สอนสาวประเภทสองเทคฮอร์โมน (Transgender)

 

ปัจจุบันน้องๆเข้าถึงยา แอบซื้อ แอบใช้ฮอร์โมนกันเยอะมากๆ และเทคผิดๆโดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากค่ะ

เราศึกษาจากเว็บไซต์เป็นความรู้ได้ แต่อย่างไรการใช้ฮอร์โมน น้องๆต้องพบแพทย์ ปรึกษาเภสัชกรนะคะ พี่หมวยให้คำแนะนำเบื้องต้น เป็นการส่งต่อความรู้ ตักเตือนไม่ให้ใช้กันผิดๆ เสมือนพี่สาวสอนน้องสาว อย่างไรหนูต้องพบแพทย์ ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เอาตัวเราเข้าระบบให้ถูกต้องนะคะ


ศึกษาเพิ่มเติมที่เมนูตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวย คลิ๊กที่นี่ค่ะ

1. ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง อันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร ทั้งแบบฉีดและทาน หรือทั้งฉีดและทาน และอื่นๆ

2. เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เรา ไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค

3. เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี เทคอย่างมีความสุข และพอใจเท่าที่ได้

4. การตอบสนองแล้วแต่คน ร่างกาย ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI ตัวยา ปริมาณยา อายุ การดูดซึม กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไปตามกาลเวลาค่ะ

5. พักตับ พักร่างกาย คืนธรรมชาติให้ตัวเอง ประเมินการพักตับตามความหลากหลายของการเทคยา เทคหลากหลาย เทคเยอะ เทคสูงๆ หรือทั้งทานทั้งฉีด มีวิตามิน อาหารเสริมใดๆบ้าง อายุ วัยของผู้เทคยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

6. ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องแม่นยำเหมาะกับเราที่สุด

7. ตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้ง  เพื่อเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันโรค เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้

8. พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ มีวินัยและรู้จักผ่อนปรน ออกกำลังกาย สร้างภูมิต้านทาน รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ควบคุมอารมณ์ ค่อยๆแก้ไข เรียนรู้และเอาชนะมันค่ะ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุขนะคะ และไม่กดดันใดๆค่ะ ต้องเก่งและสตรองค่ะ

 

 

อธิบายสโลแกนพี่หมวยก่อนเริ่มต้นเข้าสู่สอนการเทคฮอร์โมนค่ะ

ก่อนอื่นเลยทำความรู้จักสโลแกนหลักพี่หมวยก่อนค่ะ

1. เชื่อพี่ค่ะพี่จะสอนน้องเอง

2. เราจะสวยไปด้วยกัน และต้องสวยอย่างปลอดภัย สวยแล้วสุขภาพก็ต้องแข็งแรงด้วยค่ะ แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจค่ะ

3. ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเรา ร่างกาย ค่า BMI อายุ การดูดซึม ปัจจัยของตัวยาเอง ระดับในการใช้ ระยะเวลาในการเทค กรรมพันธุ์ DNA ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ปัจจัยต่างๆ รวมถึงปัจจัยในการดำรงชีวิตประจำวัน ฯลฯ และต้องไปมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ เราเห็นคนนั้นคนนี้ เทคสูตรนั้นสูตรนี้แล้วสวย เปลี่ยนไปมาก นมมา ผิวมา สะโพกมา ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองต่อยา ภาวะต่างๆ ฯลฯ แต่ละคนแตกต่างกัน เลือกเทคให้เหมาะกับเราและปรับใช้ค่ะ และอย่าลืมที่พี่หมวยสอนไว้นะคะ "เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างมีความสุข เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัย และพอใจเท่าที่ได้" พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ

4. การเทคยาจะส่งผลถึงอารมณ์ พยายามควบคุมตัวเองค่ะ ทำใจให้สบาย "เทคยาอย่างมีความสุข เทคอย่างเข้าใจ เทคแล้วดูแลตัวเอง จงเรียนรู้ รู้เขารู้เรา เข้าใจ และเอาชนะมันค่ะ"

5. การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

6. ทำไมพี่หมวยถึงดุรู้ไหม ? เพราะพี่อยากให้เราได้ดี อยากให้เราเทคเป็น เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ อยากให้เราเทคอย่างผู้มีความรู้ และเราต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย กินยานะคะ ไม่ใช่กินขนม ยาพวกนี้อันตราย มีข้อดีข้อเสีย หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินค่ามาตราฐาน เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะฉะนั้นต้องเทคอย่างผู้มีความรู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีความสุข อย่างมีวินัย พอใจเท่าที่ได้ และรู้จักยาที่จะเอาเข้าร่างกาย พี่หมวยจะบอกเสมอๆว่าถ้าเราไม่ศึกษามาก่อน เราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง พี่หมวยไม่ได้ขายยานมโตนะจ้ะ แต่พวกนี้เป็นยาฮอร์โมนเพื่อเข้ามากระตุ้น มากดมาเสริม แม้มันจะมาเร่งผิวเร่งนม รวมไปถึงสรีระเราได้ก็ตาม ฯลฯ แต่มันจะพัฒนาเราไปตามกาลเวลา การตอบสนอง ฐานและระดับฮอร์โมนเพศของเราที่หน้าอก รวมไปถึงต้นทุน กรรมพันธุ์ DNA ความแมนของแต่ละบุคคล ปัจจัยต่างๆ ฯลฯ พอเราไม่มีความรู้เราก็จะไม่เข้าใจอันใดเลย แล้วจะถามเช่น ทำไมกินยาแล้วนมไม่ใหญ่คะ ? มียาตัวไหนกินหรือฉีดแล้วนมตู้มสุดคะ ? กินตัวไหนเห็นผลเร็วสุดคะ ? เห็นผลกี่วันคะ ? มียาคุมลาวไหมคะ ? อยากลดกล้ามค่ะ อยากหน้าหวานค่ะ อยากสวยค่ะ ฯลฯ น้องจะโดนพี่หมวยดุค่ะ

จริงๆแล้วพี่หมวยไม่ได้ดุหรอก พี่หมวยใจดี แต่พี่หมวยจะแอ๊บดุ แล้วถ้าเรากระตือรือร้นตัวเอง ดูมีทีท่าให้เห็นว่าอย่างน้อยเราก็พยายามศึกษา react กลับมาให้พี่หมวยเห็น แม้จะศึกษาไม่ค่อยเก่ง อ่านแล้วไม่ค่อยเก็ตก็ตาม แต่พี่หมวยจะชื่นชมในตัวเราอย่างมาก อย่างนี้แหล่ะเอาใจพี่หมวยไปเลย อีกอย่างเวลาพี่หมวยดุ พี่หมวยจะจิตวิทยาดูว่าน้องๆจะมีปฏิกริยาตอบกลับมาอย่างไร หลายคนโดนดุ แล้วก็ยังพูดดีกับพี่หมวย หรือเข้าใจ หรือยอมรับ หรือรับฟัง หรือเชื่อฟัง ฯลฯ กลับไปตั้งใจศึกษา เพราะรู้ว่าพี่หมวยต้องการสื่ออะไร อะไรหลายๆอย่าง พี่หมวยจะประทับใจมากที่เราอดทน และเชื่อฟังแม้พี่หมวยจะดุ หลังจากนั้นมาพี่หมวยก็จะตอบแทนที่เราผ่านด่านพี่หมวยมาได้ ด้วยการตอบคำถามให้เราได้เสมอ ได้ทุกคำถาม และดูแลกันไปตลอดค่ะ

7. พวกนี้ไม่ใช่ยาที่จะมาถามว่ากินกี่วันเห็นผลคะ สูตรไหนนมโตสุดคะ ? หนูเสพติดโฆษณาต่างๆมากไปหรือเปล่าคะ เราเทคฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายเรามีฮอร์โมนเข้ามาพัฒนาตัวเองให้เป็นหญิงไปตามกาลเวลา ค่า BMI อายุ การดูดซึม การตอบสนอง กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นหญิง ไปตามกาลเวลา และตอบโจทย์ของหัวใจ ไม่ใช่กินเพื่อกี่วันเห็นผลนะคะ แล้วดูว่าเรามีการตอบสนองที่ดีไหม สูตรไหนโอกับเราที่สุดค่ะ มีผลข้างเคียงอะไรไหม และต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

จะไม่สามารถตอบได้ว่าสูตรไหนดีกว่าสูตรไหน หรือใช้คำว่าเห็นผลกี่วันก็เช่นกัน พวกนี้เกิดจากหลากหลายปัจจัย ทั้งตัวยาเอง ตัวยาที่เหมาะกับเรา สูตรเทคยาต่างๆ ร่างกาย การตอบสนองของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมนเพศ ฐานฮอร์โมนเพศ การกินอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงความแมนของแต่ละคนก็เช่นกัน ซึ่งแตกต่างกัน รวมไปถึงความเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ปัจจัยอื่นๆ ต่างๆมากมาย ล้วนมีผลต่อการประเมินผลหมดค่ะ

เพราะฉะนั้น เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างมีความสุข และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ


งดรับปรึกษาทุกท่านที่ไม่ศึกษาที่เมนูตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวยมาก่อนทุกกรณีค่ะ คลิ๊กที่นี่ค่ะ

 

(รูปล่าง) ยกตัวอย่างคำถามบางส่วนที่ถามเข้ามาบ่อยมากค่ะ อ่านตอบคำถามเหล่านี้ได้ที่เมนู "ตอบคำถามการเทคฮอร์โมนกับพี่หมวยค่ะ"

 


 

(รูปล่าง) ยกตัวอย่างเช่น เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา ร่างกายเรา และมีผลข้างเคียงน้อยที่สุดค่ะ เทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา เทคยาแล้วค่อยๆพัฒนา ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตามกาลเวลานะคะ ขึ้นอยู่กับอายุ การดูดซึม ค่า BMI ตอบสนอง กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนของแต่ละคน การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ รวมถึงต้องไม่ภาวะปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

 

น้องๆหลายคนถามว่า ทาน/ฉีด สูตรไหนดีคะพี่หมวย ?

 

ตอบ : ก่อนอื่นเราจะยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้เหมือนกันค่ะ เพราะร่างกายและการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ เราต้องลองฉีด/ทาน สูตรนั้นๆดูก่อนค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเรา แล้วค่อยมาประเมินดูว่าต้องปรับยังไงต่อไปค่ะ จะยังไม่สามารถตอบได้ทันทีค่ะ เบื้องต้นเลยต้องดูว่าฉีด/ทาน แล้วแพ้ไหม เวียนหัว คลื่นไส้ไหม คัน ผื่นขึ้นไหม บวมไหม มีอาการอะไรไหม ฯลฯ แล้วประเมินดูต่อไปค่ะ ว่าสูตรไหนเหมาะกับร่างกายเราที่สุดค่ะ แต่ต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างพอดี อย่างมีวินัยนะคะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ อย่างไรควรพบแพทย์เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนของเราจะดีที่สุดค่ะ เพื่อปรับฮอร์โมนได้อย่างถูกต้องค่ะ และตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

เพราะฉะนั้น สรุปได้ว่า เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างมีความสุข และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

 

สูตรเทคยามีอย่างไรบ้าง ?

What are the formula of each hormones ?

 

การเทคยาฮอร์โมนสำหรับสาวประเภทสองนั้นเราจะเทคเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามกาลเวลา หลักการเทคนั้นเราต้องลดฮอร์โมนชายและเสริมฮอร์โมนหญิงตามกลไก เพื่อเร่งพัฒนาสรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขน รวมไปถึงหน้าตาและดูอ่อนหวานขึ้น สรีระละเมียดละไมไปทางสตรีเพศ และแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ ขอเพียงเทคให้ถูกต้อง และหากมีการตอบสนองที่ดี ก็อาจจะส่งผลให้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ค่อยๆดูไปตามการตอบสนองของเราต่อสูตรนั้นๆนะคะ โดยทุกๆสูตรจะมีโอกาสได้หมดตามที่บอกค่ะ แต่อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจด้วยค่ะ ว่าการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน อายุ ปริมาณยา ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยการใช้ชีวิต และอื่นๆแตกต่างกัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพรด้วยนะคะ

โดยกลไกของการเทคยาหลักๆของสาวประเภทสองเลย สำหรับกรณีที่ยังไม่แปลงเพศ

1. ลดฮอร์โมนเพศชาย (ลดขน สิว ผิวมัน หุ่นซอฟ ตัวนิ่ม สลายกล้าม) (อย่าให้ระดับฮอร์โมนต่ำเกินไป)
2. เสริมฮอร์โมนเพศหญิง (สรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ) 
(อย่าให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินไป)

เพื่อพัฒนาและเอื้อซึ่งกันและกันให้เราเป็นสตรีเพศมากที่สุด เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทค
อย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

กรณีแปลงเพศแล้วจะเทคเฉพาะฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเดียวค่ะ อ่านเพิ่มเติมที่คำถามแปลงเพศแล้วเทคฮอร์โมนอย่างไรค่ะ

 

อธิบายคุณสมบัติของยาทานและผลข้างเคียงแต่ละตัวค่ะ

 

แอนโดรคัวร์ (Androcur) = ยาลดฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดอันเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ลดกล้าม ลดขน ลดสิว ผิวมัน หน้ามัน เมื่อกล้ามลดก็จะช่วยให้แลดูซอฟขึ้น เป็นยาเคมีที่แรง ผลข้างเคียงทำให้เสียงแหบ อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ อารมณ์หงุดหงิดง่าย แปรปรวน เจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ซึม เศร้า ร้องไห้ คิดแต่แง่ลบ หดหู่ ขี้น้อยใจ ฯลฯ รวมไปถึงผมร่วงในระยะแรก ผิวไวต่อแสงแดด สมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ หากเทคเยอะ เทคนาน เทคผิดๆ ก็จะเสี่ยงต่อตับสูงด้วย และที่สำคัญเมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกทำลายงูก็ตายได้ค่ะ ความต้องการทางเพศลดลง มากน้อยแล้วแต่ปริมาณยาและระดับฮอร์โมนเพศแต่ละคนๆไป มีโอกาสที่จะมีขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น การเจริญเติมโตของเส้นผมเพิ่มขึ้น ผมดกและหนาขึ้น ฯลฯ และยังมีโอกาสทำให้มีบุตรยากจนถึงมีโอกาสเป็นหมันได้ค่ะ

โปรกีโนว่า, โปรไกโนว่า (Progynova) = ยาเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้ผิวพรรณนวลขึ้น ผ่องขึ้น เร่งพัฒนาหน้าอก ผิวพรรณ สรีระ (หุ่น อก เอว สะโพก) มีผลต่อเม็ดสีเช่นหัวนม ผิว และปลายอวัยวะเพศได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เป็นต้น

เอสโตรเฟม (Estrofem) = เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกับโปรกีโนว่า แต่เป็นอีกฟอร์มหนึ่ง (โครงสร้างทางเคมี hemihydrate 2 mg.) มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน ยกตัวอย่าง อาทิเช่น บางท่านทานโปรกีโนว่าผิวพรรณดีขึ้น แต่พบว่าอารมณ์แปรปรวนได้ เป็นต้น ข้อระวังในผู้ที่เป็นโรคตับและโรคที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปรกติ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ฯลฯ เป็นต้น หรือมีผลข้างเคียงต่างๆที่ไม่ปลื้ม ก็สามารถเปลี่ยนมาทานเอสโตรเฟม แล้วประเมินผลตอบสนองดูนะคะ อาจจะมีข้อดี เด่น ด้อย ผลตอบสนอง ผลข้างเคียงแตกต่างกันไป และผลข้างเคียงดังกล่าวก็พบได้ในเอสโตรเฟมเช่นกัน อย่างไรเลือกตัวที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เราค่ะ เอสโตรเฟมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น้องๆหลายท่านชอบมากค่ะ

เอสโตรเจล (Oestrogel) = เป็นยาฮอร์โมนเพศหญิงล้วนเหมือนกันกับโปรกีโนว่าและเอสโตรเฟม แต่เป็นชนิดทา ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดรับประทานหรือฉีดหรือแผ่นแปะไม่ได้ เช่น มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับ มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม มดลูก เส้นเลือดสมองแตก หรืออุดตัน เป็นต้น หรือสะดวกที่จะทามากกว่า เอสโตรเจล ผลิตออกมาใน รูปของเนื้อเจล ใช้ทาซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังผ่านกระแสเลือดอย่างรวดเร็ว ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที เพราะไม่ผ่านกระบวนการเมตาบอลิซึมที่ตับ และไม่สูญสลายเนื่องจากการถูกทำลายจากวิตามินซีในระบบย่อยอาหาร เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์หลายๆท่านได้ดีค่ะ มีผลต่อเม็ดสีเช่นกัน บริเวณหัวนม และปลายอวัยวะเพศได้ ผลข้างเคียงคล้ายคลึงกันกับโปรกีโนว่า และเอสโตรเฟมเช่นกันค่ะ ผลข้างเคียงบางท่านหิวบ่อย ทานจุกจิก อวบขึ้น อ้วนง่าย น้ำหนักขึ้น บวม คล้ำขึ้น สิวขึ้น ฝ้าขึ้นได้ นอนไม่หลับ ปวดหัว เวียนหัว มึนหัว คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้อง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกทางเพศเปลี่ยนแปลงไป ฯลฯ เป็นต้น

ละมุนนี (Lamoonni) = 
ยาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดฮอร์โมนเพศชาย ช่วยลดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้ร่างกายไม่อาจนำฮอร์โมนเพศชายไปใช้กับเนื้อเยื่อเป้าหมายได้สมบูรณ์ ต้านฤทธิ์ของแอนโดรเจน ทำให้ลักษณะเด่นแบบเพศชายลดลง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีส่วนประกอบของ พิกัดตรีผลา ที่สามารถบำรุงตับได้อีกด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัวได้ เป็นต้น

แอลดีบี (LDB) = 
ยาสมุนไพรเสริมฮอร์โมนเพศหญิง บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ผิวแลดูผ่อง ดูขาวใสขึ้น กระจ่างใส มีน้ำมีนวลอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวเต่งตึง กระชับขึ้น ผิวเนียนเรียบ นุ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ หน้าอก แก้ม ถุงใต้ตา รวมถึงส่วนอื่นๆของร่างกาย และยังมีส่วนช่วยลดรอยสิว ฝ้า ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นตื้นๆ ช่วยเร่งพัฒนาหน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้นได้ เต่งตึง โดยร่างกายส่วนอื่นไม่อ้วนขึ้น อีกทั้งยังบำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณ ปรับธาตุ ปรับสมดุลฮอร์โมนภายในร่างกาย และบำรุงร่างกาย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วยค่ะ ผลข้างเคียงพบได้น้อยในคนที่แพ้สมุนไพร อาทิเช่น คัน เป็นผดผื่นขึ้น เป็นตุ่ม เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องอืด ท้องเดิน ท้องเสีย ปวดหัว นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นต้น

ไดแอน (Diane) / พรีม (PREME) / นีน่า (Nina) / ซูซี่ (Sucee) / Beriz บีริส / OC-35 / ลอร่า-35 Laura-35 (ชื่อเดิม เลดี้-35) / เดอมูท (Dermooth) / มาโนแอน (Manoane) / แดฟเน่35 (Dafne35) ฯลฯ = กลุ่มนี้เป็นยาคุมอีกกลุ่มนึง มีฮอร์โมนร่วมที่มีคุณสมบัติทั้งลดฮอร์โมนเพศชายและเสริมฮอร์โมนเพศหญิง (Cyproterone acetate + Ethinyl estradiol หรือ EE) โดดเด่นเรื่องผิวพรรณ หน้าอก ลดขน ลดสิว ฯลฯ แต่คุณสมบัติลดกล้ามนั้นมีน้อยเกินไปค่ะ มีฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง ซึ่งพี่หมวยไม่แนะนำเด็ดขาดค่ะ จริงๆยาคุมพี่หมวยไม่อยากแนะนำให้น้องๆใช้กันเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะทั้งราคาถูก หาซื้อง่าย การแสดงผลโดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบ ตอบโจทย์น้องๆได้ดี ใช้กันตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเข้าถึงง่าย ในเมื่อห้ามยากก็จำเป็นต้องสอนให้เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง และเรามีหน้าที่ต้องรับรู้ถึงอันตรายและระวังค่ะ และถ้าเลิกใช้ได้ก็เลิกค่ะ ระยะยาวมีผลเสียมากค่ะ

ยาคุมกลุ่มนี้ตัวยาเดียวกันหมดค่ะ เหมือนกันค่ะ ประกอบด้วย Cyproterone acetate 2 mg. และ Ethinyl estradiol 0.035 mg. (EE) พวกนี้จะมีระดับเอสโตรเจน EE ที่เป็นเคมีสังเคราะห์ (0.035 มิลลิกรัม) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง (ห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาด) จึงทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล หน้าอกคัด ส่วน Cyproterone acetate จะเป็นตัวที่มีช่วยลดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายได้ จึงช่วยลดอาการหน้ามัน ผมมัน ผมร่วง ขนดก สิว มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวจากฮอร์โมนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวเห่อรุนแรง แต่การมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง ก็อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เวียนหัว ปวดศีรษะ คัดเต้านม และยังอาจมีอาการบวมน้ำได้ในบางราย (น้ำหนักเพิ่มขึ้น) นั่นเองสำหรับสาวประเภทสองอาจจะปลื้มเพราะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น โดยกลไกอันเกิดจากการเริ่มเป็นไต และพัฒนาต่อมไขมันที่หน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้น ส่วนมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ตัวยา ระดับฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศที่บริเวณฐานหน้าอกของเราค่ะ

สำหรับสูตรเทคหลักๆตามนี้ค่ะ

สูตรที่ 1. ซูซี่ (หรือพรีม) วันละเม็ด (ห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาด)
สูตรที่ 2. แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 3. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 4. แอนโดรคัวร์ + LDB
สูตรที่ 5. แอนโดรคัวร์ + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 6. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเจล
สูตรที่ 7. ละมุนนี + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 8. ละมุนนี + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 9. ละมุนนี + LDB
สูตรที่ 10. ละมุนนี + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 11. ละมุนนี + เอสโตรเจล
สูตรที่ 12. แอลดีบี + ซูซี่ (หรือพรีม)

สูตรเทคซ้ำซ้อน หรือหลากหลาย หรือรวมฤทธิ์กัน อาจจะไม่แนะนำ ไม่ทุกคนเทคแล้วจะให้ผลดีค่ะ ต้องประเมินระดับการเทค อาการข้างเคียงด้วยนะคะ

สูตรที่ 13. แอนโดรคัวร์ + LDB + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 14. แอนโดรคัวร์ + LDB + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 15. แอนโดรคัวร์ + LDB + เอสโตรเจล
สูตรที่ 16. แอนโดรคัวร์ + LDB + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 17. แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า + เอสโตรเจล
สูตรที่ 18. แอนโดรคัวร์ + เอสโตรเฟม + เอสโตรเจล
สูตรที่ 19. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + LDB
สูตรที่ 20. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + เอสโตรเจล
สูตรที่ 21. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 22. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 23. แอนโดรคัวร์ + ละมุนนี + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 24. ละมุนนี + LDB + ซูซี่ (หรือพรีม)
สูตรที่ 25. ละมุนนี + LDB + โปรกีโนว่า
สูตรที่ 26. ละมุนนี + LDB + เอสโตรเฟม
สูตรที่ 27. ละมุนนี + LDB + เอสโตรเจล

ส่วนสูตรฉีดก็จะมี (ไม่แนะนำให้ฉีดอย่างยิ่งค่ะ)

สูตรที่ 1. โปรกีนอน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้งค่ะ)
สูตรที่ 2. เอสตร้า + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้งค่ะ)
สูตรที่ 3. ดูโอโทน (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 4. ฟีโนกีนอนเอฟ (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หากต้องการฉีด 2 หลอด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 5. เอสตร้า + ดูโอโทน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 6. เอสตร้า + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 7. ดูโอโทน + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 8. ดูโอโทน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 9. ฟีโนกีนอนเอฟ + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)

- กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านเพลีย อวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

ส่วนสูตร 4 ตัวขึ้นไป อาทิ แอนโดรคัวร์ + โปรกีโนว่า + ละมุนนี + LDB (หรือใช้เอสโตรเฟม และ/หรือ เอสโตรเจลเข้ามาผสมหรือเข้ามาแทนในสูตรร่วมนี้) การเทคหลากหลายไม่แนะนำค่ะ สูตร 4 ตัว บางรายการสามารถเทคได้ แต่อาจจะไม่จำเป็น ต้องประเมินระดับการเทค อาการข้างเคียงด้วยนะคะ ไม่แนะนำค่ะ

ปล. ซูซี่ / ไดแอน / พรีม / นีน่า / Beriz บีริส / OC-35 / Laura-35 ลอร่า-35 (ชื่อเดิม เลดี้-35) / Dermooth (เดอมูท) / มาโนแอน / แดฟเน่35 (Dafne35) ฯลฯ ตัวยาเดียวกันหมดค่ะ เหมือนกันค่ะ ประกอบด้วย Cyproterone acetate 2 mg. และ Ethinyl estradiol 0.035 mg. (EE) พวกนี้จะมีระดับเอสโตรเจน EE ที่เป็นเคมีสังเคราะห์ (0.035 มิลลิกรัม) เป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่สูง การปล่อยฤทธิ์สูง (ห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาด) จึงทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล หน้าอกคัด ส่วน Cyproterone acetate จะเป็นตัวที่มีช่วยลดฮอร์โมนเพศชายในร่างกายได้ จึงช่วยลดอาการหน้ามัน ผมมัน ผมร่วง ขนดก สิว มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวจากฮอร์โมนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวเห่อรุนแรง แต่การมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูง ก็อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้มากขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เวียนหัว ปวดศีรษะ คัดเต้านม และยังอาจมีอาการบวมน้ำได้ในบางราย (น้ำหนักเพิ่มขึ้น) นั่นเองสำหรับสาวประเภทสองอาจจะปลื้มเพราะทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น โดยกลไกอันเกิดจากการเริ่มเป็นไต และพัฒนาต่อมไขมันที่หน้าอกให้ขยายใหญ่ขึ้น ส่วนมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ตัวยา ระดับฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศที่บริเวณฐานหน้าอกของเราค่ะ

สำหรับยาคุมสูตร EE อาทิเช่น ซูซี่/พรีม/ไดแอน/นีน่า ฯลฯ ตามข้างต้น แม้จะปลอดภัย แต่ไม่ควรมีปัจจัยเสี่ยงในการเทคยาต่างๆ รวมไปถึงอายุมากขึ้นต้องเลี่ยงค่ะ เพราะผลข้างเคียงและข้อเสียของยาคุมกลุ่มนี้มีเช่นกัน และเราเทคกันนานมีโอกาสส่งผลต่อหลอดเลือดอุดตันได้ พี่หมวยแนะนำให้ไปใช้โปรกีโนว่า เอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจลชนิดทาแทนจะดีกว่าค่ะ และอาจเสริมสมุนไพร LDB หรือละมุนนีร่วมกันก็ได้ แต่ต้องประเมินอาการข้างเคียงด้วยนะคะ เทคยาให้เหมาะกับวัยของเรานะคะ ต้องไม่มีข้อห้าม รวมถึงภาวะและปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ และแพทย์ไม่แนะนำให้อายุเกิน 35 ใช้ยาคุม เพราะเสี่ยงต่อหลอดเลือดดำอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ 
ซึ่งถ้าไปอุดตันที่สมองหรือหัวใจอันนี้จะอันตรายอย่างมากค่ะ และห้ามทาน 2 เม็ดเด็ดขาดค่ะ เคมี EE สูงถึง 70 ไมโครกรัม อันตรายมาก เตือนเลยนะคะ

โปรกีโนว่ากับยาคุมไม่ควรทานร่วมกันค่ะ ไม่ควรทานเคมีเอสโตรเจนหลากหลาย และรวมฤทธิ์กันสูงไป จะทำให้อ้วน บวม คล้ำขึ้น และในหลายๆคน ทำให้ผมร่วงได้ค่ะ

กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านอวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

สำหรับยาสมุนไพร LDB และละมุนนี ใช้เป็นตัวเสริมฮอร์โมนร่วมจากยาตัวหลักนะคะ แต่ต้องประเมินว่าใช้เสริมร่วมแล้วจะทำให้บวมไหม อวบอ้วนขึ้นไหม หน้ามืดวิงเวียนไหม ฯลฯ อันเนื่องมากจากฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น

การมีตัว LDB + โปรกีโนว่า (หรือเอสโตรเฟม หรือเอสโตรเจล หรือร่วมกันหลากหลายในสูตรใดๆ) ร่วมกัน ฮอร์โมนเพศหญิงรวมฤทธิ์กันพบว่าในบางท่าน บวมได้ อวบอ้วนขึ้นได้ (เอสโตรเจนสูงอาจจะทำให้หน้ามืดวิงเวียนได้) อาการข้างเคียงอื่นๆ ฯลฯ ให้ประเมินแอลดีบีที่ 1 แคปซูลก่อนค่ะ เพื่อประเมินว่าแพ้สมุนไพรไหม มีอาการข้างเคียงใดๆไหม

ทั้งสูตรทานและสูตรฉีด หรือใช้ร่วมกัน ทุกๆ 4-6 เดือน พักตับ 2-4 อาทิตย์ค่ะ แล้วแต่กรณีๆไปค่ะ เพราะต้องประเมินว่าเทคอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เทคหลากหลายไหม เทคเยอะไหม เทคสูงๆไหม ฉีดหรือทานหรือทั้งฉีดทั้งทานรวมฤทธิ์กันเยอะไหม และมีวิตามิน อาหารเสริมอะไรอีกไหม อายุ วัยของผู้เทคยา แล้วการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

กรณียาฉีด พี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดมันอันตรายมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ และเสี่ยงมะเร็งสูง คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรยาทุกตัวก็มีข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของตัวมันเองนะคะ ไม่ว่าจะยาเคมีก็ดีหรือยาสมุนไพรก็ดีค่ะ ยังไงก็เลือกที่เหมาะกับเรา และตอบโจทย์เราที่สุดนะคะ ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยาอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

แต่อย่างไรคนที่แพ้สมุนไพรเช่น สารสกัดจากขมิ้นชัน ทานแล้วรู้สึก เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย คัน ผื่นขึ้น เป็นตุ่ม ปวดหัว แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ฯลฯ ก็มีนะคะ ผู้ที่เป็นโรคทางทรวงอกต่างๆ มดลูก รังไข่ ดื่มสุรา มีประวัติโรคตับ ฯลฯ ห้ามทานค่ะ และผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งต่างๆก็เป็นข้อควรห้ามและข้อระวังในการทานเช่นกันนะคะ

ส่วนยาคอนจูเกท เอสโตรเจน (Conjugated estrogen) ในพรีมาริน หรือ เอสโตรม่อน พวกนี้จะวัดระดับฮอร์โมนจากยาได้ยาก ถ้าใช้ต้องให้แพทย์ประเมินนะคะ


ส่วนสูตรทานอื่นๆปรับใช้เป็นกรณีๆไปค่ะ และพี่หมวยจะมาสอนอีกทีค่ะ

 

อธิบายคุณสมบัติของยาฉีดแต่ละตัวค่ะ

เริ่มต้นควรฉีดอะไรดี ?

 

What kind of hormones to inject at the beginning ?

 

การเทคยาฮอร์โมนสำหรับสาวประเภทสองนั้นเราจะเทคเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามกาลเวลา หลักการเทคนั้นเราต้องลดฮอร์โมนชายและเสริมฮอร์โมนหญิงตามกลไก เพื่อเร่งพัฒนาสรีระ อก เอว สะโพก ผิวพรรณ ตัวนิ่ม สลายกล้าม ลดขน รวมไปถึงหน้าตาและดูอ่อนหวานขึ้น สรีระละเมียดละไมไปทางสตรีเพศ และแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ ขอเพียงเทคให้ถูกต้อง และหากมีการตอบสนองที่ดี ก็อาจจะส่งผลให้เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ค่อยๆดูไปตามการตอบสนองของเราต่อสูตรนั้นๆนะคะ โดยทุกๆสูตรจะมีโอกาสได้หมดตามที่บอกค่ะ แต่อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจด้วยค่ะ ว่าการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน อายุ ปริมาณยา ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ ปัจจัยการใช้ชีวิต และอื่นๆแตกต่างกัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพรด้วยนะคะ

เพราะฉะนั้นต้องเทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน อายุ การดูดซึม ค่า BMI กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไม่ควรเทคมั่ว เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อนเกินไปค่ะ เทคยาอย่างมีความสุข ไปตามกาลเวลานะคะ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ

ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ผลข้างเคียง และอันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปี เทคยาแล้วก็รักษาสุขภาพให้มากๆค่ะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่สอนนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

อย่าลืมไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเฝ้าระวัง และค้นพบโรค และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรกรณียาฉีด พี่หมวยจะเตือนนะคะ ยาฉีดมันอันตรายมาก เสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ และเสี่ยงมะเร็งสูง คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ

โปรกีนอน (Progynon) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง เน้นผิว เน้นนม เน้นสรีระ (อก เอว สะโพก)
โปรลูตอน (Proluton) = ต้านฮอร์โมนเพศชาย เสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม กระตุ้นให้มีผิว นม สรีระที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวนิ่ม และลดกล้าม
เอสตร้า (Estradiol Benzoate) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง โดดเด่นในเรื่องลดกล้าม ตัวนิ่ม เน้นผิว เน้นนม สรีระ (อก เอว สะโพก)
ดูโอโทน (Duoton Fort) = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง + มีส่วนในการลดฮอร์โมนเพศชาย เน้นผิว นม ลดกล้าม สรีระ (อก เอว สะโพก)
ฟีโนกีนอนเอฟ (Phenokinon "F") = เสริมฮอร์โมนเพศหญิง + มีส่วนในการลดฮอร์โมนชาย เน้นผิว นม ลดกล้าม สรีระ (อก เอว สะโพก)

โปรกีนอน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Estradiol Valerate 10 mg.
โปรลูตอน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Hydroxyprogesterone Caproate / Hexanoate 250 mg.
เอสตร้า 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Estradiol Benzoate 5 mg.
ดูโอโทน 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Progesterone U.S.P. 50 mg. และ Estradiol Benzoate U.S.P. 3 mg.
ฟีโนกีนอนเอฟ 1 หลอด 1 ml. ประกอบด้วยตัวยา Progesterone 50 mg. และ Estradiol Benzoate 5 mg.

สำหรับยาฉีดหลักๆจะฉีดได้ตามนี้ค่ะ

สูตรที่ 1. โปรกีนอน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน (เรียก 1 คู่) ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่ค่ะ)
สูตรที่ 2. เอสตร้า + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน (เรียก 1 คู่) ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละคู่ค่ะ)
สูตรที่ 3. ดูโอโทน (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 4. ฟีโนกีนอนเอฟ (ฉีดอาทิตย์ละครั้งๆละ 1-2 หลอด หรือทุกๆ 4-6 วันครั้งๆละ 1-2 หลอด หากต้องการฉีด 2 หลอด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 5. เอสตร้า + ดูโอโทน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 6. เอสตร้า + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 7. ดูโอโทน + ฟีโนกีนอนเอฟ (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 8. ดูโอโทน + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)
สูตรที่ 9. ฟีโนกีนอนเอฟ + โปรลูตอน (อย่างละหลอดผสมกัน ฉีดอาทิตย์ละครั้ง หรือตามแพทย์ประเมินค่ะ)

ปล.กรณีฉีด 4-6 วันครั้ง ควรให้แพทย์ประเมินนะคะ เพราะหากแมนมาก half life ของยาก็สลายได้เร็วค่ะ

(แบ่งสูตรฉีดออกเป็น 3 สูตร คือ ซ้ำ/สลับ/เสริม ไม่มีเหตุอันจำเป็นไม่แนะนำสลับ หรือ เสริมค่ะ)

คนที่ฉีดแล้วแพ้ คัน ผื่นขึ้น มึน เวียนหัว วิงเวียน คลื่นไส้ อวบอ้วนขึ้น คล้ำขึ้นก็มีนะคะ ฯลฯ ค่อยๆประเมินดูไปนะคะ แล้วค่อยๆปรับค่ะ

กรณีทั้งฉีดและทานด้วยต้องประเมินผลข้างเคียงด้วยนะคะ หลากหลายเคมี บางท่านเพลีย อวบอ้วนขึ้น บวม หน้ามืดวิงเวียน คล้ำขึ้น ผมร่วงได้ ฯลฯ

สามารถทานยาเสริมร่วมด้วยได้ค่ะ แต่ต้องให้พี่หมวยประเมินเป็นรายๆก่อนค่ะ ว่าเสริมตัวไหน เพราะหลายตัวจะไม่จำเป็นต้องทานเสริมแล้วค่ะ เพราะหากฮอร์โมนสูงจะมีความเสี่ยงตามมามากค่ะ แต่อย่างไรก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจระดับฮอร์โมนเพื่อรู้ระดับของเราที่แท้จริงเพื่อที่จะได้ปรับยาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำดีกว่าค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป ไม่ให้ฮอร์โมนผิดเพี้ยน ฮอร์โมนแกว่ง เกิดภาวะต่างๆ ฯลฯ เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง และควรตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ

กรณีฉีดแล้วทานด้วย จะแยกออกมาเป็นสูตรต่างๆออกมาเยอะมากๆ ในบางท่าน อาจจะประเมินให้ฉีด 2 อาทิตย์ครั้ง ต้องประเมินเป็นคนๆไปค่ะ ตามระดับ ปริมาณการเทค ร่างกาย ค่า BMI ระดับฮอร์โมนเพศ รวมไปถึงปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงต้องไม่มีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค ฯลฯ และต้องมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ แม้หลายๆสูตรจะเทคซ้ำซ้อนได้ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าจะได้ผลดีกับทุกคนเสมอไป และมีผลเสียเช่นกันค่ะ ไม่ควรเทคหลากหลายตัว ใช้ยาเยอะ จะมีความเสี่ยงมาก ไม่ว่าจะเรื่องไขมัน หลอดเลือดอุดตัน ฯลฯ เป็นความรู้ที่น้องๆต้องรู้และศึกษาเอาไว้ให้มากๆค่ะ 
และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

ทั้งสูตรทานและสูตรฉีด หรือใช้ร่วมกัน ทุกๆ 4-6 เดือน พักตับ 2-4 อาทิตย์ค่ะ แล้วแต่กรณีๆไปค่ะ เพราะต้องประเมินว่าเทคอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ เทคหลากหลายไหม เทคเยอะไหม เทคสูงๆไหม ฉีดหรือทานหรือทั้งฉีดทั้งทานรวมฤทธิ์กันเยอะไหม และมีวิตามิน อาหารเสริมอะไรอีกไหม อายุ วัยของผู้เทคยา แล้วการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ ร่างกาย กรรมพันธุ์ การตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนสูงด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

และท้ายสุดนี้ พี่หมวยอยากแนะนำว่า "อย่าไปฉีดค่ะ ไม่ฉีดดีที่สุดค่ะ"

 

เริ่มต้นฉีดฮอร์โมนยังไง ?

How to begin inject the hormone ?

 

ในการเริ่มต้นฉีดฮอร์โมนนั้น

1. ให้เราหาคลินิกที่รับฉีดให้เราก่อนนะคะ เป็นคลินิกทั่วไป หรือที่มีบอกว่าวางแผนครอบครัว หรือสูติฯ หรือนามัยก็ได้ค่ะ ฯลฯ แจ้งว่าเป็นฮอร์โมนเพศหญิง เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน ผ่านทะเบียนยา (ถ้าพยาบาลถาม) บางที่อาจจะไม่รับฉีดฮอร์โมนเพศหญิงให้เพศชาย อย่างไรน้องๆก็ค่อยๆหาไปนะคะ

2. เลือกฮอร์โมนที่จะนำไปฉีดค่ะ (หลักๆเราจะฉีดอาทิตย์ละครั้ง)
3. พยาบาลจะฉีดให้เราเข้าที่กล้ามเนื้อเช่น สะโพก เป็นต้น ค่อยๆเดินยาไล่ยาไปนะคะ (ห้ามแอบฉีดเองหรือฉีดเข้าเส้นเลือดเด็ดขาดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยนะคะ)
4. หลังฉีดเสร็จให้นวดคลึงเบาๆที่สะโพก ประมาณ 2-3 นาที เพื่อไล่ยาให้กระจาย แตกตัว ยาฮอร์โมนในสารละลายน้ำมันจะดูดซึมช้า ร่างกายแต่ละท่านมีการดูดซึมและตอบสนองไม่เหมือนกัน อาจจะทำให้เป็นก้อนได้ ซึ่งเป็นผลจากการฉีดยาตื้นเกินไปเข้าในชั้นใต้ผิวหนัง หรือเกิดจากการฉีดยาจำนวนมากเข้าในกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็ก หลังฉีดพยายามนวดคลึงเบาๆนะคะ และไม่ควรเดินยาเร็วเกินไปค่ะ
5. เริ่มต้นฉีดครั้งแรกให้ฉีดอาทิตย์ละครั้ง 4 เดือนติดต่อกันค่ะ และพักตับพักร่างกาย 2-4 อาทิตย์ การพักขึ้นอยู่กับการเทคเยอะ เทคหลากหลาย เทคสูงๆ อายุ วัยของผู้ใช้ยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ เพื่อประเมินและอาจปรับสูตรต่อไปค่ะ
6. ฉีดอาทิตย์ต่อไปให้สลับข้างฉีดค่ะ เช่น อาทิตย์นี้ฉีดเข้าที่สะโพกขวา อาทิตย์ต่อไปให้ฉีดเข้าที่สะโพกซ้ายค่ะ
7. เก็บยาไว้ในอุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา ไม่แช่ตู้เย็นนะคะ และพ้นแสงแดดค่ะ การแช่เย็นจะทำให้ยาเกิดตะกอน ตกผลึกออกมาได้นะคะ และมันอาจเกิดการแยกตัวของไขมันที่ผสมอยู่ในตำรับยาได้ค่ะ
8. ไปตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป อันตรายมากนะคะ
9. 
ควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

การฉีดฮอร์โมนแบบ ซ้ำ สลับ เสริม ฉีดอย่างไร ?

 

พี่หมวยจะแนะนำคร่าวๆพอ ไม่ลงรายละเอียดมากนะคะ แต่ให้น้องๆรู้ไว้เป็นความรู้ที่ควรรู้ แต่ไม่ให้นำไปคิดค้นดัดแปลงต่างๆด้วยตัวเอง เพราะยาพวกนี้เป็นยาที่อันตรายมาก ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน และต้องใช้ฮอร์โมนอย่างผู้รู้ค่ะ

การฉีดสูตร "ซ้ำ" นั้น พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองก็ฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน ฉีดแบบนี้ไปเรื่อยๆ ซ้ำๆแบบนี้ไปเรื่อย ฉีดอาทิตย์ละครั้ง อันนี้ถือว่าโอเคค่ะ (ถ้าจะฉีดสูตรนี้พี่หมวยก็โอเคค่ะ แต่อย่างไรไม่แนะนำให้ฉีดจะดีที่สุดค่ะ)

การฉีดสูตร "สลับ" พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น อาทิตย์แรกเราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน อาทิตย์ที่สองฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สาม เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาอาทิตย์ที่สี่ เราฉีด เอสตร้า + โปรลูตอน ฉีดสลับกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ (สูตรนี้เป็นสูตรเก่าแก่โบราณที่รุ่นแม่ๆเคยใช้กัน พี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การฉีดสูตร "เสริม" ให้เรานับ 1 เดือนเป็น 2 รอบ รอบละ 15 วัน พี่หมวยจะยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน พอมาวันที่ 5หรือ6. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 10. เราฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 15. เราฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอน เรียกว่า 1 รอบนั่นเอง (นั่นก็คือเสริมเอสตร้า 1 หลอดทุกๆ 4-5 วันค่ะ ใน 1 รอบ) จากนั้นพอมาวันที่ 20. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 25. ฉีดเอสตร้า 1 หลอด พอมาวันที่ 30หรือ31 ก็วนหลับมาฉีด โปรกีนอน + โปรลูตอนค่ะ (สูตรนี้เป็นสูตรเก่าแก่โบราณที่รุ่นแม่ๆเคยใช้กัน พี่หมวยไม่แนะนำค่ะ)

การวนแบบนี้เพราะ half life ของโปรลูตอนนั้นจะอยู่ได้ราวๆ 7-10 วันค่ะ (7.8 +-3) ขึ้นอยู่กับร่างกายของเราด้วยค่ะ เพราะบางคนแมนมาก half life ของยาก็สลายไปได้เร็วค่ะ แต่บางเคสฤทธิ์ยาก็อยู่ได้ 2 อาทิตย์ค่ะ

การเทคสูตรเสริม 1 รอบนั้น ไม่ทุกคนใช้ได้แล้วให้ผลดีค่ะ แตกต่างไปตามร่างกาย ความแมน ระดับฮอร์โมน และการตอบสนองของเรา ว่าเด่นชัดกับกลุ่มไหน เราใช้เพื่อให้ตอบโจทย์เรามากที่สุดค่ะ จึงเอาเข้ามาใช้ทด(เสริมเข้ามาแทรก)ในช่วงนั้นๆ

จริงๆแล้วหากน้องๆได้รู้อย่างนี้แล้ว หลายๆคนก็จะเริ่มแตกแขนงสูตรต่างๆออกไปอีกมากมาย ซึ่งพี่หมวยไม่แนะนำอย่างยิ่ง ให้ฉีดมั่วๆ คิดค้นประดิษฐ์สูตรขึ้นมาเอง แต่ให้เรียนรู้ไว้ เราต้องเป็นผู้รู้ และเมื่อเป็นผู้รู้แล้วก็ต้องตระหนักให้มาก และนำไปสอนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆต่อไป และให้ตระหนักรู้ถึง 3 พึง คือ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาด้วยเช่นกัน และการฉีดฮอร์โมนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนด้วยนะคะ และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

และท้ายสุดนี้ พี่หมวยอยากแนะนำว่า "อย่าไปฉีดค่ะ ไม่ฉีดดีที่สุดค่ะ"

 

ข้อห้ามของผู้ที่จะเทคฮอร์โมน มีอะไรบ้าง ?

 

ก่อนใช้ยานั้นมีข้อแนะนำก่อนนะคะ

- ตรวจวัดระดับฮอร์โมน
- ตรวจเต้านมเป็นระยะๆ
- ตรวจร่างกายเป็นระยะๆ
- มีประวัติอาการคันรุนแรง
- มีประวัติมะเร็งของสมาชิกในครอบครัว
- อยู่ในความควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิด หากมีภาวะหรือโรคประจำตัวอื่น เช่น อ้วนมาก เบาหวานรุนแรง ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม ตับผิดปกติ ลมชัก หอบหืด มีผื่น แพ้ภูมิตัวเอง เนื้องอก เนื้องอกของต่อมใต้สมอง โรคทางพันธุกรรม ความผิดปกติของหู ตา


สำหรับสาวประเภทสองนั้นจะมีข้อห้ามใช้โดยเด็ดขาด เพราะยาจะเพิ่มโอกาสเกิดอาการต่างๆและ/หรือเพิ่มความรุนแรงของอาการคือ


- ประวัติการแพ้ยาฮอร์โมน
- ประวัติโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น โรคลิ่มเลือดอุดตัน (ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ)
- ประวัติโรคหลอดเลือดผิดปกติ เช่น โรคหลอดเลือดดำอักเสบ
- กำลังเป็นโรคที่เกิดจากการอุดตันของลิ่มเลือด (หลอดเลือดดำอุดตันจากลิ่มเลือด เส้นเลือดในปอดอุดตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองอุดตัน)
- โรคปวดศีรษะไมเกรน (โรคไมเกรน) ชนิดรุนแรง
- โรคหัวใจบางชนิด เช่น โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ โรคหลอดเลือดหัวใจ
- โรคตับบางชนิด เช่น เช่น โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ
- มีภาวะดีซ่าน
- มีเนื้องอก
- โรคมะเร็งเต้านม และ โรคมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์บางชนิด
- แพ้ส่วนผสมใดๆ ในยานั้นๆ

ข้อห้ามทั่วไป ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา คือ

- ปวดศีรษะไมเกรน (โรคไมเกรน) ชนิดมีอาการไม่มาก
- โรคความดันโลหิตสูงทั่วไป
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจอื่นๆนอกเหนือจากที่กล่าวแล้วในหัวข้อบน
- โรคไต
- โรคไขมันในเลือดสูง
- สูบบุหรี่
- เคยมีประวัติถุงน้ำดีอักเสบ
- มีเลือดอุดตันหรือเคยมี
- มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (เช่นโปรตีน C, โปรตีน S หรือการขาด antithrombin)
- มีเส้นเลือดขอด หรือ หลอดเลือดขอดมาก
- มีอาการปวดที่น่องและขาบวม
- เพิ่งทุเลาจากเส้นเลือดดำอักเสบ และมีก้อนเลือดอุดตันภายใน หรือเพิ่งทุเลาจากเส้นเลือดในปอดอุดตัน
- มีปัญหาทางจิต (โรคจิต) เช่น โรคซึมเศร้า โรคประสาท

 

ข้อเสียของการเทคฮอร์โมน (ทั้งแบบฉีดและทาน)

Disadvatanges of taking hormones.

 

สำหรับการทานฮอร์โมน หรือฉีดฮอร์โมน การตอบสนองของแต่ละคนในด้านลบนั้นจะไม่เหมือนกันทั้งหมด โดยหลักๆแล้ว

1. เสียงแหบ เกิดจากการเทคยาที่มีตัวต้านฮอร์โมนเพศชาย รวมไปถึงเสริมฮอร์โมนเพศหญิงร่วม ภาวะความเป็นชายจะถูกทำลายลงไปเสียงที่เคยใหญ่ แมน หนา ก็จะสอดคล้องไปกับฮอร์โมนในร่างกายที่ถูกกดด้วย แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนเสียงได้ แต่ก็จะทำให้แหบลง บางคนแหบลงมาก บางคนก็นิดๆหน่อยๆ แม้การเทคฮอร์โมนจะแลดูเหมือนบังคับองค์รวมให้เป็นหญิงแต่ก็ยังคงเสียงความเป็นชาย ซึ่งต้องดัด หรือบีบเสียงช่วย ซึ่งหลายๆคนเวลาดัดเสียงก็จะออกไปทางเสียงผู้หญิง หรือเสียงผู้หญิงแหบๆ แต่ถ้าไม่ดัดบางคนเสียงก็ยังจะใหญ่ แมน หนาแต่ก็แลดูแหบๆนิดๆได้ เหมือนเช่นเดียวกับกรณีทอมเทคฮอร์โมนเพศชายเสียงก็จะห้าวขึ้น ใหญ่ หนาขึ้น

2.
 การฉีดฮอร์โมนมักจะให้ระดับฮอร์โมนไม่คงที่ ขึ้นๆลงๆ บางทีก็ขึ้นสูง บางทีก็ลงต่ำ ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจและประคองฮอร์โมนให้คงที่ ให้เหมาะกับเรา และไม่อยู่ในระดับที่สูงเกินไป ต่ำเกินไปค่ะ ตามเกณฑ์ของค่าระดับฮอร์โมนนั้นๆ เทคให้พอดีค่ะ ไม่ควรมากไป ไม่ควรน้อยไป อันจะส่งผลต่ออารมณ์ และอื่นๆ ซึ่งควรมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนค่ะ

3. สิว ฝ้า การเทคยาฮอร์โมนนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย รวมไปถึงความสกปรก และปัจจัยของยาฮอร์โมนด้วย ก็จะทำให้เกิดสิวขึ้นได้ และการเทคฮอร์โมนมีโอกาสทำให้เกิดฝ้าด้วยเช่นกันค่ะ ผิวจะไวต่อแสงแดด ชั้นผิวบางลง พยายามเลี่ยงแดด พยายามดูแลผิวหน้าและป้องกันด้วยนะคะ หรือทานแอลดีบี ละมุนนี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระเรื่อง ฝ้า กระ หลายๆท่านที่ทานพบว่าดีขึ้นมาก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้เช่นกันค่ะ

4. น้ำหนักตัว เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกายแล้ว ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม ล้วนส่งผลต่อน้ำหนักได้ เพราะกลไกการเปลี่ยนกล้ามเนื้อเป็นไขมัน รวมทั้งจากตัวฮอร์โมนเพศหญิง การลดการเผาผลาญ การกักเก็บไขมัน ภาวะการหิวบ่อย หิวง่าย ทานจุกทานจิก รวมไปถึงท้องผูกตามมาได้

5. อ่อนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกาย ตัวที่ต้านฮอร์โมนเพศชาย ภาวะของมวลกล้ามเนื้อจะลดและสลายลง เมื่อกล้ามเนื้อค่อยๆสลายเป็นไขมัน เราก็จะละมุนละไมมากขึ้น และนั่นเอง เพื่อตอบสนองให้เป็นหญิงมากยิ่งขึ้น ก็จะส่งผลให้เราอ่อนแรงลงด้วย เกิดการสะสมของไขมัน ลดการเผาผลาญ แล้วก็อยากอาหารขึ้น แล้วก็จะเพลียง่าย เหนื่อยง่าย ง่วงนอนตลอดเวลา ไม่สดชื่น และอีกทั้งจากกล้ามเนื้อยังส่งผลถึงกระดูก ทำให้ปวดเมื่อย ปวดตัว และเริ่มหนักขึ้นหากมีเสียงดังตามข้อกระดูกต่างๆ ฯลฯ

6. อารมณ์ เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง และผลข้างเคียงของตัวยา เมื่อเรากดฮอร์โมนเพศชายของตัวเองและเสริมฮอร์โมนเพศหญิงแล้วนั้น จะส่งผลให้เรามีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง บางคนหงุดหงิดง่าย โมโหง่าย อารมณ์ขึ้นๆลงๆ จนกลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน คิดมาก หรือไปจนถึงขั้น วิตก หดหู่ คิดแต่แง่ลบ หวาดระแวง ซึมเศร้า ฯลฯ พยายามควบคุมตัวเอง อะไรที่ละได้ก็ละค่ะ เดินทางสายกลาง ทำใจให้สบาย และเทคยาให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ เทคยาอย่างมีความสุข ค่อยๆแก้ไป "เรียนรู้ เข้าใจ และเอาชนะมันค่ะ"

7. อารมณ์ทางเพศลดลง ยาฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย หรือแม้แต่ในตัวของยาฮอร์โมนเพศหญิงเองเช่นกัน เมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกกดหรือทำลาย อารมณ์ทางเพศก็จะลดลงไปด้วย มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความแมนของแต่ละบุคคล สภาพความแข็งแรงของแต่ละบุคคล การตอบสนอง ปริมาณที่รับยา รวมไปถึงการใช้ชีวิตกระจำวันเช่นกันค่ะ ฯลฯ

8. สมาธิและความจำ การเทคฮอร์โมน หรือในยาบางตัว โอกาสที่จะทำให้เรามีสมาธิที่สั้นลงนั้นมีสูงค่ะ ระยะยาวมีโอกาสที่จะส่งผลให้ลืมง่าย ความจำสั้นลง หรือขี้หลงขี้ลืมก่อนวัย และพบได้มาก เช่น ใจลอย นั่งเหม่อลอย ทำให้ส่งผลต่อการเรียนหรือการอ่านที่เข้าใจได้ยากกว่าคนปกติ และยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงอารมณ์ด้วยค่ะ ซึ่งอาจจะรุนแรงไปถึงขั้นรู้สึกหดหู่ ก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง ฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด คิดเยอะคิดแยะ คิดมาก คิดแต่แง่ลบ หวาดกลัว หวาดระแวง อันจะส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วยเช่นกัน น้องๆต้องเรียนรู้ เข้าใจ และเอาชนะมันนะคะ ทุกคนเก่งค่ะ เทคฮอร์โมนอย่างผู้รู้นะคะ

9. ท้องผูก การเทคฮอร์โมนไม่ว่าจะยาคุม ยาฮอร์โมนสังเคราะห์ต่างๆ ฯลฯ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เราท้องผูกได้ วิธีแก้นั้นอ่านเพิ่มเติมที่คำถาม "แปลงเพศแล้วท้องผูกต้องทำอย่างไร" พี่หมวยจะสอนรวมกันไว้ในคำถามนี้ค่ะ

10. ผิว เมื่อเรานำฮอร์โมนเข้าร่างกายแล้ว ผิวเราจะสวยขึ้น ผ่องขึ้น เนียนนวลขึ้น ละเอียดขึ้นได้ แต่ชั้นผิวเราจะบางลง ส่งผลให้เราแพ้ง่ายขึ้น คล้ำง่ายขึ้น มีอาการอื่นๆตามมา เลี่ยงแสงแดด และหมั่นดูแลสุขภาพผิวค่ะ

11. ผมร่วง ร่างกายการตอบสนองแต่ละคนแตกต่างกัน การใช้ยาต่างๆ ยาบางตัวต่อร่างกายเรา หรือเทคร่วมกันกับบางตัว หรือระดับฮอร์โมนขึ้นๆลงๆ พบว่าหลายๆท่านผมร่วงได้

12. ภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันลดลง อ่อนแอง่าย การเทคฮอร์โมนต่อเนื่องในระยะยาว โอกาสที่เราจะเป็นภูมิแพ้ง่าย และภูมิคุ้มกันลดลง เราจะอ่อนแอง่าย พยายามดูแลสุขภาพตัวเอง หมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี และมีประโยชน์ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ

13. เสี่ยงต่อโรคร้ายแรงต่างๆตามมา ทั้งเกิดจากการเทคเยอะและเทคผิด ไปจนถึงเทคตัว EE มานาน มาเยอะ เทคผิดๆ อาทิ กระดูก เนื้องอก ตับ ความดัน ไขมัน เบาหวาน หัวใจ เส้นเลือดขอด เส้นเลือดอุดตัน เส้นเลือดดำอุดตัน และหากไปอุดตันที่สมอง หลอดเลือดหัวใจ ก็จะอันตรายมาก ฯลฯ ไปจนถึงมะเร็ง การเทคฮอร์โมนมีโอกาสค่ะ หากเทคมาก เทคแรง เทคปริมาณที่สูง และติดต่อเป็นเวลานาน รวมไปถึงมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆเสริมเข้ามาร่วมด้วย มีโอกาสกระตุ้นได้เร็วค่ะ

13.1 การเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้

13.2 การเทคฮอร์โมนสูงๆ ต่อเนื่อง (และหากดื่มน้ำน้อยด้วย) จะทำให้หลอดเลือดผิดปกติ เลือดข้น ความดันสูงขึ้น กรณีเป็นความดันนี้จะไม่สามารถเทคฮอร์โมนต่อได้ และต้องทานยาความดันไปตลอดชีวิต

13.3 เตือนเลยนะคะ หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

13.4 บางคนกินยาเคมีมากเกินไปจนบางครั้งคอเลสเตอรอลสูงขึ้น จนทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน และเลยเถิดไปถึงการเป็นลิ่มเลือด ถ้าเป็นหลอดเลือดอุดตันจะเทคตยาต่อไปไม่ได้อีกเลยนะคะ

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

อย่างไรยาฉีดพี่จะเตือนนะคะ ยาฉีดค่อนข้างอันตราย มีโอกาสเสี่ยงโรคหลอดเลือด เส้นเลือด ลิ่มเลือดอุดตัน ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เกิดจากหลากหลายปัจจัย และมีโอกาสเสี่ยงมะเร็งได้ คุณหมอหลายท่านไม่แนะนำค่ะ พี่จะเตือนไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่พี่หมวยทำได้ คือต้องให้ความรู้ แนะนำ ตักเตือน เราต้องรับรู้และระวังไว้นะคะ

หากเทคฮอร์โมนเยอะๆ ทำให้ระดับฮอร์โมนสูงเกินปกติ เลือดหนืด จะเป็นอันตรายอย่างมากค่ะ

การใช้ยาฉีดยาจะเข้ากระแสเลือดได้ไวกว่ายากิน หากมีอาการแพ้ การแสดงอาการจะไวกว่าด้วย

แต่ยากินก็มีโอกาสทำให้เส้นเลือดอุดตันได้เช่นกัน ยากินสารตั้งต้นคือคอเลสเตอรอล ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง ก็เกิดเส้นเลือดอุดตันได้ ฉลากยาก็เขียนไว้ คนกินยามีหน้าที่รับรู้และระวังค่ะ

และควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

 

พึงรู้ พึงพอ พึงรักษา เป็นอย่างไร ?

Must know, understand and treat before&after taking hormones.

 

 

เมื่อคิดจะเริ่มเทคฮอร์โมนน้องๆควรต้องมี 3 พึง คือ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ

พึงรู้ = เราต้องรู้ว่าเรากำลังเทคอะไร ยาชื่อว่าอะไร มีหน้าที่อะไร ต้องเทคอย่างไร ข้อดีข้อเสียมีอย่างไร รู้ข้อห้ามของยาและผู้ที่ห้ามใช้ยามีอย่างไร ผลข้างเคียงมีอย่างไร เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง 
บางคนยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าเทคอะไร หรือเทคตามเขา เห็นเพื่อนเทคตัวนั้นตัวนี้ สวยขึ้น หน้าอกใหญ่ ผิวมา สะโพกมา หน้าตาหวานละมุนละไมขึ้น ไม่ได้แปลว่าเราจะได้เหมือนเขา เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจให้มาก และเทคให้ถูกต้อง ให้เป็น อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างพอดี พอใจเท่าที่ได้ค่ะ

พึงพอ = พอใจเท่าที่ได้ พอใจเท่าที่มี เทคอย่างพอดี รู้จักพอ และรู้จักแก้ไขให้ถูกต้อง เทคให้ถูกต้องในปริมาณที่ถูกต้อง ไม่ควรเทคมั่วไปหมด เทคเยอะ เทคหลากหลาย ซ้ำซ้อน อย่างไม่มีความรู้ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคให้พอดีค่ะ และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ คำว่า “พอ” มักจะเดินสวนทางกับน้องๆเสมอ เพราะมัวแต่คิดว่า ต้องเร็ว ต้องแรง ต้องสวยที่สุด ต้องเยอะ ต้องอย่าหยุดสวย เปลี่ยนสูตรเป็นว่าเล่น เทคมั่วไปหมด ทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลย และจะมีอันตรายตามมาด้วย เทคให้พอดี พอใจเท่าที่ได้ไปตามกาลเวลาค่ะ แค่นี้ก็สวยได้ และต้องสวยอย่างสุขภาพดี สวยอย่างผู้มีความรู้ และให้พอใจเท่าที่ได้ ไม่ต้องสวยเหมือนใคร หรือสวยกว่าใคร สวยในแบบตัวของเราค่ะ และรู้จักแก้ไขให้ถูกต้องค่ะ

พึงรักษา = การเทคยาต่างๆ มีอันตรายมีผลข้างเคียง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เราต้องรู้และเข้าใจจุดนี้ เทคยาให้ถึงวันข้างหน้า คิดถึงตอนที่เราแก่ตัวไป สุขภาพของเรา ผลข้างเคียงระยะยาวของการเทคยา ผลเสียมีเยอะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ 
อย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคยาอย่างมีความสุข เทควันนี้แล้วต้องห่วงถึงวันข้างหน้า คิดถึงวันที่เราแก่ตัวไปด้วยนะคะ แล้วดูแลสุขภาพตัวเองให้มากๆค่ะ  รวมไปถึงหากเทคเยอะๆควรพักตับด้วยค่ะ ตามการเทคหลากหลายของการเทค ในหลายๆกรณีน้องๆสาวประเภทสองจะต้องใช้ยาในระดับที่สูงในการข้ามเพศ น้องๆกลัวเสมอ บ้างก็กลัวว่าพักตับแล้วกลับมาเทคจะไม่เหมือนเดิมบ้าง หยุดยาแล้วจะกลายร่างบ้าง มันไม่ใช่เรื่องเลยนะคะ เราควรพักบ้างช่วงสั้นๆ ร่างกายเราก็เหนื่อยล้าเป็นนะคะ คืนธรรมชาติให้ตัวเองบ้างนะคะ ขอเพียงเทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เราเทคยาตามลำดับขั้นตอนมาแล้ว ถึงเวลาเราควรพักร่างกาย พักจากสารเคมีทั้งหลายด้วยนะคะ อันตรายระยะยาวสะสมมันมีมากนะคะ (อ่านเพิ่มเติมสาเหตุและรายละเอียดเรื่องการพักตับค่ะ) สวยแล้ว สุขภาพต้องดีด้วย หมั่นรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเสมอๆ ทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ คืนธรรมชาติให้กับตัวเองบ้าง เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมน มิใช่ฮอร์โมนใช้เราค่ะ เพราะฉะนั้นต้องรู้จักกลับคืนสู่ธรรมชาติ ให้ร่างกายได้พักบ้าง เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างผู้รู้ พอใจเท่าที่ได้ ควบคุมอารมณ์ ออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง นอกจากสวยแล้วสุขภาพก็ดีด้วยค่ะ สวยแล้วสุขภาพต้องแข็งแรงด้วยนะคะ แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจค่ะ มีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน และอย่าลืมตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

เพราะฉะนั้น เทคให้ถูกต้อง เทคให้เป็น เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ค่ะ และไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทคค่ะ ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา ข้อเสียและอันตรายของการเทคฮอร์โมนด้วยนะคะ รวมถึงต้องมีการไปตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องเหมาะกับเราที่สุด จะได้รู้ทัน และตรวจสุขภาพปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วยนะคะ สวยแล้วสุขภาพต้องดีด้วยนะคะ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

 

ข้อเสียของยาแอนโดรคัวร์ มีอะไรบ้าง ?

 

แอนโดรคัวร์ เป็นยาต้านฮอร์โมนเพศชาย ยับยั้งเอนไซม์ทั้งหมดอันเกิดจากฮอร์โมนเพศชาย ลดกล้าม ลดขน ลดสิว ผิวมัน หน้ามัน ภาวะต่างๆอันเกิดจากฮอร์โมนแอนโดรเจน เมื่อกล้ามลดก็จะช่วยให้แลดูซอฟขึ้นแต่ก็ขึ้นอยู่กับวัย ระดับการเทค การตอบสนอง DNA กรรมพันธุ์ ระดับฮอร์โมนและฐานฮอร์โมนเพศของแต่ละคน ฯลฯ การเทคนั้น ต้องเป็นไปตามค่า BMI และปัจจัยต่างๆอันไม่ควรเทค เช่น เรียนหนัก อ่อนแอง่าย ปวดหัว ปวดกระดูก ปวดตัว ฯลฯ ห้ามเทคแรงๆนะคะ ส่วนผู้ที่ควรพบแพทย์ก่อนเทค เช่น ผู้ที่เป็นโรคตับ เนื้องอกที่ตับ ผู้ที่มีภาวะเลือดจับตัวเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย ผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า เบาหวาน เป็นต้น

ผลข้างเคียงทำให้เสียงแหบ อ่อนแรง อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอดเวลา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากเรียนหนัก เครียด พักผ่อนน้อยจะทำให้เบลอ มึน งง ได้ เจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ขี้หงุดหงิด อารมณ์หงุดหงิดง่าย เหวี่ยงวีนง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวน เปลี่ยนแปลงไว ขึ้นไวลงไว โกรธง่ายหายเร็ว คิดมาก คิดเยอะ ซึม เศร้า ร้องไห้ คิดแต่แง่ลบ หดหู่ ขี้น้อยใจ ฯลฯ รวมไปถึงผมร่วงในระยะแรก ผิวไวต่อแสงแดด สมาธิสั้น เหนื่อยง่าย ง่วงนอนง่าย ไม่สดชื่น คิดนั่นคิดนี่ เหม่อลอย ในระยะยาวอาจจะความจำสั้น ขี้หลงขี้ลืมก่อนวัยได้ค่ะ หากเทคเยอะ เทคนาน เทคผิดๆ ก็จะเสี่ยงต่อตับสูงด้วย และที่สำคัญเมื่อฮอร์โมนเพศชายถูกทำลายงูก็ตายได้ค่ะ ความต้องการทางเพศลดลง มากน้อยแล้วแต่ปริมาณยา ระดับฮอร์โมนเพศ ความแมนแต่ละคนๆไป มีโอกาสที่จะมีขนาดหน้าอกเพิ่มขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ในหลายๆท่านมีการเจริญเติบโตของเส้นผมเพิ่มขึ้น ผมดกและหนาขึ้น ฯลฯ และยังมีโอกาสทำให้มีบุตรยากจนถึงมีโอกาสเป็นหมันได้ค่ะ

แอนโดรคัวร์เป็นสารกลุ่มสเตียรอยด์มีฤทธิ์ทำลายตับ ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ และทำให้เลือดข้น เกิดลิ่มเลือด มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ตับทำงานหนัก ตับอักเสบ มะเร็งตับ เลือดออกในทางเดินอาหาร ฯลฯ และนอกจากนี้แอนโดรคัวร์เป็นอนุพันธ์ของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน อาจส่งผลให้เกิดอารมณ์ซึมเศร้า หรือแปรปรวนง่าย ทำให้มีภาวะอารมณ์หลากหลาย คิดมากคิดเยอะ คิดแต่ในแง่ลบ หวาดระแวง ก็จะส่งผลและมีโอกาสทำให้เราเป็นโรคซึมเศร้าได้ และการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกพรุน เป็นต้น อาการข้างเคียงรุนแรงที่สามารถพบได้ ได้แก่ เกิดพิษต่อตับ เกิดเนื้องอกหรือมะเร็งที่ตับ เลือดไหลในทางเดินอาหาร และเกิดภาวะก้อนเลือดอุดตันภายในหลอดเลือด เป็นต้นค่ะ

ปล. การใช้ฮอร์โมน น้องๆต้องพบแพทย์ ปรึกษาเภสัชกรนะคะ พี่หมวยให้คำแนะนำเบื้องต้น เป็นการส่งต่อความรู้ ตักเตือนไม่ให้ใช้กันผิดๆ เสมือนพี่สาวสอนน้องสาว อย่างไรหนูต้องพบแพทย์ ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ

 

1. ศึกษาข้อดี ข้อเสีย ข้อห้าม ข้อระวัง ผลข้างเคียง อันตรายของยา ทั้งยาเคมีและยาสมุนไพร ทั้งแบบฉีดและทาน หรือทั้งฉีดและทาน และอื่นๆ

2. เลือกสูตรที่เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เรา ไม่ควรมีภาวะและปัจจัยอันไม่ควรเทคและห้ามเทค

3. เทคให้เป็น เทคให้ถูกต้อง เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างระวัง เทคอย่างพอดี เทคอย่างมีความสุข และพอใจเท่าที่ได้

4. การตอบสนองแล้วแต่คน ร่างกาย ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI ตัวยา ปริมาณยา อายุ การดูดซึม กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ ไปตามกาลเวลาค่ะ

5. พักตับ พักร่างกาย คืนธรรมชาติให้ตัวเอง ประเมินการพักตับตามความหลากหลายของการเทคยา เทคหลากหลาย เทคเยอะ เทคสูงๆ หรือทั้งทานทั้งฉีด มีวิตามิน อาหารเสริมใดๆบ้าง อายุ วัยของผู้เทคยา การใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างไร โรคประจำตัว ฯลฯ ต้องนำมาประเมินประกอบการพิจารณาเป็นรายๆไปค่ะ

6. ตรวจวัดระดับฮอร์โมน ไม่ให้ต่ำเกินไปหรือสูงเกินไป เพื่อการใช้ยาที่ถูกต้องแม่นยำเหมาะกับเราที่สุด

7. ตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้ง  เพื่อเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันโรค เพื่อค้นพบโรคต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้

8. พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาค่ะ มีวินัยและรู้จักผ่อนปรน ออกกำลังกาย สร้างภูมิต้านทาน รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ควบคุมอารมณ์ ค่อยๆแก้ไข เรียนรู้และเอาชนะมันค่ะ เราเป็นผู้ใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุขนะคะ และไม่กดดันใดๆค่ะ ต้องเก่งและสตรองค่ะ

--------------------------

การเทคฮอร์โมนนั้น อย่างไรให้แพทย์ประเมินนะคะ อายุ ร่างกาย กรรมพันธุ์ ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ การตอบสนองแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน และเพื่อสมดุลของแต่ละคน เพื่อไม่ให้ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ให้อยู่ในความดูแลของแพทย์จะดีมากค่ะ และควรตรวจวัดระดับฮอร์โมนของเราด้วยค่ะ ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เพื่อค้นพบโรค เฝ้าระวัง เพื่อปรับยาได้อย่างถูกต้อง เหมาะกับเราที่สุด เพราะหากเทคฮอร์โมนผิดๆ สูงๆ แรงๆต่อเนื่องนานๆจะมีอันตรายและความเสี่ยงตามมามากค่ะ เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง อย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ เทคอย่างระวังนะคะ เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุขค่ะ ให้เป็นไปตามกาลเวลานะคะ ตามการตอบสนอง ความแมนของแต่ละคน ค่า BMI กรรมพันธุ์ การตอบสนอง อายุ การดูดซึม ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศ รวมถึงปัจจัยการใช้ชีวิตประจำวันด้วยนะคะ และปัจจัยอื่นๆ ฯลฯ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ

การฉีดหรือทานฮอร์โมนนั้น ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ และมีการตรวจวัดระดับฮอร์โมน เพือปรับยาได้ถูกต้อง และเหมาะกับเราที่สุด เพื่อไม่เป็นการเทคผิดๆ เทคในระดับที่สูงๆ ฮอร์โมนแกว่งเกินไป ฮอร์โมนเพี้ยน และจะส่งผลเสียตามมามากค่ะ รวมถึงโรคร้ายต่างๆตามมาจากการมีฮอร์โมนต่ำเกินไปหรือสูงเกินไปด้วยเช่นกันค่ะ

ผลเสียของการเทคฮอร์โมนเกินขนาดจะทำให้มีภาวะไขมันในเลือดสูงผิดปกติ ตับและไตวายได้ ฯลฯ และที่สำคัญ การฉีดหรือทานฮอร์โมนในขนาดที่ค่อนข้างสูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือดอุดตัน หลอดเลือดดำอักเสบ ลิ่มเลือดอุดตัน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มีโอกาสทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เบาหวาน กระตุ้นให้เกิดโรคลมชัก หรือไมเกรน โรคหัวใจหรือโรคไต รวมถึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ต่างๆ ฯลฯ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นค่ะ

อย่างที่พี่หมวยบอก เราควรพบแพทย์นะคะ เพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน ว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป เป็นเรื่องที่สำคัญมาก วินิจฉัยเคสของเรา ให้แพทย์ดูแลเรื่องการขาดฮอร์โมน การได้รับฮอร์โมนในปริมาณในระดับที่ถูกต้องและเหมาะกับตัวเรา เราจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างเป็นระบบ อย่างถูกต้อง แม่นยำ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรค เฝ้าระวัง และค้นพบโรคที่จะเกิดขึ้นต่างๆได้ รวมไปถึงในผู้สูงอายุได้ตั้งแต่ระยะเริ่มเป็นด้วยนะคะ และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพประจำปี ปีละครั้งหรือสองครั้งด้วยนะคะ

อย่าลืมนะคะ ตามที่พี่หมวยเคยสอนไว้ เลือกสูตรที่ใช่ ที่เหมาะกับเราที่สุด เทคให้เป็น ให้ถูกต้อง เทคอย่างมีวินัย เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ศึกษาข้อดีข้อเสีย อันตรายของยา อันตรายและข้อเสียของการเทคฮอร์โมนที่เว็บพี่หมวยด้วยนะคะ และไม่ควรมีปัจจัยและภาวะอันไม่ควรเทคและห้ามเทคด้วยนะคะ มีการตรวจวัดระดับฮอร์โมนว่าตัวไหนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เทคยาแล้วรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยนะคะ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ใช้ฮอร์โมนอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฮอร์โมนใช้เรา เรียนรู้และเอาชนะมัน มีวินัยและรู้จักผ่อนปรนนะคะ

สูตรการเทคยานั้นมีมากมาย อยู่ที่การปรับใช้ของแต่ละคน ร่างกาย การตอบสนองแตกต่างกัน กรรมพันธุ์ อายุ การดูดซึม ค่า BMI ความแมน ฐานฮอร์โมนเพศ ระดับฮอร์โมนเพศก็แตกต่างกัน ปัจจัยของการใช้ชีวิตประจำวันก็แตกต่างกัน และปัจจัยอื่นๆก็แตกต่างกัน เลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเราที่สุดค่ะ ทั้งแบบฉีดและทาน และการเทคร่วมกัน

การเทคยาให้ถูกต้อง ให้เป็น เทคอย่างผู้รู้ อย่างระวัง เทคอย่างมีวินัย อย่างพอดี และพอใจเท่าที่ได้ เทคอย่างมีความสุข ให้เป็นไปตามกาลเวลา และหากมีการตอบสนองที่ดี มีโอกาสที่จะทำให้เรามีพัฒนาการของหน้าอก ผิวพรรณ รูปร่าง หุ่น สรีระที่ดีขึ้น เป็นรูปเป็นร่าง โค้งเว้า สวยขึ้น รวมทั้งขนที่ดกดำก็แลอ่อนลง แทบไม่ขึ้นเลยในบางราย ผิวหน้าใสขึ้น หน้าตาดูอ่อนหวานขึ้น และอ่อนเยาว์ลงได้ค่ะ อย่างไรต้องอยู่บนพื้นฐานของ พึงรู้ พึงพอ พึงรักษาตามที่พี่หมวยเคยสอนด้วยนะคะ

สุดท้ายนี้ พี่หมวยแนะนำว่า ปัจจุบันน้องๆเข้าถึงยา แอบซื้อ แอบใช้ฮอร์โมนกันเยอะมากๆ และเทคผิดๆโดยไม่มีผู้ปกครองคอยดูแลใกล้ชิด ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมากค่ะ

เราศึกษาจากเว็บไซต์เป็นความรู้ได้ แต่อย่างไรการใช้ฮอร์โมน น้องๆต้องพบแพทย์ ปรึกษาเภสัชกรนะคะ พี่หมวยให้คำแนะนำเบื้องต้น เป็นการส่งต่อความรู้ ตักเตือนไม่ให้ใช้กันผิดๆ เสมือนพี่สาวสอนน้องสาว อย่างไรหนูต้องพบแพทย์ ตรวจวัดระดับฮอร์โมน และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เอาตัวเราเข้าระบบให้ถูกต้องนะคะ