างกัน การกินการใช้ชีวิตก็แตกต่างกัน อายุ DNA กรรมพันธุ์ก็แตกต่างกัน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนต้องนำมาประเมินค่ะ (และสามารถเทคยาทานเสริมร่วมได้ค่ะ แต่ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนนะคะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะสูตรใดๆนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากเราเทคยามั่วๆ คิดเองเออเอง แล้วฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ ซึ่งอันตรายอย่างมากเลยนะคะ)

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างไรก็ตาม เลือกฉีดให้เป็นสูตรๆดีกว่าค่ะ และเหมาะกับเราที่สุดดีกว่าค่ะ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วค่อยๆให้มันพัฒนาไปตามกาลเวลาเรื่อยๆ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนด้วยนะคะ ใช้ยาให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย อย่างพอดี ใช้อย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ไม่ว่าจะฉีดหรือทาน หรือจะใช้ร่วมกันก็ตาม จึงจะเป็นการเทคฮอร์โมนที่เรียกว่าเทคเป็น ยังไงเทคให้ถูกต้อง อย่าเทคเยอะ อย่าเทคแรงๆ เทคแต่พอดีค่ะ ศึกษาอันตรายของยา เทคยาให้ทำร้ายเราให้น้อยที่สุด เทคยาก็คิดถึงตอนเราแก่ตัวไปด้วยนะคะ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเรานะคะ เราก็จะสวยและสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ

– ฟีโนกีนอนเอฟ + เอสตร้า (หนูเคยเห็นรีวิวลูกค้าพี่หมวยเทคสูตร ฟีโน+เอสตร้า นม ผิวมาไวมาก อยากเทคเหมือนเขาได้ไหมคะ)

สำหรับสูตรฉีดนั้นมีหลายสูตร อ่านเพิ่มเติมที่สูตรเทคยานะคะ สำหรับสูตร ฟีโนกีนอนเอฟ + เอสตร้า พี่หมวยไม่ค่อยอยากแนะนำค่ะ ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ เพราะเมื่อผสมกันแล้วจะได้ Estradiol Benzoate ถึง 10 mg. ซึ่งค่อนข้างสูง แรง จะส่งผลเสียตามมาได้เยอะค่ะ อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างไรก็ตาม เลือกฉีดให้เป็นสูตรๆดีกว่าค่ะ และเหมาะกับเราที่สุดดีกว่าค่ะ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วค่อยๆให้มันพัฒนาไปตามกาลเวลาเรื่อยๆ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนด้วยนะคะ ใช้ยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย อย่างพอดี ใช้อย่างผู้รู้ และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ไม่ว่าจะฉีดหรือทาน หรือจะใช้ร่วมกันก็ตาม จึงจะเป็นการเทคฮอร์โมนที่เรียกว่าเทคเป็น ยังไงเทคให้ถูกต้อง อย่าเทคเยอะ อย่าเทคแรงๆ เทคแต่พอดีค่ะ ศึกษาอันตรายของยา เทคยาให้ทำร้ายเราให้น้อยที่สุด เทคยาก็คิดถึงตอนเราแก่ตัวไปด้วยนะคะ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเรานะคะ เราก็จะสวยและสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

– ฉีดฮอร์โมนแล้วจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์หรือโปรกีโนว่าไหมคะ ?

 

ต้องดูว่าฉีดอะไรบ้าง ปริมาณไหนก่อนค่ะ ตามหลักและกลไกของเราแล้ว เราต้องต้านฮอร์โมนเพศชาย และเสริมฮอร์โมนเพศหญิง อาทิเช่น กรณีฉีดแต่ฮอร์โมนเพศหญิง อาทิ โปรกีนอน หรือเอสตร้า ตัวใดตัวหนึ่ง เราจำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ค่ะ เพื่อต้านฮอร์โมนเพศชายค่ะ หรือถ้าฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน หรือ เอสตร้า + โปรลูตอน การทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า ไม่จำเป็นแล้วนะคะ โปรกีโนว่าควรตัดออกค่ะ ฮอร์โมนเพศหญิงเสริมซ้ำซ้อน หลากหลาย ไม่แนะนำค่ะ อาจจะทำให้มีฮอร์โมนเพศหญิงสูงเกินไป และภาวะอันตรายต่างๆตามมาได้ รวมไปถึงฮอร์โมนแกว่ง เกิดอารมณ์แปรปรวนได้ด้วย ซึ่งต้องมีการไปตรวจวัดค่าระดับฮอร์โมนด้วยค่ะ เพื่อประเมินว่า แอนโดรคัวร์อาจจะยังใช้ร่วมได้หรือไม่ หรือตัดทั้งแอนโดรคัวร์และโปรกีโนว่าออกทั้งคู่ค่ะ เราต้องคอยระมัดระวังเรื่องระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้สูงหรือต่ำกว่าค่ามารตราฐาน เพราะจะมีอันตรายตามมาอย่างมหันต์เลยค่ะ อย่างไรการใช้ฮอร์โมนนั้น ต้องใช้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ เทคแต่พอดีนะคะ หลายๆคนไม่ต้องทานร่วมฉีดก็เพียงพอได้ค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับต้นทุนเดิม กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ค่า BMI ความแมนของแต่ละคน การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ สวยในแบบตัวของเราค่ะ ในกรณีฉีดถ้าอยากจะทานร่วมด้วย ทานสมุนไพร LDB หรือละมุนนีก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ดีค่ะ กรณียาฉีดนั้น อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

สรุปได้ว่า ต้องดูว่าเราฉีดตัวไหน อะไรบ้าง ปริมาณไหน และจะทานเสริมตัวไหน หรือมีความจำเป็นขนาดนั้นไหมต้องดูอีกทีค่ะ ต้องดูยาที่ฉีดก่อนค่ะ หรือตรวจวัดระดับฮอร์โมนจะดีที่สุดค่ะ ดูเคมียาที่ฉีด ดูอนุพันธ์ของตัวยา ว่าทานเสริมร่วมแล้วจะไปซ้ำซ้อนกันไหม เช่น บางท่านฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน ก็ไม่จำเป็นต้องทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าแล้วนะคะ หรือบางท่านฉีดแต่โปรกีนอน หรือ เอสตร้า (เสริมฮอร์โมนเพศหญิง) แล้วทานแอนโดรคัวร์ (ต้านฮอร์โมนเพศชาย) ได้ค่ะ ก็เป็นอีกสูตรที่นิยมกันค่ะ เป็นต้น

กรณีฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน หรือ เอสตร้า + โปรลูตอน หรือดูโอโทน หรือฟีโนกีนอนเอฟ ฯลฯ นั้น เราต้องมีการตรวจวัดค่าฮอร์โมนนะคะ แล้วมาประเมินว่าค่าฮอร์โมนต่างๆเป็นอย่างไร สามารถทานเสริมดีหรือไม่ มีความจำเป็นไหม หรือควรลดอะไร ตัดอะไร แม้อาจจะไม่จำเป็น ฉีดเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว แต่เพื่อให้ตอบโจทย์และเด่นชัดขึ้น สามารถเทคยาทานร่วมได้ โดยต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนนะคะ ถ้าจะทานเสริมต้องมาให้พี่หมวยประเมินปัจจัยต่างๆก่อนนะคะ ทั้งค่าฮอร์โมน อายุ น้ำหนัก BMI ความแมน กรรมพันธุ์ ประวัติครอบครัว ภาวะต่างๆอันไม่ควรเทค และปัจจัยอันห้ามเทค ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน ระยะเวลาของการใช้ยามาก่อน ฯลฯ ต้องให้พี่หมวยวิเคราะห์ก่อนนะคะ อย่าไรเบื้องต้นหากน้องยังไม่มีความรู้มาก อย่าเทคเยอะ ซ้ำซ้อนเกินไปนะคะ และต้องศึกษาข้อเสีย อันตรายของยาด้วยนะคะ ทั้งกินและฉีด ต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยสอนนะคะ

กรณีทั้งฉีดและทานนั้นอาจจะไม่จำเป็นขนาดนั้น ต้องดูปัจจัยว่าเทคครบตามหลักไหม หรือเทคแค่นี้เพียงพอไหม เทคหลากหลายไปไหม ฮอร์โมนสูงเกินไปไหม ถ้าเราไม่ตรวจระดับฮอร์โมน ก็ให้ยึดหลักเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ ในหลายๆท่านไม่จำเป็นต้องทานยาเลย ฉีดก็เพียงพอแล้ว หรือหลายๆท่านทานอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว ให้ผลดีด้วยเช่นกัน ก็ต้องดูหลายๆปัจจัย องค์ประกอบ และต้นทุนของแต่ละคนด้วยนะคะ อย่างไรอย่าทำให้ตับทำงานหนักขึ้นเลยนะคะ บางท่านฉีดแล้วยังทานเสริมก็เพื่อเน้นฮอร์โมนเพศหญิงให้สูงขึ้นไปอีก ให้เด่นชัดเพิ่มขึ้นไปอีกค่ะ ซึ่งก็อาจจะเห็นผลได้ดีในหลายๆท่านเช่นกัน แต่ก็เสี่ยงมาก อาทิ ไมเกรน หลอดเลือดอุดตัน ฯลฯ อย่างไรก็ตามเทคยาไม่ว่าจะสูตรไหนก็ตาม ให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคแต่พอดีค่ะ พอใจเท่าที่ได้ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน แล้วอย่าลืมพักตับตามการเทคหลากหลายนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ คือธรรมชาติให้ตัวเองบ้าง และหมั่นดูแลสุขภาพให้เข็งแรงเสมอๆนะคะ ออกกำลังกายสร้างภูมิต้านทานให้ตัวเอง และมีตรวจสุขภาพทุกปีก็จะดีมากค่ะ

หากจะทานยาเสริมด้วย ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

 

– ทำไมถึงฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน สลับ เอสตร้า + โปรลูตอน เหรอคะ ?

 

จริงๆแล้วฉีดตัวใดตัวหนึ่งไปดีกว่าค่ะ แต่สลับหลายท่านก็ให้ผลดีนะคะ ในบางคนตอบโจทย์ได้ชัดเจนขึ้น แต่พี่หมวยไม่ค่อยแนะนำค่ะ บางคนเยอะไปเอง คิดว่าฉีดฮอร์โมนต้องสลับ ต้องสลับตัวนั้น สลับตัวนี้ เห็นตัวนั้นดี ตัวนี้คนฉีดเยอะ ตัวนั้นคนฉีดแล้วสวยขึ้น ตัวนี้ได้นม รักพี่เสียดายน้อง หรือไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฯลฯ ก็เอามาสลับกันซะเลย ศึกษามาแบบผิดๆ หรือศึกษามาถูกแล้วมาประติดประต่อตามความคิดตัวเอง ฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน สลับ ดูโอโทน + ฟีโนกีนอนเอฟ มั่วไปหมด ร่างกายสับสน ฮอร์โมนหลากหลาย ร่างกายจะจดจำและต่อไปจะปรับยากขึ้น หากเทคผิด ฉีดถี่ ฉีดบ่อยเยอะเกินไป จนร่างกายเสื่อมลง ไม่มีพัฒนาใดๆ และต้องรักษาผลเสียกันตามหลัง ไม่ดีค่ะ อันตรายอย่างมากค่ะ

อย่าฉีดหลากหลายสูตรดีกว่าค่ะ เลือกสูตรใดสูตรหนึ่งก็พอ แล้วค่อยมาประเมิน ปรับสูตรกันต่อไป ว่าควรสลับไหมดีกว่าค่ะ ไม่จำเป็นมากก็ไม่ต้องสลับค่ะ และก็อย่าฉีดตามคนอื่นเขาดีกว่าค่ะ เทคให้เหมาะกับตัวเราดีที่สุดค่ะ เทคอย่างพอดี แล้วให้มันเป็นไปตามกาลเวลาค่ะ และการใช้ยา ต้องใช้ให้เป็น 
ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ใช้อย่างพอดี ใช้อย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ ตามที่พี่หมวยสอนไว้ด้วยนะคะ อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– ปูพื้นด้วยการฉีดฟีโนฯอยู่ ต้องเสริมตัวไหนบ้าง ถึงจะได้รูปร่างที่ดีและสวย

 

จริงๆแล้วน้องๆที่เริ่มต้นฉีดฮอร์โมน เริ่มต้นด้วยสูตรใดสูตรหนึ่งสูตรเดียวไปเรื่อยๆดีกว่านะคะ ฟีโนกีนอนเอฟก็ฟีโนกีนอนเอฟไปเลย ดูโอโทนก็ดูโอโทนไปเลย ส่วนจะฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งนั้นต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ หรือสูตรโปรกีนอน + โปรลูตอน / เอสตร้า + โปรลูตอน ก็เช่นกันค่ะ สูตรไหนก็สูตรนั้นไปเลยนะคะ ไม่ควรฉีดสลับหรือฉีดเสริมตัวนั้นตัวนี้เข้าไปอีก พี่หมวยไม่แนะนำค่ะ ถ้าไม่มีความจำเป็นใดๆ หรือต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อประเมินได้อย่างถูกต้องจะดีที่สุดค่ะ ฉีดให้ถูกสูตร ถูกต้อง เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะหากค่าฮอร์โมนเราสูงจะมีอันตรายอย่างมากค่ะ พี่หมวยไม่อยากให้ใช้ยาหลากหลาย หรือมั่วไปหมด (ส่วนฉีดแล้วอยากทานยาเสริมได้ค่ะ แต่ต้องดูเป็นกรณีๆไปนะคะ ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนค่ะ ว่าฉีดตัวไหน ปริมาณไหน และจะทานตัวไหน เสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมาอย่างมากค่ะ อ่านเพิ่มเติมที่คำถามฉีดแล้วทานเสริมได้ไหม) แรกๆเป็นช่วงที่ร่างกายเราจดจำฮอร์โมนครั้งแรก หากเพิ่มสูตรฉีดอื่นๆที่แตกต่างหลากหลายกันออกไป หลากหลายสูตร อย่าไม่มีความรู้ เทคตามคนอื่น คิดเอง เพิ่มเอง ต่อไปจะปรับสูตรยากค่ะ ฉีดให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย อย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ช่วงนี้ก็ดูการตอบสนองของร่างกายเราไปก่อนนะคะ 4 เดือนแรก จากนั้นค่อยมาประเมินกันอีกทีค่ะ ว่าควรปรับสูตรอย่างไรต่อไปค่ะ อย่างไรต้องพบแพทย์และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อการเทคที่ถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุด และให้แพทย์เป็นผู้ประเมินว่าสมควรฉีดหรือไม่ และรู้อันตรายของยาฉีดค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

 

– ผู้หญิงทานแอนโดรคัวร์ได้ไหม ?

 

ทานได้ค่ะ แต่ต้องให้แพทย์ประเมินก่อนนะคะ และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ

เรามาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ "แอนโดรคัวร์" เป็นยาต้านฮอร์โมนเพศชาย ที่มีตัวยา Cyproterone Acetate ซึ่งมีฤทธิ์ยังยั้งฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) 
ใช้ลดระดับฮอร์โมนเพศชาย ในหญิงที่มีลักษณะของเพศชายเด่น เนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชายสูง

ซึ่งปกติแล้วผู้หญิงเองก็ยังมีอวัยวะที่ผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ (แอนโดรเจน) เพื่อช่วยให้ร่างกายมีพลังหรือกำลังวังชาในการดำรงชีวิต หากผู้หญิงที่มีลักษณะเพศชายที่เด่นอันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน แอนโดรคัวร์จะช่วยลดอาการต่างๆที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย เช่น ขนเยอะ มีกล้าม กล้ามใหญ่ หน้ามัน ผมมัน ฯลฯ ทำให้แลดูซอฟขึ้น แลดูละมุนละไมขึ้น สวยขึ้น เพราะแอนโดรคัวร์จะไปยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดที่เกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน และเมื่อทานร่วมกับฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น นวลขึ้น ใบหน้าสวยหวาน ผ่องขึ้น รวมไปถึงหน้าอกขยายใหญ่ขึ้นได้ค่ะ อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละคน

ผลข้างเคียงคือ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อ่อนเปลี้ย อ่อนแรง ไม่มีเรี่ยวแรง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการขาดฮอร์โมนเพศชายไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ และอารมณ์ทางเพศลดลง หากเทคมากเกินไป หรือเทคผิดๆ ก็จะทำให้หน้าคล้ำ ผิวคล้ำ แก่ขึ้น ผิดรูปผิดร่าง อ้วนง่าย เสียงแหบ อารมณ์แปรปรวน กลิ่นตัวแรง ตัวเหม็น ปากเหม็น แพ้ง่าย เหนื่อยง่าย คัน และผมร่วงตามมา ฯลฯ แอนโดรคัวร์เป็นยาอันตราย เป็นยาเฉพาะ มีความเสี่ยงหลายอย่าง เพราะฉะนั้นในกรณีของผู้หญิงต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินเท่านั้นค่ะ ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดค่ะ

 

– ผู้หญิงฉีด โปรกีนอน โปรลูตอนได้ไหม ?

 

สำหรับทุกๆกรณีในเพศหญิง พบแพทย์ทั้งหมดค่ะ เพราะผู้หญิงจะมีข้อบ่งใช้ ข้อห้าม และปัจจัยเสี่ยงเยอะมากๆ การฉีดต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ค่ะ และฉีดเพื่อทางด้านรักษา ไม่ใช่ด้านความงามค่ะ เพราะฉะนั้นคำถามนี้ต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจ และให้คำตอบเท่านั้นค่ะ

 

– ผู้หญิงทานตัวไหนได้บ้าง ?

 

ตั้งใจอ่านอย่างละเอียดนะคะ จะมีคนที่ห้ามทานค่ะ และอ่านผลข้างเคียงที่พบได้ค่ะ

กรณีหญิงแท้ จะทานได้ตามนี้นะคะ จะมีข้อห้ามทาน พี่หมวยจะสรุปคร่าวๆนะคะ ลองค่อยๆอ่านดูก่อนนะคะ

สำหรับผู้หญิงแท้ ที่จะทานยาเคมีต้องพบแพทย์ทุกกรณีค่ะ

สำหรับผู้หญิงแท้จะทานได้แค่ 2 ตัวค่ะ ให้เลือกทานตัวใดตัวหนึ่งหรือทานคู่กันก็ได้ค่ะ อธิบายดังนี้

1. LDB = สมุนไพรบำรุงโลหิต เสริมฮอร์โมนเพศหญิง ช่วยเรื่องผิวพรรณ สรีระ และหน้าอก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นพวกริ้วรอยค่ะ 1 กระปุกมี 30 แคปซูล ให้ทานวันละ 2 แคปซูลก่อนนอนค่ะ

2. ละมุนนี = สมุนไพรบำรุงโลหิต ต้านฮอร์โมนเพศชาย ช่วยเรื่องผิวพรรณ ยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย บำรุงตับ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นพวกริ้วรอยค่ะ 1 กระปุกมี 30 แคปซูล ให้ทานวันละ 1-2 แคปซูลก่อนนอนค่ะ

การเห็นผลแล้วแต่คนค่ะ และไม่ควรคาดหวังมากค่ะ

ละมุนนี (Lamoonni) = สมุนไพรที่มีคุณสมบัติต้านฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ร่างกายไม่อาจนำฮอร์โมนเพศชายไปใช้กับเนื้อเยื่อเป้าหมายได้สมบูรณ์ ต้านฤทธิ์ของแอนโดรเจน ทำให้ลักษณะเด่นแบบเพศชายลดลง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของ พิกัดตรีผลา ที่สามารถบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยค่ะ ในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัวได้ เป็นต้นค่ะ

แอลดีบี (LDB) = สมุนไพรเสริมฮอร์โมนเพศหญิง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวแลดูผ่อง ดูขาวใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวล อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ หน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ ช่วยเร่งพัฒนาหน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้นได้ โตเต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นไม่อ้วนขึ้น อีกทั้งยังบำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นต้นค่ะ

หญิงแท้ทานจะได้เรื่อง

1. ลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทอง

2. เสริมฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้มีความละมุนละไม มีผิวที่เนียนนุ่มลื่น ผิวพรรณสวยขึ้น ผิวหน้ามีเลือดฝาด ผิวผ่องขึ้น มีหน้าอกที่เต่งตึง และบางท่านอาจจะทำให้ช่องคลอดกระชับแน่นขึ้นได้ค่ะ

3. สำหรับละมุนนี บางท่านกล้ามลดลงได้บ้าง ขนบางลงได้ แล้วแต่บุคคลค่ะ

4. อย่างไรก็ตามผลที่ได้ขึ้นอยู่กับ อายุ กรรมพันธุ์ การตอบสนอง และฐานฮอร์โมนเพศของแต่ละบุคคลค่ะ

5. อย่าคาดหวังมากเพราะนี่ไม่ใช่ยาลดกล้าม ยานมโต เป็นยาสมุนไพรบำรุงโลหิตและเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วมค่ะ บางท่านจึงมีผิวพรรณที่เนียน ผ่อง หรือละเอียดขึ้น และคัดตึงหน้าอกได้ ใหญ่ขึ้นได้ แต่ไม่ทุกคนค่ะ

6. ส่วนละมุนนี อย่าคาดหวังผลมาก เพราะร่างกายผู้หญิงต่างกับสาวประเภทสอง และไม่ใช่ยาเคมีเหมือนที่สาวประเภทสองทานแล้วเห็นผลชัดเจนค่ะ

ข้อห้ามทานและข้อควรระวังในหญิงแท้ ถ้าหญิงแท้มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ ฯลฯ ผู้ที่มีหลอดเลือดอุดตัน ผู้ที่แพ้สารจากขมิ้น ผู้ที่ตั้งครรภ์ ผู้ที่เป็นโรคมะเร็ง เนื้องอก หรือเป็นโรคต่อมไทรอยด์โต ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก มดลูกและรังไข่ เช่น เป็นซีสต์ พังผืด เนื้องอกเป็นก้อน มะเร็ง ทานไม่ได้ค่ะ

ผลข้างเคียงที่พบในกรณีสำหรับผู้หญิงแท้ พบว่าบางท่านมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ (ซึ่งเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ต้องกังวลค่ะ) บางท่านพบว่าคันตามตัว ผด ผื่นขึ้น เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด หรือท้องเสียได้ บางท่านเมื่อมีระดับฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง หรือฮอร์โมนและร่างกายกำลังปรับตัว อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ ซึ่งกรณีนี้อาจจะให้หยุดทานไปก่อนค่ะ บางท่านพบว่าผมร่วง และที่พบได้ในหลายท่านทำให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้น

ยานี้ไม่มีผลต่อการคุมกำเนิดค่ะ

ปัจจัยเช่น "นม" ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ฐานฮอร์เพศที่หน้าอกของเรา และการตอบสนองของแต่ละคนค่ะ บางท่านจะกระตุ้นได้ดี หน้าอกใหญ่ขึ้นได้บ้าง บางท่านขึ้นน้อย บางท่านได้นิดเดียวแต่กลับได้ผิวมาแทน ก็แล้วแต่การตอบสนองของร่างกายเราน่ะค่ะ

ปัจจัยเช่น "กล้าม ตัวบึกบึน ขน" สำหรับตัวละมุนนี บางท่านอาจจะช่วยได้บ้าง แต่อย่าคาดหวังมากค่ะ แต่การเห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล ปัจจัยของการคุมโปรตีน การออกกำลังกาย ระบบเผาผลาญ ปัจจัยของการตอบสนองที่ดี รวมไปถึงกรรมพันธุ์ค่ะ ซึ่งร่างกายของผู้หญิงจะแตกต่างกับสาวประเภทสองค่ะ ที่จะเห็นผลได้ชัดเจนกว่าค่ะ

ดูผลสัก 2 เดือนไปค่ะ ถ้าทานแล้วดี ผลออกมาดี มีการตอบสนองดี ชอบก็ทานต่อค่ะ ต้องทานไปตลอดค่ะ ถ้าไม่ชอบก็หยุดทานได้เลยค่ะ

ทานทุก 4 เดือนพัก 1 เดือนค่ะ

ถ้าทานไปสักเดือนแล้วชอบก็ทานต่อค่ะ ถ้าไม่ชอบก็หยุดทานได้ค่ะ

ปล. หากพบว่ามีผู้หญิงแอบมาซื้อยาฮอร์โมนที่เป็นยาเคมี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โดยไม่ศึกษามาก่อน โดยไม่แจ้งพี่หมวย แล้วมาทราบผลข้างเคียงและข้อห้ามทีหลัง พี่หมวยสงวนสิทธิ์การคืนเงิน และให้เราเอาไปให้สาวประเภทสองที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงทานแทนค่ะ เพื่อเป็นการดัดนิสัยค่ะ

สำหรับหญิงแท้ ศึกษาเพิ่มเติมที่เมนู "LDB และละมุนนี คืออะไร รีวิวลูกค้า ผลตอบสนองต่างๆ และข้อห้ามทานในเพศหญิง" ค่ะ

 

– ทำไมเห็นบางคนฉีดแค่หลอดเดียวคะ ?

 

อย่างที่พี่หมวยเคยสอน ร่างกาย การตอบสนอง และความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับในบางท่านร่างกายอาจจะเหมาะกับตัวนั้นหรือตัวนี้มากกว่าฉีดร่วมกัน หรือเขาสะดวกแบบนี้มากกว่า หรือเขาชอบฉีดตัวนั้นไม่ชอบฉีดตัวนี้ ก็เลยฉีดตัวนั้นและทานตัวนี้แทน เป็นต้น หรือบางสูตรก็ไม่จำเป็นต้องฉีดครั้งละ 2 หลอดเสมอไป ร่างกาย ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การใช้ชีวิต แตกต่างกัน ฯลฯ ซึ่งต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนถึงจะทราบว่าฮอร์โมนตัวไหนอยู่ในระดับเท่าไหร่ ถึงจะประเมินได้ว่าควรใช้ตัวไหน ในระดับไหนค่ะ

ยกตัวอย่างเบื้องต้น เช่น บางท่านอาจจะชอบฉีดโปรกีนอนอย่างเดียว แล้วทานแอนโดรคัวร์เสริม อาจจะไม่ชอบโปรลูตอน หรือไม่ถูกกับโปรลูตอน หรืออาจจะเพราะโปรลูตอนอาจจะทำให้เขาคล้ำขึ้น ขนดกขึ้น อวบขึ้น หรือแพ้ ฯลฯ แล้วแอนโดรคัวร์อาจจะตอบสนองดี เห็นผลได้ดีกว่า จึงเป็นอีกสูตรที่เลี่ยงยาฉีดตัวที่เราไม่ปลื้มแล้วทานเสริมแทนเพื่อให้ครบตามกลไกหลักๆของเรา คือ ต้านฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ก็แล้วแต่การปรับใช้ของแต่ละคนค่ะ หรือบางท่านฉีดแต่โปรลูตอนเดี่ยวๆ แล้วทานโปรกีโนว่า หรือ LDB หรือตัวอื่นๆเสริม หรือบางท่านก็ฉีดเอสตร้าอย่างเดียวแล้วทานแอนโดรคัวร์เสริม เพระลดกล้ามได้ดี แล้วได้ผิวพรรณ สรีระด้วย ฯลฯ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของการใช้ฮอร์โมนอย่างผู้รู้ด้วยนะคะ ใช้ให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย ให้พอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ

เพราะฉะนั้นฉีดหลอดเดียวหลายๆท่านอาจจะทานร่วมด้วย ตามความเหมาะกับร่างกาย และตัวใดๆที่ตอบโจทย์ ก็เป็นอีกสูตรที่เลี่ยงยาทานหรือยาฉีดที่เราไม่ปลื้มค่ะ หรือบางท่านพื้นฐานมาดี ฉีดแค่หลอดเดียวก็เพียงพอไม่ต้องทานเสริมก็ได้ค่ะ (แต่ถ้าจะทานยาเสริม ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ)

หรือบางท่านแปลงเพศแล้วก็ฉีดแต่เพียงโปรกีนอนอย่างเดียวก็พอค่ะ หรือเอสตร้าอย่างเดียวก็ได้ค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องทานร่วมด้วยค่ะ เพราะจะใช้แค่ฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเดียวค่ะ (ส่วนกรณีแปลงเพศแล้วให้อ่านที่คำถามแปลงเพศแล้วเทคฮอร์โมนอย่างไรนะคะ พี่หมวยอธิบายไว้ค่ะ)

หรือเช่นพวกฮอร์โมนร่วมในหลอดเดียวเช่น ดูโอโทน หรือฟีโนกีนอนเอฟ ให้ฉีดหลอดเดียวค่ะ บางท่านอาจจะฉีดทุกๆ 4-5 วันครั้งๆละ 1 หลอด เพราะบางท่านแมนมาก half life ของยาก็สลายไปได้เร็วค่ะ กรณี 2 หลอดต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินนะคะ อย่างไรก็ควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อการเทคที่ถูกต้องจะดีที่สุดนะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

– ทานแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า + ฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน แล้วเพิ่มเอสตร้าได้ไหมคะ ?

 

ไม่ได้ค่ะ เยอะไปค่ะ การเทคแบบนี้เรียกว่า "เทคซ้ำซ้อน" เยอะเกินไปค่ะ และ "รวมฤทธิ์กันเกินขนาด" overdose ค่ะ เปลืองและอันตรายค่ะ ฉีดสูตรใดสูตรหนึ่งพอนะคะ ไม่ต้องเพิ่มเป็นหลายหลอด ระดับฮอร์โมนสูง เสี่ยงต่อโรคต่างๆตามมา และทำให้ฮอร์โมนเพี้ยน แกว่ง และส่งผลอื่นๆตามมาอีก ส่วนโปรกีนอน กับ โปรกีโนว่า ซ้ำซ้อนกันค่ะ ฉีดโปรกีนอนเพียงพอแล้วไม่ต้องทานโปรกีโนว่าแล้วนะคะ เอสตร้าก็ไม่ต้องเพิ่มเข้าไปอีกนะคะ ต้องไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อรู้ค่าฮอร์โมนแต่ละตัวเพื่อให้ร่างกายรับยาอย่างพอดี อย่างถูกต้อง แล้วให้พัฒนาไปตามกาลเวลาค่ะไม่ควรเทคมั่วๆ หลากหลายนะคะ

กรณีแอนโดรคัวร์ก็เช่นกันค่ะ แต่โปรลูตอนมีฤทธิ์ยับยั้งฮอร์โมนเพศชายอยู่แล้ว ในบางท่านอาจจะรวมฤทธิ์กันเกินไปค่ะ บางท่านจะยิ่งทำให้อ่อนแรง และเพลียขึ้นมาก ตลอดไปจนเบลอ มึนได้ค่ะ หากอ่อนแอ หรือเรียนหนักค่ะ ถ้าจะเพิ่มแอนโดรคัวร์อาจจะให้แค่ 1/4 พอค่ะ และต้องไม่มีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

ส่วนฉีดโปรกีนอน + โปรลูตอน แล้วเพิ่มเอสตร้า รวมเป็น 3 หลอดไม่ได้นะคะ ต่างเคมีต่างอนุพันธ์ รวมฤทธิ์กันมากเกินค่ะ มีความเสี่ยงอันตรายต่อระดับฮอร์โมนที่สูง ต่อโรคร้าย ต่อไปจะปรับสูตรยาก เกิดการฮอร์โมนแกว่ง นานวันจะทำให้อ่อนแอลง ภูมิคุ้มกันลดลง มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ ผลเสียระยะยาวจะตามมามากค่ะ

การเทคฮอร์โมนนั้นต้องเทคอยู่บนพื้นฐานของการเทคอย่างผู้รู้นะคะ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ คิดว่าเทคแรงๆอยากสวยเร็วคือการเทคที่ผิดอย่างมากค่ะ มีการตรวจวัดค่าฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรมีตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

 

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน เดือนละครั้งได้ไหมคะ ?

 

ไม่ได้ค่ะ ฤทธิ์ยาไม่ได้อยู่ได้ยาวขนาดนั้นนะคะ half life ของยา +- จะอยู่ได้ประมาณ 7-10 วัน (ขึ้นอยู่กับความแมนของแต่ละท่านด้วยเหมือนกันค่ะ บางท่านหากแมนมาก half life ของยาก็จะหมดไปได้เร็วค่ะ บางเคสอยู่ได้ 2-3 อาทิตย์ก็มีนะคะ) ให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่พอค่ะ เป็นเบื้องต้น หากในกรณีที่เรายังไม่ได้ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ก็ให้ยืนพื้นทุกอาทิตย์ไปก่อนได้ค่ะ ส่วนทานเสริมอาจจะเป็นสมุนไพร แอลดีบีและ/หรือละมุนนีได้ค่ะ ยาเคมีตัวอื่นๆอาจจะไม่จำเป็นแล้วค่ะ ฮอร์โมนสูงและเพียงพอแล้วค่ะ ถ้าจะทานร่วมด้วย อาจจะต้องมาประเมินอีกทีว่าการตอบสนองเป็นอย่างไร พอใจหรือยังไม่พอใจตรงไหน มีการฉีดอะไรบ้าง ระดับไหน ระยะเวลาฉีดกี่วัน เพียงพอหรือไม่ เพื่อที่จะได้ประเมินได้ว่า ควรฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์ครั้ง และควรทานอะไรเสริมหรือไม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ให้ได้มากที่สุด แต่ต้องอยู่บนฐานของการเทคอย่างถูกต้อง อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ แล้วให้กลไกของมันค่อยๆพัฒนาไปตามกาลเวลานะคะ ไม่เทคผิดๆ เทคมั่วๆ เทคเยอะๆ เทคหลากหลาย อันจะเกิดผลเสียตามมาเหมือนท่านอื่นๆค่ะ (ถ้าจะทานยาเสริม ต้องให้พี่หมวยประเมินก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ)

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ

– ฉีดหรือทานฮอร์โมน ห้ามทานแตงกวาหรือแอลกอฮอล์ไหมคะ ?

 

แตงกวาทานได้ค่ะ เราไม่ได้ทานมากมายหลายๆกิโลขนาดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านเอสโตรเจน ทำให้ยาที่เราเทคให้ทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณประโยชน์ของแตงกวาก็มีเยอะกว่าเรื่องที่เราจะมาใส่ใจเล็กๆน้อยๆในส่วนนี้ และแตงกว่ามีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ลดอาการบวมน้ำ อีกทั้งยังบำรุงผิวพรรณ และยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ เราจึงคิดไปเองว่าขับฮอร์โมนนั่นเองค่ะ แต่ถ้าหากทานในปริมาณมากๆๆ ก็จะขับน้ำออกมาทางไตซึ่งเหมือนจะล้างยาในไตของเราไปด้วย ซึ่งก็อาจจะเป็นผลดีในหลายๆคนเช่นกันนะคะ แต่ต้องในปรมาณมากๆเลยนะคะ

ส่วนอีกคำถามที่พบบ่อยคือ เทคฮอร์โมนแล้วสามารถช่วยตัวเองได้ค่ะ เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ เราต้องเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคให้เหมาะกับค่า BMI ของเรา ภาวะเรา การใชีชีวิตประจำวันของเรา เทคให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ ยาเข้ากระแสเลือดไปแล้ว ก็สบายใจได้ค่ะ ช่วยตัวเองได้ค่ะ แต่อย่าบ่อยมากไปค่ะ อย่าคิดมากค่ะ ทำอะไรทำให้มีความสุข สบายใจ ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ ทั้งมีวินัยและทั้งรู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ

ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว ปัจจัยอื่นควรเลิกกังวลค่ะ ทั้งการกิน การช่วยตัวเอง ไม่ได้ล้างยา หรือต้านยา เราต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติบ้างนะคะ ให้ความสุขกับตัวเองบ้างนะคะ ทำอะไรทำให้พอดีค่ะ ทานอาหารให้อร่อย ทานผักผลไม้ เปลี่ยนๆเมนูกันไป อย่าเดิมๆซ้ำๆ เราไม่ได้กินทีหลายๆกิโล ส่วนมีเซ็กส์เพื่อผ่อนคลาย ทำอะไรทำแต่พอดี รู้จักผ่อนปรน นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ให้แข็งแรงเสมอๆ มีเซ็กส์เพื่อปลดปล่อย ผ่อนคลาย ทำอะไรก็ตามทำแต่พอดี อะไรมันก็จะดีค่ะ หากตรวจวัดระดับฮอร์โมนก็จะทราบอย่างแน่ชัดมากขึ้น จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น 
ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขค่ะ ควบคุมอารมณ์ และออกกำลังกายรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ทำอะไรทำอย่างพอดี ทำอย่างมีวินัยค่ะ

เรียกว่าสุขกาย สุขใจแล้ว สุขกิน สุขใช้ชีวิตแล้ว ยังมีความสุขที่ได้เทคฮอร์โมนทุกวันสม่ำเสมอค่ะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ


ส่วนแอลกอฮอล์นั้นพี่หมวยเคยสอนไว้แล้ว คำถามอยู่ข้างบนเรื่อง "ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จะต้านยาไหม ?" ตอบ : ไม่ต้านค่ะ พี่หมวยเคยสอนไว้เสมอว่า เราเป็นผู้ใช้ยา ไม่ใช่ยาใช้เรา เพราะฉะนั้นเทคยาให้เป็น เทคอย่างมีความสุข นี่คือหัวใจหลักๆของการเทคฮอร์โมนเลยค่ะ พี่หมวยจะไม่เคร่งครัดเช่นพวก ห้ามทานนั่น ห้ามทานนี่ เพราะพวกนี้ไม่ได้ส่งผลอะไรหนักหนาสาหัส (เว้นหลุ่มยาต่างๆที่ทำให้ระดับยาฮอร์โมนในร่างกายลดลง)

อย่างที่บอก ทฤษฎีของพี่หมวยคือเทคอย่างมีความสุข เมื่อยาเข้ากระแสเลือด เราก็ได้รับฮอร์โมนตามหลักแล้ว จากนั้นก็พยายามดูแลตัวเองค่ะ เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคให้ต่อเนื่อง เทคอย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักผ่อนปรน อย่าเครียด อย่าคิดมากนะคะ เทคอย่างมีความสุขค่ะ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงค่ะ

ส่วนการสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า ในระหว่างเทคยาฮอร์โมนนี่อันตรายมากค่ะ ถ้าเป็นไปได้เลี่ยงได้เลี่ยงเลยนะคะ ลดได้ลดค่ะ ละได้ละค่ะ พวกสารพิษพวกนี้จะส่งผลตามมาเช่น เพิ่มความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน ไปถึงโรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ ฯลฯ และกระตุ้นมะเร็งได้ หากเรายังเทคฮอร์โมนอยู่ ถ้าเรายังดื่มเหล้าเข้าไปอีก ก็มีโอกาสตับวายสูงนะคะ เลี่ยงสารพิษเหล่านี้ไว้ค่ะ หรือเพลาๆลง แล้วปรับพฤติกรรมดูนะคะ พยายามค่ะ ถ้าไม่ได้วันนี้ ก็ได้วันหน้าค่ะ อะไรที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ทำใจให้สบาย วันนี้ไม่ได้ วันหน้าก็ได้ มันยากแต่ต้องอดทนนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ แล้วมันจะค่อยๆง่ายขึ้น ให้กำลังใจตัวเองเยอะๆนะคะ เราเก่งค่ะ และอย่าไปเครียดอันจะส่งผลอื่นๆตามมาได้ค่ะ สู้ๆค่ะ

คิดอะไรไม่ออกนึกถึงพี่หมวยนะคะ พี่หมวยยังลดน้ำหนัก 50 โลในเวลา 10 เดือนได้เลยค่ะ คุมอาหารออกกำลังกาย ลดเร็วหน้าตอบ ซูบเหมือนคนเป็นโรคเลย หลังจากนั้นก็บำรุงตัวเองให้ดูมีน้ำมีนวลขึ้น เทคฮอร์โมนอย่างมีวินัย วันเวลาผ่านไปผ่านพ้นช่วงนั้นมาได้ พี่หมวยก็มีสุขภาพที่ดีขึ้น สวยขึ้น เราก็ต้องทำได้นะคะ อดทนนะคะ สู้ๆนะคะ 
และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– ฉีดฮอร์โมนแล้วยังรู้สึกเหมือนไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ

 

พี่หมวยเคยสอน เคยบอกไปบ่อยๆแล้วว่า "อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ"

พี่หมวยต้องถามกลับว่า เราคาดหวังกับการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ? ยกตัวอย่างเช่น บางคนฉีดสูตรนี้แล้วได้นมน้อยหรือไม่ได้นมเลย แต่พอย้ายมาฉีดอีกสูตรหนึ่งกลับได้ขึ้นมากบ้าง หรือมากขึ้น หรือไม่ได้เลยเช่นกัน หรือเราเห็นเพื่อนฉีดสูตรที่นั้นสูตรนี้แล้วได้นมมาก ผิวมา สรีระมา แต่เราเองกลับไม่ได้มากเท่าเพื่อน นั่นก็ขึ้นอยู่กับร่างกาย การตอบสนองของแต่ละคนค่ะ กรรมพันธุ์แตกต่างกัน ปัจจัยอื่นๆแตกต่างกัน เพราะฮอร์โมนเพศที่ฐานหน้าอกเราไม่เท่ากัน กลไกต่างๆ กล้ามเนื้อ ไขมันไม่เท่ากัน การกินการใช้ชีวิตแตกต่างกัน ความแมนก็แตกต่างกัน ฯลฯ ค่อยๆเทคไปเรื่อยๆ หาสูตรที่เหมาะกับเรา เพราะฉะนั้นเราต้องเทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น ต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้นะคะ แล้วให้มันพัฒนาไปตามกาลเวลาค่ะ

อย่าลืมนะคะ 
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเรา และปัจจัยต่างๆ เราเห็นคนนั้น คนนี้ เทคสูตรนั้น สูตรนี้ แล้วสวย เปลี่ยนไปมาก นมมา ผิวมา สะโพกมา ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา เลือกเทคให้เหมาะกับเราและปรับใช้ค่ะ และอย่าลืมที่พี่หมวยสอนไว้นะคะ "พอใจเท่าที่ได้" เชื่อว่าทุกคนสวยค่ะ สวยในแบบของเรานะคะ ให้มันค่อยๆเป็นไปตามกาลเวลาค่ะ อย่าเทคแรงๆ เทคเยอะๆ เทคผิดๆ จะมีอันตรายตามมามาก ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ

 

– ฉีดโปรกีนอน โปรลูตอน เดือนละ 2 ครั้ง ต้องเทคยาอย่างไรคะ ?

 

ค่อนข้างห่างนานเกินไปค่ะ เพราะฤทธิ์ของยาจะอยู่ได้ +- ประมาณ 7-10 วัน แต่อย่างไรยังไม่ทราบระดับฮอร์โมนของแต่ละคน อาจจะให้ฉีดทุกอาทิตย์นะคะ เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สม่ำเสมอ ฉีดอาทิตย์เว้นอาทิตย์บางคนอาจจะไม่ค่อยให้การผลดีเท่าที่ควร เพราะหลายๆคนระดับฮอร์โมนจะแกว่ง แต่ถ้าจะฉีดเดือนละ 2 ครั้ง อาจจะให้ทานเสริม อาทิแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าทุกวันค่ะ

 

– ฉีดแต่โปรกีนอน โปรลูตอน แล้วเอสตร้าคืออะไรคะ ?

 

เอสตร้า (Estradiol Benzoate) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ค่อนข้างแรง และเร็ว โดดเด่นในเรื่องการลดกล้าม ตัวนิ่ม ผิวพรรณ หน้าอก สรีระ เป็นอีกหนึ่งสูตรสวยของน้องๆลูกสาวพี่หมวยหลายท่านค่ะ หลายท่านปลื้มกันมาก เพราะเน้นผิว หน้าอก ตัวนิ่ม สลายกล้าม และในบางท่านขนลดลงได้ แต่อยางไรมีข้อดีก็มีข้อเสียค่ะ ทั้งข้อเสียของการฉีดฮอร์โมน และข้อเสียของตัวเอสตร้าด้วยค่ะ เอสตร้าเป็นยาอันตราย จะฉีดตามใจเราไม่ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นต้องใช้ให้เป็น และรู้ข้อเสียที่จะตามมาด้วยค่ะ ศึกษาเพิ่มเติมที่เว็บตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวยค่ะ

การฉีดเอสตร้านั้น โดยส่วนใหญ่จะฉีดร่วมกับโปรลูตอนค่ะ เพราะกลไกของเรานั้น 1.ต้านฮอร์โมนเพศชาย และ 2. เสริมฮอร์โมนเพศหญิง เพื่อให้กลไกนั้นเอื้อซึ่งกันและกัน และไม่ผิดสมดุลค่ะ (ในกรณีที่ยังไม่แปลงเพศ)

การฉีดเอสตร้าเดี่ยวๆนั้นย่อมได้เช่นกันค่ะ แต่ต้องประเมินเป็นกรณีๆค่ะ บางท่านต้นทุนมาดี ฉีดเพียงแค่เอสตร้าอย่างเดียวก็โอเคมาก หรือบางท่านฉีดเอสตร้า แล้วทานแอนโดรคัวร์ก็เป็นอีกสูตรที่นิยมมากเช่นกันค่ะ ฯลฯ ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ความพึงพอใจ หรือปัจจัยที่ไม่สามารถเทคแบบต่างๆ อย่างไรนั้นผลตอบสนองก็ขึ้นอยู่กับร่างกาย ความแมนของแต่ละบุคคล ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมไปถึงกรรมพันธุ์เช่นกันค่ะ ฯลฯ

เอสตร้า + โปรลูตอน สูตรนี้เป็นอีกสูตรที่นิยมกันมากค่ะ ให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่ค่ะ เป็นเบื้องต้น โดดเด่นในเรื่องลดกล้าม ผิว หุ่น นม สะโพก ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขน แต่จะเหมาะกับเรา เข้ากับร่างกายเรา ส่งผลดีหรือไม่อย่างไร ตอบโจทย์เราอย่างไร ก็ค่อยๆดูไปนะคะ สูตรนี้มีทั้งข้อดีข้อเสียค่ะ ข้อเสียของเอสตร้าพบได้หลายๆท่าน คือ อ่อนแรง อ่อนเพลีย อวบขึ้นได้ง่าย หิวบ่อย ฯลฯ

ใครได้ผิว ได้นม กล้ามลด ถ้าปลื้มก็โอเคค่ะ หากใครอ่อนแรง อ่อนเพลียก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ แล้วดูว่าไหวไหม ใครได้น้ำหนัก อวบขึ้น ทานจุกจิก ทานเก่งขึ้น ก็ต้องปรับกันใหม่ หรือมีวินัยให้มากขึ้นนะคะ หรืออาจจะต้องเปลี่ยนสูตร ใครเวียนหัว คลื่นไส้ อันเป็นอาการข้างเคียงของยาฮอร์โมนก็ลองประเมินตัวเองว่าหากฉีดต่อไปร่างกายจะปรับตัวได้แล้วค่อยๆเริ่มปกติ หรือพอจะอดทนเพื่อให้ร่างกายปรับได้ไหม ถ้าไม่ไหวก็ต้องเปลี่ยนสูตรนะคะ แล้วประเมินสูตรที่เหมาะกับเราต่อไปค่ะ ฯลฯ ศึกษาเพิ่มเติมวิธีการเทคฮอร์โมน และคำถามทั้งหมด รวมไปถึงข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บตอบคำถามกับพี่หมวยค่ะ

การฉีดเอสตร้านั้น บางท่านอาจอวบขึ้นได้ กรณีที่เราอวบได้ง่าย จึงต้องออกกำลังกายร่วมด้วยนะคะ เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ และกำจัดไขมันส่วนเกิน เรียนรู้ที่จะใช้ฮอร์โมนและอยู่กับมันนะคะ เราจะได้ทั้งสวย ทั้งหุ่นที่ฟิตและเฟิร์มขึ้น และรวมไปถึงสุขภาพเราด้วย เพราะการรับยาเอสโตรเจนเข้าร่างกายจะส่งผลให้เรามีภาวะที่เหมือนผู้หญิง ทั้งภาวะของการลดการเผาผลาญ ภาวะของการสะสมไขมัน และยังส่งผลถึงอารมณ์ การอยากอาหาร หิวบ่อย (เว้นบางกรณีพบว่าผอมลงได้ก็มีเยอะหลายท่านค่ะ) ส่วนหลายๆท่านที่เทคอย่างมีวินัยก็ปลื้มกันมากมายค่ะ ควบคุมตัวเองได้ นอกจากไม่อวบขึ้นแล้ว ยังสวยขึ้นอีก โดยส่วนใหญ่หลายๆท่านชอบก็สูตรนี้กันเยอะมากค่ะ แต่อย่างไรให้เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา ที่เข้ากับร่างกายของเราที่สุดค่ะ และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ

อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนสูงด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– ฉีดเดือนละครั้งได้ไหมคะ ?

 

ไม่ได้ค่ะ นานเกินไปค่ะ ฤทธิ์ของยาไม่ได้อยู่ได้ยาวนานขนาดนั้นค่ะ ฤทธิ์ของยา half life +- จะอยู่ได้ประมาณ 5-15 วันแล้วแต่ตัวๆไป และขึ้นอยู่กับความแมนของเราด้วย หากแมนมาก half life ก็จะหมดได้เร็ว รวมถึงปัจจัยของการกิน การใช้ชีวิต การทำกิจกรรมต่างๆ ฯลฯ ล้วนมีผลทำให้ฤทธิ์ยาค่อยๆอ่อนลงไป ล้วนมีผลต่อการประเมินหมดค่ะ ถ้าจะฉีดให้ฉีดอาทิตย์ละครั้งค่ะ เป็นเบื้องต้นดูก่อนนะคะ หรือแพทย์ประเมินค่ะ และตรวจวัดระดับฮอร์โมนค่ะ เพื่อที่จะได้ปรับสูตรให้เหมาะกับเราที่เหมาะสม ถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุดค่ะ เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่ง ไม่สมดุล เกิดภาวะต่างๆตามมาได้ค่ะ ฯลฯ

 

– ฉีดดูโอโทนสลับเอสตร้าได้ไหม แล้วผสมกันจะดีหรือเปล่าคะ ?

 

ไม่มีความจำเป็นใดๆ ไม่ควรสลับค่ะ ใช้ฮอร์โมนให้ถูกต้อง หากไม่ได้ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ไม่ควรฉีดหลากหลายค่ะ อาจจะให้ฉีดดูโอโทนอาทิตย์ละครั้ง หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ การประเมินหลายๆปัจจัย ทั้งร่างกาย ความแมน ระดับฮอร์โมนของแต่ละคน ปัจจัยและภาวะอันไม่ควรใช้และห้ามใช้ ฯลฯ ส่วนที่ถามว่าผสมกันจะดีหรือเปล่า สูตรเอสตร้า + ดูโอโทน ผสมได้ค่ะ แต่จะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายและการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีดแล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ หรือตามแพทย์ประเมินจะดีที่สุดค่ะ ถ้าสลับเอสตร้า ช่วงที่เราสลับเอสตร้าเราจะไม่มีโปรเจสเทอโรนจากเดิมที่เคยฉีดดูโอโทน แล้วฮอร์โมนเกิดไม่สมดุล ฮอร์โมนแกว่ง อันจะส่งผลต่างๆรวมถึงภาวะทางอารมณ์ด้วยนะคะ

 

– การตอบสนองของหนูไม่ค่อยดีเลยค่ะ (การตอบสนองของแต่ละคน)

 

การตอบสนองของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับร่างกาย อายุ ค่า BMI กรรมพันธุ์ ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนของแต่ละคน กล้ามเนื้อ ไขมัน การใช้ชีวิต ฯลฯ บางคนเร็ว บางคนช้า บางคนเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งที่จริงฮอร์โมนที่เราเทคอยู่นั้นก็เพียงพอแล้ว เยอะแล้ว ยาเคมีหรือยาสมุนไพรล้วนอันตรายหมด หากเทคผิดๆ ที่ให้เทค 1 เม็ดกลับเป็น 2 เม็ด ก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น ทุกอย่างล้วนต้องไปตามระดับฮอร์โมนของเรา ร่างกาย การตอบสนองของร่างกายเราเอง และต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค เราไม่ได้เทคเพื่อกี่วันเห็นผล เราเทคเพื่อค่อยๆมีพัฒนาการของสรีระ รูปร่าง หุ่น ผิว อก เอว สะโพก ฯลฯ ไปตามกาลเวลาค่ะ เทคฮอร์โมนให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ

อีกหนึ่งปัจจัยคือ เทคถูกต้องไหม เทคเยอะไหม เทคหลากหลายไปไหม ล้วนเป็นตัวแปรอีกด้วยเช่นกันค่ะ หลายๆคนจึงพยายามเทคในสูตรที่แตกต่างกันออกไป เช่นเพิ่มตัวนั้น เสริมตัวนี้ และเทคให้แรงขึ้น ทั้งกินทั้งฉีด รวมไปถึงมีอาหารเสริมต่างๆเข้ามาร่วมเยอะแยะไปหมด ในบางกรณีนั้นก็อาจจะให้ผลถูกใจ แต่ถึงอย่างไรผลเสียระยะยาวย่อมตามมาเยอะค่ะ เพราะยาฮอร์โมนทุกอย่างล้วนเป็นยาอันตราย มีค่ามีระดับฮอร์โมน มีขีดจำกัด มีความเสี่ยง มีผลข้างเคียงในตัวมันเองนะคะ

เพราะฉะนั้นตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคแต่พอดี เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างมีความสุข พอใจเท่าที่เราได้ เห็นคนนั้นคนนี้เทคแล้วได้มากก็ไม่ได้แปลว่าเราจะได้มากเท่าคนอื่นเขา เลือกสูตรให้เหมาะกับเรา เหมาะกับร่างกายเรา ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ

ก่อนอื่นเลยเราต้องประเมินหลายๆอย่างค่ะ อาทิเช่น เทคสูตรไหนอยู่ เทคมานานเท่าไหร่ เทคระดับเท่าไหร่ เทคแบบเกย์หรือแบบสาวสอง หรือแบบใด เทคระดับไหน การคาดหวังของเราเป็นแบบใด อยากงูตาย อยากงูไม่ตาย อยากนมขึ้น อยากนมไม่ขึ้น อยากซอฟ ลดกล้าม ลดขน อยากมีสรีระ หรืออะไรอย่างไร ซึ่งต้องประเมินเป็นกรณีๆไปค่ะ แล้วคำว่าเห็นผลเราให้คำจำกัดความว่าอย่างไร ? ซึ่งปัจจัยของพวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัยซึ่งต้องลงรายละเอียดกันยาวค่ะ เพราะการเทคแบบเกย์ก็จะต้องเทคแบบนึง มีการไล่ระดับยาเพื่อประเมินระยะต้น แล้วปรับกันต่อ แบบสาวประเภทสองก็เทคอีกแบบนึง อีกทั้งปัจจัยของตัวยาด้วย ความแมนของแต่ละคนด้วย ค่า BMI ก็แตกต่างกัน ระดับการเทคก็แตกต่างกัน ผลตอบสนองก็แตกต่างกัน รวมไปถึงการคาดหวัง เอานมไม่เอานม เอางูตาย ไม่เอางูตาย ฯลฯ ก็แตกต่างกันไปอีก อีกทั้งกรรมพันธุ์ของเราเองก็แตกต่างกันด้วย อายุด้วย ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันด้วย รวมไปถึงภาวะต่างๆด้วย เช่นความเครียด ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ด้วย ฯลฯ หรือเรื่องของกล้าม ปัจจัยในการลดกล้ามเกิดจากหลากหลายปัจจัยด้วย องค์ประกอบมีอีกเยอะมากค่ะ ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณา ประเมินเป็นรายๆไปค่ะ

เราเทคฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายเรามีฮอร์โมนเข้ามาพัฒนาตัวเองให้เป็นหญิงไปตามกาลเวลา การตอบสนอง กรรมพันธุ์ รวมไปถึง DNA เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นหญิง และตอบโจทย์ของหัวใจ ไม่ใช่เทคเพื่อกี่วันเห็นผลนะคะ แล้วดูว่าเรามีการตอบสนองที่ดีไหม สูตรไหนโอเคกับเราที่สุดค่ะ

จะไม่สามารถตอบได้ว่าสูตรไหนดีกว่าสูตรไหน หรือใช้คำว่าเห็นผลกี่วันก็เช่นกัน พวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งตัวยาเอง ตัวยาที่เหมาะกับเรา ระยะเวลา สูตรเทคยาต่างๆ การตอบสนองของแต่ละคน ร่างกายเรา อายุ การดูดซึม กรรมพันธุ์เรา ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ การกินอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความแมนของแต่ละคนก็เช่นกัน ซึ่งแตกต่างกัน รวมไปถึงความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ปัจจัยต่างๆมากมาย ล้วนมีผลต่อการประเมินผลหมดค่ะ

เพราะฉะนั้น 1. เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย 2. เลือกสูตรที่เข้ากับตัวเรา 3. การตอบสนองแล้วแต่คน 4.พอใจเท่าที่ได้ค่ะ

ก่อนอื่นเราจะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายและการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด/ทาน สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีด/ทาน แล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ แต่ต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัยนะคะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ อย่างไรควรพบแพทย์เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนของเราจะดีที่สุดค่ะ เพื่อปรับฮอร์โมนได้อย่างถูกต้องค่ะ และตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

– YAZ กับ YASMIN อันไหนดีกว่ากัน และคำถามที่ว่า ไดแอน ออยเลส เมอซิลอน แอนนา วันเดย์ Cilest Marvelon มาร์กาเร็ต Meliane อาร์เด็น ฯลฯ อันไหนดีกว่ากันคะ ?

 

พี่หมวยเจอคำถามแบบนี้เยอะมาก ว่าตัวไหนดีกว่ากัน ถ้าจะว่ากันไปถึงแต่ละตัว แต่ละรุ่น อีกทั้งยังมีทั้งฮอร์โมนรวม ฮอร์โมนเดี่ยว การนำไปใช้ในสาวประเภทสองอาจจะไม่มีสูตรที่ดีกว่ากันค่ะ มีแต่สูตรที่เหมาะกับเราที่สุดน่าจะบอกแบบนี้ได้ดีกว่าค่ะ เหมาะกับร่างกายเรา เหมาะกับงบประมาณของเรา อีกอย่างต้องดูอันตราย ผลข้างเคียงด้วยนะคะ ว่าเทคแล้วบวมไหม มึน เวียนหัว คลื่นไส้ แพ้ไหม ฯลฯ และแต่ละรุ่นก็พัฒนาให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ แต่อย่างไรร่างกาย การตอบสนอง ปัจจัยต่างๆแตกต่างกัน เลือกตัวที่เหมาะกับเรานะคะ

อาทิเช่น บางตัวมีฤทธิ์ต้านการคั่งน้ำและเกลือ ไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม บางตัวลดสิวที่หน้าได้ บางตัวยังมีฤทธิ์ลดการคั่งของน้ำ บางตัวช่วยลดความมันบนหน้า ลดการเกิดสิวได้ แต่กลับวิงเวียน คลื่นไส้ได้ บวมได้ ฯลฯ แต่จะไม่สามารถตอบได้ว่า ได้ผลจะชัดเจนทุกคน และตัวนี้จะดีกว่าตัวนี้ในคนๆหนึ่งได้

ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายเราว่าเข้ากับตัวไหนดีที่สุดค่ะ คนที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง เราชอบตัวไหน ทานแล้วเป็นอย่างไร แต่จะไม่สามารถนำมาเป็นตัววัดได้ เพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายแต่ละคนไม่เท่ากัน ร่างกาย ค่า BMI อายุ กรรมพันธุ์ต่างกัน การดูดซึม การตอบสนองไม่เหมือนกัน ฐานฮอร์โมนเพศต่างกัน รวมทั้งการใช้ชีวิต การกิน การอยู่ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ปัจจัยอื่นๆแตกต่างกัน ความเสี่ยงไม่เท่ากัน ฯลฯ

บางคนทานตัวนี้แล้วคลื่นไส้ บางคนไม่ บางคนผิวสวยขึ้น หน้าใสขึ้น บางคนไม่ บางคนคล้ำขึ้น บางคนหน้าอกใหญ่ขึ้น บางคนไม่ บางคนบวมขึ้น บางคนไม่ ที่เพื่อนว่าตัวนี้ดี ตัวนั้นดี เราเทคเองอาจจะไม่ได้ดีเท่าเขา บ้างก็ทำให้เราอวบอ้วนขึ้น กินเก่ง หิวง่าย เจริญอาหารมากขึ้น ฯลฯ


เทคให้เหมาะกับเรา เทคอย่างพอดีนะคะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ

 

– ขอสูตรแรงๆได้ไหมคะ อยากเห็นผลเร็วๆค่ะ ?

 

สูตรแรงๆ เทคเยอะๆ เทคหลากหลาย ไม่แนะนำค่ะ เทคผิด และอันตรายมากค่ะ มีความเสี่ยงเยอะมาก ยิ่งเทคเยอะร่างกายเราจะบวม นานวันกลไกต่างๆจะทรุดลง แล้วก่อให้เกิดภาวะต่างๆตามมา รวมทั้งโรคร้ายด้วย อันตรายและน่ากลัวมากนะคะ หลายๆคนต้องกินยารักษาตัวเองไปตลอดชีวิต หรือเทคฮอร์โมนไม่ได้ไปตลอดชีวิตก็เพราะแบบนี้นะคะ ฯลฯ

ไม่มีเทคแบบไหนเห็นผลเร็วค่ะ เราต้องเรียนรู้ และเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี ตามสูตรที่สอนไว้ข้างบน อย่างมีวินัย และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคแล้วพัฒนาไปตามกาลเวลาค่ะ ยิ่งแรงยิ่งนานวันยิ่งอันตรายค่ะ ยกตัวอย่าง ยาเคมีตัวหนึ่งแค่ 1 เม็ดก็เยอะแล้วค่ะ ไปเพิ่ม 2 เม็ดยิ่งเสี่ยงอันตรายเยอะค่ะ ฉีดก็เช่นกันค่ะ จะใช้ในปริมาณที่สูงต้องมีเหตุที่แพทย์ให้ใช้ค่ะ จากการตรวจวัดระดับฮอร์โมน รวมถึงตัวยาที่จะนำมาร่วมต่างๆด้วย เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อให้แพทย์ประเมิน และตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพื่อจะได้เทคได้อย่างถูกต้องและเหมาะกับเราที่สุดค่ะ

ปัจจัยของการที่สามารถพัฒนาไปได้เร็วนั้น มาจากการเทคที่ถูกต้อง เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเรา มีการตอบสนองที่ดี รวมไปถึงการดูแลตัวเอง การฟิตหุ่น ฟิตร่างกาย ดื่มน้ำให้เหมาะตามวัย พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ไม่เครียด ไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค

อย่ารีบร้อน อย่าใจร้อน ไม่ควรเทคเยอะ เทคมั่ว เทคซ้ำซ้อน เทคหลากหลาย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เทคๆหยุดๆ อันจะส่งผลให้ร่างกายเราเกิดภาวะการรับฮอร์โมนแบบไม่ต่อเนื่องและแบบผิดๆ จนถึงแบบก้าวกระโดด สูงเกิน ต่ำเกิน ฮอร์โมนแกว่ง ซึ่งกรณีแบบนี้เกิดจากการเทคยาไม่สม่ำเสมอ และเทคผิด ปรับตามใจตัวเอง และเปลี่ยนสูตรอีก ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ร่างกายก็จะผิดเพี้ยนไป ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนไปหมด และสุดท้ายก็จะอยู่ตัว ไม่พัฒนาใดๆ หรือเป็นไปได้ช้า และส่งผลเสียตามมาได้ เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ

 

– หยุดเทคยาแล้วจะกลับมาเหมือนเดิมไหมคะ ?

 

ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เทค รวมถึงความแมนแต่ละคนค่ะ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ และลักษณะการเปลี่ยนแปลงนะคะ ฮอร์โมนยังคงอยู่ในเซลล์ ราวๆ 3-6 เดือน และยังต้องดูหลายๆปัจจัยว่าเทคมานานแค่ไหนด้วยค่ะ ยาฮอร์โมนยังคงหลงเลืออยู่ในเซลล์มากน้อยแค่ไหน หลายๆท่านจะค่อยๆกลับมา ขึ้นอยู่กับความแมนของแต่ละคน ฐานฮอร์โมนเพศ และในหลายๆท่านอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควรค่ะ และอาจจะกลับมา 80-99% ไปตามกาลเวลา ทุกๆอย่างจะค่อยๆกลับมา ขน หนวด กล้าม รวมถึงอสุจิที่เข้มข้นขึ้น ส่วนลักษณะการเปลี่ยนแปลงนั้น จะแตกต่างกันออกไป อาทิเช่น กรณีเทคในเพศเกย์แล้วนมขึ้น เมื่อหยุดแล้วหน้าอกจะยุบลง ซึ่งบางท่านอาจจะไม่ยุบ 100% บางท่านอาจจะมีตุ่ยๆอยู่ และยิ่งกว่านั้นบางท่านเทคจนหัวนมขยาย พอนมยุบแต่หัวนมยังใหญ่หรือตุ่ยๆอยู่ จะไม่มีทางแก้นะคะ แม้จะฟิตเนต เล่นกล้ามก็ตาม ต้องผ่าตัดค่ะ เป็นต้น

 

– estra ต่างกับ oestra อย่างไร ?

 

พี่หมวยคะ หนูเห็นบางที่เขียน estra บางที่ก็เขียน oestra มันต่างกันอย่างไร และตัวไหนดีกว่ากันคะ ?

เหมือนกันค่ะ Estradiol จะเป็นแบบ American English ส่วน Oestradiol จะเป็นแบบ British English ค่ะ เวลาน้องๆเห็นฉลากยา บางที่เขียนไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ยาต่างกัน แต่ที่เขียนไม่เหมือนกัน ก็เป็นเพราะภาษาที่เขียนใช้แบบไหนนั่นเองค่ะ

 

– อธิบายวิตามินซีชนิดฉีด
– ฉีดวิตามินซีแล้วจะขาวไหมคะ ?

 

วิตามินซีชนิดฉีดนั้นผ่านทะเบียนยา ปลอดภัยและนิยมมาก การฉีดนั้น ครั้งละ 1-2 หลอด (เข้าเส้นเลือด) หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ จะฉีดเล่นๆไม่ได้ ฉีดๆเลิกๆไม่ได้ค่ะ ต้องฉีดกันนาน บ่อยๆ ฉีดจริงๆจังๆ ฉีดถี่ๆ บ่อยๆค่ะ บางท่านอาจจะไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงอะไรเลย บางท่านอาจจะดูนวล ใสขึ้นได้บ้างค่ะ ผลที่ได้หลายๆท่านพอใจในระดับหนึ่งค่ะ และบางท่านอาจจะไม่มีการเปลี่ยงแปลงใดๆค่ะ

วิตามินซีชนิดฉีดนั้นผ่านทะเบียนยา หลักการใช้ทางการแพทย์นั้น ใช้เพื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อและเข้าเส้นเลือด ข้างกล่องก็จะระบุไว้ชัดเจนว่า for intramuscular and intravenous injection และผ่านทะเบียนยา ซึ่งถ้าจะฉีดเพื่อให้ผิวใสขึ้น ต้องฉีดเข้าเส้นเลือดค่ะ โดยแพทย์หรือพยาบาลเป็นผู้ฉีดให้เท่านั้นค่ะ แต่อย่างไรการเห็นผลนั้นแล้วแต่คนค่ะ และปัจจัยต่างๆ ทั้งความถี่ในการฉีด สภาพผิว ไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวันค่ะ ฯลฯ บางท่านอาจจะไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงอะไรเลย บางท่านอาจจะดูนวล ใสขึ้นได้บ้างค่ะ

ประโยชน์ด้านผิวพรรณ ช่วยรักษาเซลล์ที่ถูกทำลาย และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ผิวพรรณกระจ่างใส เปล่งปลั่งขึ้น มีผลดีต่อสุขภาพหลายๆอย่าง ทำให้ผิวสดใส ผิวเนียน บางท่านอาจจะมองเห็นเส้นเลือดฝาดบนผิวหน้าได้ มีผลดีต่อสุขภาพ ช่วยป้องกันไข้หวัด ช่วยให้ความจำดี และเสริมสุขภาพสำหรับคนทำงานหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมงหรือนอนดึกค่ะ

แต่การนำมาฉีดเพื่อเรื่องผิวขาวนั้น "
ถ้าจะฉีดเพื่อหวังขาว เราอย่าคาดหวังมากค่ะ คนฉีดแล้วไม่เปลี่ยนแปลงมีเยอะแยะนะคะ อย่างเก่งๆก็จะได้แค่ใสๆ และต้องฉีดถี่ๆบ่อยๆค่ะ หยุดฉีดนานวันเข้าก็กลับมาเหมือนเดิมได้ค่ะ ถ้าไม่ขาวก็เจ็บตัวฟรีไปค่ะ"

 

– น้องๆหลายๆท่านปรึกษาพี่หมวยเรื่องทำศัลยกรรมต่างๆใดๆต้องหยุดยาฮอร์โมนไหม ต้องหยุดเทคยาไหม ?

(เรื่องนี้ว่ากันยาวหน่อย หลากหลายปัจจัย คุณแม่สรุปรวบรัดให้สั้นๆ) ลูกสาวมาปรึกษาเรื่องศัลยกรรมต่างๆต้องหยุดเทคยาไหม จริงๆถ้าศัลยกรรมไม่หนักมาก พักฟื้นไม่นาน ฮอร์โมนแม้จริงๆคุณหมอบางท่านอาจจะไม่ต้องงดก็ได้ หรืองดช่วงสั้นๆ แต่ควรงดก่อนก็ดีนะคะลูกสาวแม่ ถ้าเทคแต่โปรกีโนว่า 1 เม็ด อย่างเดียวอาจจะไม่ค่อยเท่าไหร่แต่ก็ไม่ค่อยดี งดได้ก็ควรงดก่อนดีกว่าค่ะ หรือหากเทค 2 เม็ดอยู่ หรือมากกว่านั้น เป็นเวลานานๆ อาจจะมีโอกาสทำให้เกิดภาวะเลือดออกผิดปรกติได้ ถ้าเมื่อเลือดแข็งตัวผิดปรกติก็อาจจะทำให้เกิดเป็นลิ่มเลือดอุดตันได้ อาทิอุดตันที่ขาหรือโชคร้ายไปอุดตันในปอดได้ อันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ

แต่อย่างอาทิ ยาคุม ต้องประเมินเป็นรายบุคคล รวมถึง ยาฉีด หรืออย่าง ยาแอนโดรคัวร์ ด้วยตัวยาตัวนี้ค่อนข้างหนัก แรง อันตรายมากในตัวมันเองในหลายๆด้าน พักไปก่อนก็ดีค่ะ (ถ้าศัลยกรรมนั้นๆไม่ได้พักฟื้นนาน และการหยุดเทคยานั้นไม่ส่งผลต่ออารมณ์และจิตใจเรามากไป และร่างกายไม่อ่อนเพลียเกินไป หยุดก่อนน่าจะดีกว่าค่ะ)

หรืออย่างยาคุม ในกรณีผู้หญิงแท้ ถ้าจำเป็นต้องเทคเพื่อคุมกำเนิด ในกรณีผู้หญิงแท้อาจจะไม่หยุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบระยะยาว

หรือกรณีผ่าตัดศัลยกรรมที่ใหญ่ขึ้น อย่างเสริมหน้าอก ยาคุม (โดยเฉพาะที่เป็นชนิดฮอร์โมนรวม) ควรงดก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ และหลังผ่าควรงดเป็นเดือนเลยค่ะ เพราะมีความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน นั่นเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อีกเช่นกันค่ะ

แต่โดยปรกติแล้วเราจะงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดและสมุนไพรวิตามินอาหารเสริม อย่างวิตามินอี น้ำมันปลา grape seed กระเทียม ขิง แปะก๊วย โสม อย่างนี้เป็นต้นน่ะจ่ะ ยากลุ่มแอสไพริน ยาแก้ปวด รวมถึงยารักษาสิวบางชนิด ฯลฯ ประมาณ 1-3 อาทิตย์ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ หรือตามแพทย์สั่งน่ะจ่ะ (คุณหมอบางท่านอาจจะให้งดวิตามินทุกชนิดเลยค่ะ) รวมถึงสุรา เบียร์ ไวน์ บุหรี่ด้วยน่ะจ่ะ

ส่วนฮอร์โมนคุณหมอบางท่านก็ให้หยุดไปก่อนสัก 1-2 อาทิตย์น่ะจ่ะลูกสาวแม่ ยังไงศัลยกรรมลูกสาวอาจหยุดเทคไปก่อนนะคะ และทานยาให้ครบตามที่คุณหมอสั่ง พอทำเสร็จแล้ว ดีขึ้นแล้ว เข้าที่แล้วเดี๋ยวกลับมาเทคปังๆเลยะนะคะ ดูแลรักษาทานยาหลังผ่าตัดให้ดี ให้ครบก่อนนะคะคนเก่ง

อย่างไรก็ต้องประเมินเป็นรายๆ เป็นบุคคลๆไปนะคะ ปัจจัยแต่ละบุคคลแตกต่างกัน การซักประวัติ ประวัติครอบครัว ประวัติการเทคยา การใส่ใจไถ่ถามผู้ที่จะทำศัลยกรรมนั้นสำคัญมาก อย่างไรลูกสาวเซฟตัวเองให้มากๆนะคะ ฮอร์โมนถ้ายังไม่จำเป็นจริงๆเลี่ยงได้เลี่ยงไปก่อนนะคะ รักลูกสาวทุกๆท่านค่ะ

 

สำหรับตอบคำถามเกย์

 

– สอนการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์
– อธิบายสรุปการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์
– สรุปวิธีเทคฮอร์โมนในเพศเกย์ เป็นเกย์ต้องเทคฮอร์โมนอย่างไร
– การเทคแอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่าเกย์ ทั้ง 5 สูตร
– การเทคสมุนไพร LDB + ละมุนนี ในเพศเกย์
– การเทคไม่เอานม
– เป็นเกย์อยากเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง แต่ไม่อยากได้นม เทคยังไงดี
– สรุปการเทคฮอร์โมนในเพศเกย์แบบสั้นๆและเข้าใจง่ายที่สุด สำหรับคนขี้เกียจอ่านค่ะ
– ไม่อยากได้นม ฉีดแต่โปรลูตอนได้ไหม อยากได้ผิวสวยๆ อยากได้หุ่นเหมือนหญิง แต่ไม่อยากได้นม ฉีดอย่างไร

 

เนื่องจากบทความหน้านี้ถูกจำกัดตัวอักษร พี่หมวยจะยกคำตอบของคำถามเกย์ทั้งหมดไปที่บทความ สอนเกย์เทคฮอร์โมน (ผิวสวย ผิวเนียน ตัวนิ่ม หุ่นซอฟ ไม่เอานม) (GAY) คลิ๊กที่นี่ค่ะ


สุดท้ายนี้ พี่หมวยแนะนำว่า 
ปัจจุบันน้องๆเข้าถึงยา แอบซื้อ แอบใช้ฮอร์โมนกันเยอะมากๆ และเทคผิดๆโดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากค่ะ

เราศึกษาจากเว็บไซต์เป็นความรู้ได้ แต่อย่างไรการใช้ฮอร์โมน น้องๆต้องพบแพทย์ ปรึกษาเภสัชกรนะคะ พี่หมวยให้คำแนะนำเบื้องต้น เป็นการส่งต่อความรู้ ตักเตือนไม่ให้ใช้กันผิดๆ เสมือนพี่สาวสอนน้องสาว อย่างไรหนูต้องพบแพทย์ ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เอาตัวเราเข้าระบบให้ถูกต้องนะคะ